สมมุติว่ารัก


สมมุติว่ารัก

 

 

 

เหม่อมองจันทร์วันนี้สีซีดหม่น

โลกพิกลเงียบเหงาเศร้าซึมแสน

นภาว่างเวิ้งว้างห่างไกลแดน

ฤๅคลอนแคลนแกนรักจะหักพัง

 

ยามรักชื่นรื่นรมย์สมใจหมาย

ชีวีคลายระทมสมสิ่งหวัง

สุขสราญหวานใจไยชิงชัง

ดุจกักขังยื้อยุดฉุดมาครอง

 

ไกลสุดตาพนาไพรเคยได้พลอด

เว้าอ้อนออดกอดเกยเชยชิดสอง

ป่านฉะนี้ลืมหรือไรใครเคยปอง

ลืมเลยล่องหายลับไม่กลับมา

 

อุทยานสุดฟ้าพาท่องเที่ยว

มิเดินเดี่ยวเคลียคลอพอหรรษา

ดอกไม้งามเพลินพิศติดอุรา

สุขหนักหนารักเรามิเศร้าเลย

 

ยังย้ำเตือนเดือนปีที่ผันผ่าน

คราซึ้งซ่านใจนักเกินจักเอ่ย

อนิจจังฝังไออุ่นได้คุ้นเคย

ฟังคำเย้ยเยาะเหน็บเจ็บใจชา

 

เรื่องสมมุติทั้งนั้นฉันเธอพบ

แล้วก็จบลงอย่างไม่กังขา

โอกาสดีได้พบมิตรกัลยา

คือธรรมาแสนสงบจบโลกลวง...

คำสำคัญ (Tags): #รัก#สมมุติ
หมายเลขบันทึก: 390711เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2010 13:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

       เหม่อมองจันทร์วันนี้สีซีดหม่น     ดูพิกลไม่เหมือนจันทร์วันก่อนหรือ

 ก็พระจันทร์ดวงเดียวกันนะอือ          ไม่พิลึกกึกกือตรงไหนเลย

      ก็กระต่ายตัวน้อยคอยมองอยู่       ตาเจ้าชู้น่าชังยังเปิดเผย

ไม่เคยพบเห็นผู้ใดทำเชยๆ               พิโธ่เอ๋ยมาดเจ้าชู้ประตูดิน

จันทร์ดวงเก่ามองเศร้าหม่น

เพราะจิตคนมันเศร้าหนอ

ทุ่มเทใจใฝ่ถักทอ

รักไม่ต่อพอกันที

สวัสดีค่าครูดาหลา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท