กรณีศึกษาทั้งสองรายมีความบกพร่องทางสมอง ส่งผลให้การควบคุมศรีษะไม่ดี การควบคุมความตึงตัวของร่างกายไม่ดี การควบคุมการดูดกลืนไม่ดี และการพัฒนาของเด็กช้ากว่าวัย รายหนึ่งอายุ 14 เดือน อีกรายหนึ่งอายุ 9 เดือน 20 วัน แต่ทั้งคู่มีอาการเกร็งกระตุก ร่างกายเคลื่อนไหวได้โดยการสั่งการของสมองไม่เกิน 60% แม้ว่าเด็กจะรับรู้สัมผัส-ขยับข้อต่อ-ได้ยิน-จ้องมอง-ยิ้ม-สื่อสารด้วยเสียงร้องไห้ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ (ไม่ชอบ หิวนม อยากเล่น)
เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ปกครองของกรณีศึกษาทั้งสองรายนี้ มีความพยายาม มุ่งมั่น ซักถาม บันทึกวิดีโอ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ ดร.ป๊อป ได้อย่างน่าประทับใจ
กรณีศึกษาทั้งสองราย มีปัญหาข้างต้นตั้งแต่แรกเกิด แต่แพทย์และพยาบาลในสถานบันการแพทย์ที่มีชื่อเสียงจัดโปรแกรมกระตุ้นพัฒนาการแบบสอนผู้ปกครองในท่าพื้นฐาน เช่น สอนนวดส่วนต่างๆของร่างกาย 16 ท่าทาง ด้วยความถี่ที่เด็กจะร่วมมือ แล้วไม่มีการติดตามปรับโปรแกรมกระตุ้นพัฒนาการ สอนนวดริมฝีปากและการดูดนมจนเด็กดูดได้ก็หยุด ทั้งนี้ไม่มีการส่งปรึกษานักกิจกรรมบำบัดใดๆ จนเวลาผ่านไป 2 เดือนในรายแรก และ 7 เดือนในรายที่สอง
ข้อมูลข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า "การทำงานเป็นทีมสหวิชาชีพทางการแพทย์ที่ส่งเสริมการพัฒนาเด็กหนึ่งคนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ (คุณภาพมากกว่าปริมาณ) นั้นยังไม่เกิดขึ้นมากนักในสถานพยาบาลไทย" หรืออีกมุมหนึ่ง "คนไทยหลายคน บุคลากรทางการแพทย์หลายคน ยังไม่เข้าใจว่า นักกิจกรรมบำบัด มีหน้าที่พัฒนาทักษะชีวิตของเด็กคนหนึ่งๆ ได้อย่างไร และทำไมโปรแกรมการพัฒนาเด็กจำเป็นต้องได้รับคำปรึกษาจากนักกิจกรรมบำบัด ในระบบวิชาชีพทางการแพทย์สากล"
บทสรุปจากกรณีศึกษาสองรายนี้...ทำให้ผมอยากสรุปประเด็นที่ผู้ปกครองและบุคลากรทางการแพทย์ละเลยใน "การพัฒนาเด็กให้เกิดทักษะชีวิตที่มีสุข" ดังนี้
โปรแกรมกิจกรรมบำบัดควรปรับเปลี่ยนความง่ายถึงท้าทายความสามารถของเด็กในระดับรู้สึกตัวและเป็นธรรมชาติในแต่ละครั้งของการนัดหมายมาให้บริการ หากโปรแกรมมีรูปแบบซ้ำซากและไม่มีการประเมินผลความก้าวหน้าของโปรแกรมและการพัฒนาของเด็ก ก็เปรียบเสมือนกิจกรรม กระบวนการ และวิธีการ ที่บำบัดไม่ได้ตามกฎหมายการแสดงบทบาทที่ดีของนักกิจกรรมบำบัด
ผมอยากแนะนำให้ผู้สนใจอ่านบันทึกความรู้เพื่อการช่วยเหลือเด็กที่มีความบกพร่องทางระบบประสาทที่
http://gotoknow.org/blog/otpop/350037 (ตอนที่ 1)
http://gotoknow.org/blog/otpop/350038 (ตอนที่ 2)
หากมีคำถามใดๆ เชิญปรึกษาฟรีที่ ดร.ป๊อป อีเมล์ [email protected]
ขอบันทึกความก้าวหน้าของน้องรายหนึ่งจากอีเมล์ของคุณแม่
ดีใจกับคุณแม่และญาติของน้องออมสินด้วยครับ ค่อยๆ ลดเกร็งก่อนฝึกการทำงานของแขนขาในกิจกรรมการเล่นทุกครั้ง เพื่อให้น้องออมสินรู้สึกมีความสุขในการเรียนรู้ความสามารถของเขา
ขอบคุณมากครับที่ส่งข่าว
อ.ป๊อป
--------------------------------------------------------------------------------
From: xxxxxx
To: aaaaa
Subject:
Date: Mon, 13 Sep 2010 03:53:47 +0000
เรียนดร.ป๊อบ ที่เคารพ
จากที่วันนั้นน้อง อ.ไปทำกิจกรรมบำบัดกับดร.นี้ก็ประมาณอาทิตย์กว่าๆสังเกตุว่าเวลาน้องอ.นั้งรถกลมๆจะตั้งคอได้มากกว่าเดิมแต่ถ้าอุ้มถ้านั้งคอจะไม่ค่อยตั้งเท่าไหร่แต่ก็ตั้งบ้างเป็นบางครั้ง แต่อาการเกร็งก็ยังมีตลอดเป็นระยะ ส่วนการจิกเท้าก็ยังมีอยู่ค่ะ ตอนนี้ก็จะนวดเขาทุกวันแต่ก็ไม่จะทำบ่อยๆในช่วงเย็นตอนกลับบ้านค่ะ น้องจะชอบเล่นกับลูกบอลลากค่ะเวลาเอานั้งกับลูกบอลจะยิ้มชอบมากเลยค่ะ
ขอบันทึกความก้าวหน้าของน้องรายหนึ่งจากอีเมล์ของคุณแม่ฉบับที่ 2
เรียน คุณแม่น้องอ.
ถ้าคุณแม่จำได้ ที่ผมแนะนำให้คุณแม่เข้าไปกอดและห่มผ้ารอบตัวน้องขณะที่ร้องตกใจและเกร็ง แล้วเปิดเพลงผ่อนคลายที่น้องชอบ ก็จะเกิดอุณหภูมิที่อุ่นรอบตัวน้องพร้อมเสียงที่ผ่อนคลายก็จะช่วยลดเกร็งระดับหนึ่ง จากนั้นคุณแม่ต้องทำท่าลดเกร็งยืดแขนหรือขาทีละข้าง และทำท่าอื่นๆ ที่เคยสอนไปแล้ว เช่น กลิ้งตัว กระตุ้นให้ลงน้ำหนักจากท่านอนหงายมาตะแคงมานั่ง เน้นงอขาเพื่อลดเกร็งเหยียด และเน้นเหยียดแขนเพื่อลดเกร็งงอ สำหรับการอุ้มต้องค่อยปรับท่าที่เคยสอนไปและสังเกตว่า ถ้าเด็กเกร็งเล็กน้อยก็อยู่นิ่งสักครู่ก็จะคลายเอง ใจเย็นๆ และค่อยๆ ฝึกอย่างต่อเนื่องนะครับ
โชคดีครับ
อ.ป๊อป
--------------------------------------------------------------------------------
From: xxxxxxxxxxxx
To: bbbbbbbb
Subject: FW:
Date: Tue, 14 Sep 2010 08:23:59 +0000
เรียนอ.ดร.ป๊อบที่เคารพ
อ.ค่ะการลดเกร็งก่อนฝึกการทำงานของแขนขาทำอย่างไรค่ะใช่การเอาผ้ามาคลุมให้อุ่นๆแล้วก็กอดเขาเปิดเพลงที่เขาชอบให้ฟังใช่มั้ยค่ะเพราะสังเกตุว่าเวลาที่ฝึกน้องเขาทำกิจกรรมทำไปนานๆจะรู้สึกเหมือนกับว่าน้องจะคอยเกร็งนะค่ะ แล้วถ้าบางครั้งเราอุ้มผิดท่าจะรู้สึกเหมือนเขาจะคอยเกร็งขอคำแนะนำเพิ่มเติมหน่อยนะค่ะเกี่ยวกับการลดเกร็งที่อ.บอก
ขอแสดงความนับถือนะค่ะ
แม่น้องอ.
