ตำบลกลาย:กลายเป็นพื้นที่ปั่นชาวบ้านสร้างงานมวลชน
กลายแผนงานแผน อบต.ให้ไปอยู่ในมือ...ใคร
เรื่อง / ภาพ : เรือนลืมยศถา
ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน ฉบับที่ ๕ พฤษภาคม ๕๓
“สิ่งที่บริษัทเชฟรอนทำสิ่งเดียวเท่านั้นคือมาชวนคนให้เชื่อว่ามันจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีแต่เขาไม่เคยบอกให้เรารู้ว่าเขามาทำอะไร”
น้าแดงเปิดวงต่อเนื่องจากการสนทนาเรื่องอื่นๆ ขึ้นว่า “ช่วงนี้เห็นมีรถวิ่งเข้าไปประชุมชาวบ้าน ติดตราเชฟรอน ไปกันสองคันไม่รู้ว่าพวกไหหล่าวา” สีหน้าท่าทางมีแต่ความกังวลและไม่อยากให้เกิดเรื่องใดๆหรือหน่วยงานใดเข้ามาเพื่อสนับสนุนการสร้างนิคมอุตสาหกรรมอีก
การเข้ามาดำเนินการของบริษัทเชฟรอนสร้างความกังวลให้กับชาวตำบลกลายเป็นอย่างมากจนช่วงนี้ไม่ว่าหน่วยงานไหนเข้ามาชาวบ้านก็จะจับตามองเพราะเกรงว่าจะเข้ามาสนับสนุนการสร้างอุตสาหกรรมน้ำมันของเชฟรอน
“ช่วงนี้เขาเดินเกือบทุกหมู่บ้าน บอกว่ามาทำแผนพัฒนาหมู่บ้าน ชาวบ้านอยากได้อะไรบ้างให้บอกมาจะเอาไปนำเสนอเชฟรอน” ลุงดำที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟัง และยังย้ำให้เห็นว่าตอนที่มีการเปิดเวทีประชุมมีรถของบริษัทเชฟรอนมาจอดอยู่ด้วยแสดงให้เห็นว่าบริษัทเชฟรอนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการในการสร้างความเชื่อให้กับชุมชน
“สิ่งที่บริษัทเชฟรอนทำสิ่งเดียวเท่านั้นคือมาชวนคนให้เชื่อว่ามันจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีแต่มันไม่เคยบอกให้เรารู้ว่ามันมาทำอะไร” เสียงสะท้อนของบังเขียวที่บอกกล่าวพฤติกรรมของเชฟรอนสองปีกว่าที่ผ่านมาว่าไม่เคยจริงใจกับคนกลายเลย สิ่งที่ทำมาเป็นการสร้างภาพยุยงส่งเสริมให้คนแตกแยก
“วันนั้นผมเข้าร่วมประชุมด้วย ผมถามตรงๆว่าคุณมาจากไหน หน่วยงานอะไร แล้วมาทำไหร” พี่ขาว เล่าให้ฟัง หลังจากที่เข้าไปร่วมประชุมกับเวทีของสมาคมพัฒนาประชากร
“เขาก็ตอบว่าเขามาทำให้กับบริษัทเชฟรอน มาทำข้อมูลให้กับบริษัท” ผมก็นั่งฟังจนจบ
หลังจากนั้นสมาคมดังกล่าวก็ตระเวนทำเวทีเกือบทุกหมู่บ้านในตำบลกลาย เพื่อให้ได้ข้อมูลว่าแต่ละหมู่บ้านต้องการทิศทางการพัฒนาในรูปแบบไหน เพื่อจัดทำข้อมูลเสนอบริษัทเชฟรอน ซึ่งชาวบ้านบอกว่าเชฟรอนจะตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อเอาเงินมาให้ชาวบ้าน ซึ่งเป็นการตอกย้ำสิ่งที่เชฟรอนทำมาแบบซ้ำๆคือการใช้เงินแจกชาวบ้านในรูปแบบต่างๆ
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนบอกให้ฟังว่า
“เราเพียงมาทำหน้าที่เก็บข้อมูล ซึ่งเป็นคนละส่วนกับ อีไอเอ เพราะอีไอเอจะมีกระบวนการทำอยู่แล้วต่างหาก ไม่เกี่ยวกับเรา สิ่งที่เราทำคือการรับจ้างบริษัทเชฟรอนมาเก็บข้อมูลทำแผนพัฒนาหมู่บ้าน โดยจะมีการลงทำเวทีทุกหมู่บ้าน จะพาชาวบ้านไปศึกษาดูงาน เมื่อได้ข้อมูลเสร็จแล้วก็จะนำไปให้กับบริษัทเชฟรอน ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับการที่เราจะศึกษาเพื่อนำไปสู่การสร้างท่าเรือหรือไม่ ที่จริงเราสัมพันธ์กับบริษัทเชฟรอนมานาน โดยเชฟรอนให้การสนับสนุนเงินทุนกับสมาคมมานานแล้ว”
