เย็นวันที่ 4 กันยายน 2553 หลังจากเสร็จภารกิจ การขยายผลเครือข่ายเพลงอีแซวในวันแรกแล้ว ผมให้เด็ก ๆ เขาเปลี่ยนอิริยาบถกัน 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็มาทบทวนบทร้อง ท่าทางประกอบและจังหวะรำมะนาช้า เร็ว ตีทำนองและตีโขยก มารวมตัวกันเต็มทีมในเวลาเกือบ 17.00 น. เริ่มทำการฝึกซ้อมทบทวนบทบาทของแต่ละกลุ่มและปรับแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้แสดงที่เห็นว่ายังไม่สมบูรณ์ แก่ ทำนอง ท่ารำ ความคิดสร้างสรรค์ จังหวะ การฝึกซ้อมทำได้ 3 หรือ 4 รอบเท่านั้นเวลาก็ดึกโข เกราว่ารุ่งเช้าจะไม่สดชื่นจึงให้เด็ก ๆ กลับบ้านโดยมีท่านผู้ปกครองมารอรับกันทุกคน
เช้าวันที่ 5 กันยายน 2553 เป็นวันประกวดเพลงพื้นบ้านรอบสุดท้าย (รอบชิงชนะเลิศ) ของภาคกลาง ระดับประเทศ เด็ก ๆ มาพร้อมกันที่ห้อง 512 อาคาร 5 โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1 เวลา 08.00 น. แต่ต้องรอผู้แสดงอีก 1 คนที่มาล่าไปเล็กน้อย รถยนต์ของผมออกจากโรงเรียนในเวลา 08.20 น. ไปถึงโรงแรมสองพันบุรี (สถานที่ประกวด) เวลาเกือบจะ 09.00 น. นำคณะเข้ารายงานตัว และไปจัดเตรียมแต่งตัวนักแสดงในห้องรับรอง
ผมได้รับเชิญไปบันทึกเทปโทรทัศน์ที่หน้าห้องอบรม ทีมงานให้ผมกล่าวเกี่ยวกับความพร้อมของวงลำตัด การเตรียมตัว ปัญหาอุปสรรคในการนำทีมงานมาประกวด และให้ผมฝากข้อคิดไปยังเยาวชนรุ่นใหม่เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณีไทย เพลงพื้นบ้าน ทำอย่างไรจึงจะได้รับความสนใจมากกว่านี้
เวลา 10.00 น. เด็ก ๆ นักแสดงทุกทีมรวมทั้งทีมผู้ใหญ่ซึ่งมีทั้งหมด 10 ทีม เข้ารับการอบรมในห้องประชุมใหญ่ การประชุมอบรมเป็นไปในเชิงการถาม-ตอบระหว่างทีมที่มาประกวดกับท่านวิทยากร ส่วนใหญ่จะสอบถามเกี่ยวกับการแสดงลำตัดที่ถูกต้อง ทำนองร้องลำตัด จังหวะกลอง ทำอย่างไรลำตัดจึงจะอยู่ต่อไปอีกนานเท่านาน เวลาในการประกวดเท่าไรแน่ กฎเกณฑ์ กติกาในการพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการ การตัดสินระหว่างทีมเด็กกับทีมผู้ใหญ่ (ความจริงเป็นการประกวดประเภทประชาชน) งานนี้ไม่มีเด็ก ไม่มีผู้ใหญ่ถือว่าเป็นประชาชนเท่ากัน ต่อจากนั้นเป็นการจับสลากจัดคิวการแสดง ทีมลำตัดสายเลือดสุพรรณฯ จับได้ลำดับที่ 9 ใน 10 ทีม ได้แสดงเป็นคณะรองสุดท้าย เสร็จสิ้นการอบรมเวลา 12.00 น.
ถึงเวลารับประทานอาหาร ทางกองประกวดให้การดูแลนักแสดงทุกทีมดีมาก ให้ความสะดวกเอาใจใส่ดูแลติดตามอย่างใกล้ชิดไม่มีข้อบกพร่องโต๊ะอาหารละ 10 คน ผมไปกัน 12 คนจึงขอเก้าอี้เพิ่มอีก 2 ที่ เด็ก ๆ จะๆได้นั่งกลุ่มเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะนั่ง 12 คนก็มีอาหารเพียงพอ อิ่มไปตามๆ กันทุกคน จนถึงขนมเป็นเมนูสุดท้ายบนโต๊ะ และเมื่อถึงเวลา 13.00 น. ทีมที่เข้าประกวดทั้งหมดรวมตัวกันที่ห้องประชุม ผมนำเด็ก ๆ ไปยังห้องเตรียมตัวเพื่อที่จะได้บอกกล่าวในบางสิ่งบางอย่างก่อนที่จะเข้าไปในห้องประชุม
ก่อนที่จะเริ่มการประกวดเพลงพื้นบ้าน ลำตัด มีพิธีการเปิดการประกวดโดยท่าน ผอ.สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมประชาสัมพันธ์ เขต 8 กาญจนบุรี ที่ประทับใจคือ มีการแสดงลำตัดของศิลปินผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสุพรรณบุรีมานาน ท่านผู้นั้นคือ ขวัญใจ ศรีประจันต์ และทีมงาน ดูเหมือนว่าท่านจะถ่อมตัวบ้างเพราะทางเพลงของชาวสุพรรณฯ เป็นเพลงอีแซว เพลงฉ่อย แต่ก็ได้รับความสนุกสนาน ได้ชมการแสดงลำตัดของนักแสดงรุ่นครู
เริ่มการประกวดเวลาประมาณ 14.00 น. ตลอดเวลาที่ดำเนินโครงการมีการถ่ายทอดเสียง โดยสถานีวิยุกระจายเสียงกรมประชาสัมพันธ์ ทั้งระบบ AM. และระบบ FM. ตลอดเวลาจนเสร็จสิ้นประกาศผลได้ทีมที่ชนะเลิศจบการประกวด วงลำตัดขึ้นไปแสดงตามคิวที่ได้รับตั้งแต่คณะที่ 1 จนถึงคณะที่ 8 มีคณะที่เป็นประชาชนเต็มตัวอยู่ 2-3 คณะ และเป็นศิลปินลำตัดโดยอาชีพ เด็ก ๆ ก็ประหม่ากันทั้งวง ผมต้องแนะนำว่า เวทีนี้ไม่ใช่เวทีงานวัด แต่เป็นเวทีประกวดที่ผู้แสดงจะต้องนำเสนอไปตามกฎ กติกาเท่านั้น
ทีมลำตัดสายเลือดสุพรรณฯ ขึ้นเวทีแสดงเป็นคณะที่ 9 ด้วยความเงียบสงบ เด็ก ๆ นักดนตรีผู้ให้จังหวะ 5 คนขึ้นไปเตรียมความพร้อมแล้วมานั่งเป็นแถวหน้ากระดานโค้งเล็กน้อย เริ่มโหมโรงรำมะนาจังหวะช้า และจังหวะเร็ว นักแสดงทั้ง 6 คนเดินขึ้นเวที จนจบเสียงดนตรี นักแสดงทุกคนยกมือไหว้คณะกรรมการและท่านผู้ชม ได้รับเสียงปรบมือดังสนั่นห้องประชุม เสียงร้องสร้อยลำตัดจากท็อป-ธีระพงษ์ ดังขึ้นมาทันที การแสดงเริ่มแล้ว ตลอดเวลา 10 นาที (โดยประมาณ) ที่เด็ก ๆ ทำหน้าที่อยู่บนเวทีมันช่างน้อยเสียเหลือเกิน แต่ก็สามารถที่จะสื่อสารด้วยเสียงเพลงและลีลาท่าทางได้อย่างประทับใจ เพราะการตัดสินพิจารณาครบทุกประเด็น ตั้งแต่บทร้อง ความคิดสร้างสรรค์ในการแสดง ทำนองจังหวะ การแต่งกาย ลีลาท่าทาง จนถึงการรักษาเวลา ดูได้จากภาพที่ผมได้นำเอามาเสนอและคลิกชมบันทึกการแสดงสด ๆ บนเวทีประกวดได้ในกรอบด้านล่างนี้
ผลการประกวดเพลงพื้นบ้านประสานใจ ภาคกลาง “ลำตัด” รอบสุดท้าย ระดับประเทศ ได้แก่
รางวัลชนะเลิศ ทีมลำตัดสายเลือดสุพรรณฯ จากจังหวัดสุพรรณบุรี
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ทีมสายเลือดศิลปิน จากจังหวัดปทุมธานี
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 โรงเรียนวัดวังกุ่ม จากจังหวัดสุพรรณบุรี
ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ คณะลำตัดสายเลือดสุพรรณฯ ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาท) ได้รับโล่และเกียรติบัตรจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 29 กันยายน 2553 ที่ห้องประชุมกรมประชาสัมพันธ์ โดยมีสถานีโทรทัศน์ NBT ถ่ายทอดตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. ติดตามชมได้ ครับ
(ติดตาม ตอนที่ 3 หลังจากได้รับรางวัลชนะเลิศลำตัด ระดับประเทศ)
สวัสดีค่ะ
ขอแสดงความยินดีกับ ทีมลำตัดสายเลือดสุพรรณค่ะ
ที่ชนะเลิศ การประกวดเพลงพื้นบ้านประสานใจของภาคกลาง
เป็นความภาคภูมิใจที่ไม่มีวันลืมเลยนะคะ
ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะคุณครู
กับงานสืบสานตำนานเพลงสุพรรณ
ดีใจกับน้องๆที่มีคุณครูส่งเสริม
สนับสนุนอย่างจริงจังและจริงใจค่ะ
ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ ได้ดูคลิปแล้วผมดีใจมากที่วงเพลงเราได้ชนะการแข่งขันลำตัด เพลงเราแข่งกันคนโตและเก่ง ผมขอเป็นกำลังใจให้นะคับ ผมจะพยายามฟึกหัดให้เก่งเหมือพีท๊อปนะคับ จากพล
หนูดีใจมากที่วงเพลงของเราทำได้ หนูจะเป็นคนสานต่อจากพีแป้งแม่เพลงสุดสวยของวงเรา หนูดีใจมากที่วงเพลงเราชนะมาได้
ยุพร สุขเกษม ม.3/4
สวัสดี ครับ Krudala
สวัสดี ครับ ครู ป.1
สวัสดี พล-นนทวัชร์
สวัสดี อร-ยุพร