ขอบันทึกความก้าวหน้าของน้องรายหนึ่งจากอีเมล์ของคุณแม่ฉบับที่ 3
From: XXXXXXXXXXXX
To: BBBBBBBBBBB
Subject: ขอบคุณมากนะค่ะ
Date: Wed, 15 Sep 2010 03:15:50 +0000
เรียนอ.ดร.ป๊อบที่เคารพ
ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับคำแนะนำจะทำตามอยางต่อเนื่องนะค่ะ
ขอแสดงความนับถือ
แม่น้องอ.ค่ะ
วันนี้คุณแม่ ก. ได้พาน้อง ภ. มาตรวจประเมินการพัฒนาของเด็กหลังจากฝึกโดยพ่อแม่หนึ่งเดือนของการได้รับโปรแกรมกิจกรรมบำบัดเพิ่มทักษะการดูดกลืนอาหาร เพิ่มความรู้สึกสัมผัส ข้อต่อ และความตื่นตัวบนบอล เพิ่มการทำท่าทางลดเกร็งบ่อยขึ้น เพิ่มการนั่งตั้งคอขณะป้อนนมด้วยช้อน (ลองกระตุ้นการดูดด้วย) และเพิ่มการอุ้มและนั่งเล่นคอหลังตรงพร้อมอุปกรณ์ที่มีแสง
ปรากฎว่า น้อง ภ. เกร็งแขนลดลง แต่ยังคงเกร็งขามากอยู่ น้องยังคงดูดกลืนปากแบบอัตโนมัติเลยควบคุมการดูดจุกนมแบบตั้งใจไม่ได้ เลยแนะนำให้ทานนมและอาหารเหลวด้วยช้อน ซึ่งดูดจากช้อนได้ดีขึ้น น้องยังคงมองไปด้านขวามากกว่าด้านซ้ายด้วยสาเหตุปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติจากสมอง น้องมีการมองตามแสงไฟในที่มืดได้ดีขึ้น แต่ที่บ้านฝึกได้น้อยเพราะผู้ปกครองติดงาน เลยรู้สึกว่า เห็นผลการพัฒนาเด็กที่ช้า
ผมจึงตรวจและแนะนำการกระตุ้นท่าตั้งคอขึ้นลงน้ำหนักบนแขนจากท่านอนหงาย และค่อยๆ ปรับลงน้ำหนักบนฝ่ามือ แล้วจับไหล่สองข้างพร้อมยืดตัวขึ้นแล้วโยกหน้าหลังให้คอตั้งตรงและมีการจ้องมองที่ตื่นตัว และสอนผู้ปกครองจับเด็กงอสะโพกลงน้ำหนักกดเข่าลงฝ่าเท้าทีละข้างแล้วยกงอขาเข้าหาลำตัวเพื่อกระตุ้นให้ถีบเท้าออกมาในท่านอนหงาย
และกระตุ้นการลงน้ำหนักทีละข้อต่อตั้งแต่พลิกตัวไปด้านซ้าย (ดันตรงกระดูกลำตัวขวาที่โค้งงอเกินไป) งอสะโพกและแตะเข่าบนเบาะ พร้อมลงน้ำหนักฝ่ามือขวา จากนั้นย้ายกดน้ำหนักลงฝ่ามือซ้ายที่คว่ำเหนือมือขวา แล้วจับไหล่ยกตั้งในท่าคลานลงน้ำหนักสองมือ งอเข่าสองข้าง ค้างไว้โดยประคองดันซีกขวาที่แข็งแรงไปทางซีกซ้ายที่อ่อนแรง
ในกรณีที่บ้านไม่มีคนฝึกกิจกรรมบำบัดแบบนี้ ซึ่งจำเป็นต้องฝึกบ่อยครั้ง ควรจัดเก้าอี้แบบพิเศษ ซึ่งผมประสานงานให้ผู้ปกครองคุยกับช่างประดิษฐ์แล้ว
ติดตามผลอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า
ติดตามผลกับคุณแม่น้อง อ. พบว่า มีอาการเกร็งกระตุกบ่อยครั้งขณะสอนการบ้านต่อจากคราวที่แล้ว เลยแนะนำให้จัดท่างอตัวแล้วอยู่ในอ้อมกอดของผู้อุ้มในท่านั่งงอตัวพร้อมเด็ก รอกระตุกลดลงก็อุ้มพาดบ่าชิดคอผู้อุ้มแล้วลูบจนเด็กไม่กระตุก หากร้องจนกระตุกก็อุ้มโยกไปมาช้าๆ ให้เด็กผ่อนคลาย
เด็กมีการพัฒนามองตามและดูดปากได้ดีขึ้น แต่ยังเกร็งงอแขนและคอยังอ่อนแรง (ดีขึ้น 10% จากหนึ่งเดือนที่แล้ว)
จึงแนะนำท่าฝึกคอตั้งในท่าขัดสมาธิพร้อมยกแขนเหยียดมือชูเหนือศรีษะทีละข้าง ยกสลับแตะกับเข่าตรงกันข้าม อุ้มจับงอตัวและเหยียดตัวคอตั้งขึ้น กระตุ้นกลิ้งตัวแขนเหยียดขาตรงข้ามแขนให้งอแบบช่วยจับร่างกายช่วงบนโดยไม่บังคับลงน้ำหนัก ทำต่อเนื่องกันในช่วงที่เด็กไม่กระตุกและหลังทานยาลดเกร็ง