เป็นเสียงสะท้อนของเจ้าหน้าที่ของสมาคมพัฒนาประชากรและแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการทำงานของบริษัทเชฟรอนที่มุ่งใช้เงินกับชุมชนท้องถิ่นมากกว่า โดยที่ไม่เคยปรากฏแม้แต่ครั้งเดียวว่าเชฟรอนจัดเวทีชี้แจงข้อมูลกับชาวบ้าน เวทีที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือหลอกให้ชาวบ้านตายใจ
สถานการณ์ของตำบลกลายในขณะนี้จึงเต็มไปด้วยหน่วยงานต่างๆที่ลงไปสู่ชุมชน และพยายามใช้กลวิธีต่างๆที่จะสร้างความเชื่อให้เกิดขึ้นกับชุมชนแม้ว่าหากมองผิวเผินดูเหมือนว่าจะดำเนินตามกระบวนการที่ถูกต้องแต่ลึกๆแล้วล้วนมีวัตถุประสงค์แอบแฝงทั้งสิ้น
ซึ่งในขณะนี้ไม่เฉพาะสมาคมพัฒนาประชากรเท่านั้นที่ลงไปสู่พื้นที่ตำบลกลายแต่ยังมีเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ลงไปสร้างความเชื่อของชุมชนเพื่อชักจูงให้ชุมชนเชื่อว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่มีอันตราย ทำให้ชุมชนตั้งรับกับการชักจูงโดยที่ไม่มีแม้แต่องค์กรเดียวที่ตั้งท่าว่าจะให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างจริงจัง
“ตอนนี้บ้านเรายุ่งหมดแล้ว มากันไม่รู้กี่กลุ่ม ไม่รู้กี่หน่วยงานทำเอาชาวบ้านงงหมดแล้ว อยากให้ทำกันแบบเปิดเผย ให้ข้อมูลแบบจริงจัง ปัญหาจะได้ไม่เกิดขึ้น” บังบ่าวพูดด้วยความเหนื่อยหน่าย
เบื้องหลังการดำเนินการเหล่านี้ โดยเฉพาะสมาคมพัฒนาประชากรเป็นเพียงนอมินี(ตัวแทน) ของบริษัทเชฟรอนเพื่อมาทำงานมวลชนเท่านั้น กระบวนการทำงาน เก็บข้อมูล การสร้างแผนงานแต่ละหมู่บ้านจึงไม่ได้เป็นกระบวนการที่จริงจังและจริงใจ เพียงเพื่อสร้างความไว้วางใจหรือการยอมรับให้เกิดกับบริษัทมากขึ้นเท่านั้นเอง
เป้าหมายของบริษัทเชฟรอน คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้สามารถสร้างท่าเรือได้ โดยมีเงื่อนปมที่สำคัญคือทำอย่างไรก็ได้อย่าให้ชาวบ้านคัดค้าน เพราะฉะนั้นจึงระดมทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ชาวบ้านคัดค้าน การดำเนินการทุกอย่างจึงมุ่งเป้าไปสู่การสร้างความเชื่อ โดยปราศจากข้อเท็จจริง ..และนี่คือพฤติกรรมที่เชฟรอนกระทำมาตลอดระยะเวลากว่า ๒ ปีที่เข้าไปอยู่ในตำบลกลาย
การดำเนินการขั้นต่อไปของสมาคมพัฒนาประชากรคือพาชาวบ้านไปดูงานตามต่างจังหวัด โดยอ้างว่าเพื่อไปหาความรู้มาพัฒนาหมู่บ้าน และในการไปแต่ละครั้งสมาคมจะดูแลอย่างดีรวมทั้งให้เงินค่าตอบแทนในการไปดูงานด้วย โดยเมื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้วเจ้าหน้าที่ทุกคนก็จะกลับไปสู่หน้าที่การทำงานของตัวเองต่อไป ไม่รับผิดชอบใดๆกับชาวกลายอีก
“สมาคมกับบริษัทเชฟรอนทำตัวเหมือนกับ อบต.เลย ไม่รู้ว่าตำบลนี้คนที่มีหน้าที่พัฒนาตำบลคือบริษัทเชฟรอนหรืออบต.กันแน่ เขามาจากไหนถึงมาทำรู้ดีที่บ้านเรา” บังอีกคนเล่าให้ฟังพร้อมกับเสียงถอนหายใจ
“ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่คนกลายจะต้องตื่น”
ประโยคง่ายๆ แต่ได้ใจความจากบังคนเดิม
ไม่มีความเห็น