ชอบอ่านหนังสือปรัชญาและศาสนาตั้งแต่เด็ก จำได้ว่าห้องสมุดของโรงเรียนมัธยมตอนต้นนั้น หนังสือทุกเล่มในหมวดศาสนาและปรัชญาจะมีการยืมโดยกานดา
จริง ๆ ทำคะแนนได้ดีทั้งสายศิลป์และสายวิทย์ แต่คุณแม่อยากให้เรียนสายวิทย์ จึงเรียนมาทางสายวิทย์ แต่ถึงกระนั้นตอนสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อสายวิทย์ ก็อาจจะได้วิชาทางสายศิลป์เข้าช่วย จำได้ว่าทำวิชาคณิตศาสตร์ไม่ค่อยได้ แต่วิชาสังคมนั้นทำได้ เขียนคำตอบอธิบายจนหมดเล่ม
เป็นคนชอบอ่านกลอน คำคม สุภาษิตต่าง ๆ แต่แต่งไม่ค่อยเก่ง แต่ก็เคยแต่งบ้าง มีอันหนึ่งที่คุณครูเอาไปแปะที่กระดานด้วยเนื่องในโอกาสวันแม่ ที่แต่งไว้คือ
รอยยิ้มของแม่มีค่ายิ่งนัก รอยรักของแม่ลูกจักมิลืม
นั้นเป็นสิ่งที่รู้สึกจริง ๆ ว่ารอยยิ้มของคุณแม่มีค่ามาก มากเกินกว่าจะตีราคาเป็นเงินทองหรือสิ่งของใด ๆ และความรักของแม่นั้นเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ และรู้สึกว่าโชคดีที่มีแม่
ในโอกาสที่ในหลวงสิริครองราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งในหลวงได้เน้นเศรษฐกิจพอเพียง และการใช้ชีวิตอย่างพอเีพียง ประจวบกับตนเองมีความคิดว่าตนเองควรจะใช้ชีวิตอย่างพอดี จึงได้แต่งคำสั้่น ๆ ว่า
พอเพียง เพียงพอ พอดี ดีพอ
ตนเองก็จะพยายามดำเนินชีวิตอย่าง เพียงพอ และพอดี
ขอบคุณ นางสาว พิไล อุปัญ คุณบวร คุณขจิต และคุณดอกไม้ทะเลค่ะ สำหรับข้อคิดเห็น
กลอนวันนี้ขอเสนอ....
"สอนมากกูเบื่อ
สอนเหลือกูเกียด
สอนละเอียดกูงง
บอกตงๆ กูขี้เกียจเรียน"
"เรียนไปก็ไร้ค่า
ตายห่าก็ลืมหมด
สอบได้เป็นเรื่องตลก
สอบตกเป็นเรื่องธรรมชาติ"
"การบ้านคือยาพิษ
เสาร์-อาทิดคือสวรรค์
วันจันทร์คือนรก
สมุดพกคือวันตาย"
"..ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
..ไม่อ่านหนังสือยัง สอบได้
..กูอ่านแล้วไซร้ สอบตก
..ฉะนั้นไซร้ ...
....อย่าอ่าน แม่งเลย ..."
>ส่งต่อไปอีก 10 คนมิฉะนั้นสอบกี่ทีก้อจะตกตลอดไป หุหุ