เมื่อตื่นนอนให้จับคว่ำบนบอล มีท่าที่จับสะโพกโยกบอลซ้ายไปขวาและตรงกลาง มีท่าที่จับแขนเหยียดไปข้างหน้าพร้อมแบมือและโยกบอลไปข้างหน้า และมีท่าที่จับแขนเหยีดแบมือโยกบอลไปข้างหน้าค้างไว้แล้วโยกบอลไปข้างหน้าและมาข้างหลังพร้อมจับขาสองข้างเหยียด
สงสัยถึงการใช้พลังงานทีหมดไปเร็วของเด็ก จึงทราบว่า กลไกการทำงานระบบสสารในร่างกายที่เชื่อมโยงกับเซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ประสาทไม่ดีพอ เด็กน่าจะปรับทานโปรตีนเพื่อสำรองพลังงาน แยกจากทานคาร์โบไฮเดรต 1 ชม. เพื่อการสงวนพลังงานอย่างเหมาะสม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์และนักโภชนาการต่อไป
ติดตามผลในหนึ่งเดือนข้างหน้า
ผมได้เรียนปรึกษา อ.ชนิดา อาจารย์มีประสบการณ์โภชนาการบำบัด แนะนำว่า เด็กที่มีความผิดปกติของการเผาพลาญพลังงานในร่างกายด้วยสาเหตุความบกพร่องของเกลือแร่ในร่างกาย ควรต้องเพิ่มความเข้มข้นของอาหารมากกว่าปกติ เพื่อให้เด็กได้สำรองใช้พลังงานได้พอเพียง เช่น นมที่เพิ่มจำนวนช้อนมากขึ้นให้พร้อมโปรตีนและเกลือแร่ เป็นต้น
ขอบันทึกความก้าวหน้าของน้อง อ. ดังนี้
From: PPPPPPP
To: aaaaaaa
Subject: RE:
Date: Wed, 20 Oct 2010 10:23:51 +0700
เรียนคุณแม่น้องอ.
เน้นฝึกยืดแขนขาก่อนทำกิจกรรมทุกครั้ง และถ้าสังเกตเห็นน้องเกร็ง ให้ลองค่อยๆจับน้องทำกิจกรรมอย่างช้าๆ อย่าหยุดทำกิจกรรมทันที เพราะจะทำให้น้องไม่ได้เรียนรู้การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
เท่าที่ดูรูป น้องอ. ตั้งคอและลำตัวได้ดีขึ้น แต่ต้องพยายามลูบหลังมือน้องทั้งสองข้างให้แบมือด้วย เพราะยังคงเกร็งมากอยู่
ขอให้กำลังใจคุณแม่จน้องอ. และครอบครัว และขอให้น้องอ.มีการพัฒนาที่ดีขึ้นครับ
ขอบคุณครับ
อ.ป๊อป
--------------------------------------------------------------------------------
From: aaaaaaa
To: PPPPPPP
Subject:
Date: Wed, 20 Oct 2010 03:04:37 +0000
เรียนอาจารย์ ป๊อบที่เคารพ.
ตอนนี้ทางเราก็ทำกิจกรรมให้กับน้องอ. ทุกวันเลยค่ะแต่ทำมากไม่ได้เพราะเวลาทำมากน้องอ. จะเกร็งค่ะ
ส่งรูปตอนทำกิจกรรมที่บ้านมาให้ดูด้วยค่ะ
ขอแสดงความนับถือ
แม่น้องอ. ค่ะ
ขอบคุณครับคุณ Notto
ขอบคุณโครงการดีๆๆของดร ป๊อบนะค่ะ มันเป็นดครงการที่ดีมากเพราะโครงการนี้ทำให้น้องออมสินดีขึ้นถึงแม่จะช้ากว่าเด็กคนอื่นๆๆในรุ่นเดียวกัน แต่ดร.ก้อทำให้ออมสินดีขึ้น ขอบคุณมากๆๆนะค่ะ
เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ มีโอกาสจัดกิจกรรม โครงการ หมออาสามาหานะเธอ ที่เกาะสมุย ได้รับการสนับสนุนจาก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี..........สามารถเยี่ยมชมรายละเอียดได้ที่เพจ ชมรมเพื่อนสมุย(อาสาพัฒนาคนพิการทุกประเภทเกาะสมุย) น้ะค้ะ
ยินดีและเป็นกำลังใจให้กับคุณกัญญวรรณ จันทน์ดี