"หัวปลี" ท้าย "ปลี"


ได้เก็บภาพ "หัวปลี" ไว้หลายวันแล้วครับ รูปแรกเป็น "หัวปลี" จาก "ตำบลท่าไม้" ส่วนรูปที่สอง เป็นหัวปลีจาก "ตำบลพรานกระต่าย" ครับ.......

                                 -อ่านไม่ผิดหรอกครับ...สำหรับ "หัวปลี" ท้าย "ปลี" เพราะว่า วันนี้ผมตั้งใจที่จะเขียนเรื่อง "หัวปลี" ผักอีกชนิดหนึ่งที่ มีลักษณะเป็นช่อ "ห้อยหัวลง" เรื่องราวของ "หัวปลี" มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่น่าสนใจ และผมคิดว่า น่าจะมีประโยชน์กับผู้ที่สนใจเรื่อง "หัวปลี" น่ะครับ.....พร้อมที่จะมารู้จัก "หัวปลี" แบบตัวเป็น ๆ แล้ว....ก็....ตามผมมาชมได้เลยครับ....

1."หัวปลี" คือ ส่วนที่เป็นดอกของ "ต้นกล้วย" ซึ่งจะคลี่กาบที่มีผลกล้วยซ่อนอยู่ข้างในหลาย ๆ ผล รวมกันแล้วจะเรียกว่า "หวี" มันจะเจริญงอกงามคลี่กาบหวีกล้วยออกไปเรื่อย ๆ หลาย ๆ หวี  เมื่อรวมกันแล้วจึงเรียกว่า "เครือ" ครับ.....

 

2.ประโยชน์ของ"หัวปลี" ในด้าน.....

"โภชนาการ"เขาบอกไว้ว่า  หัวปลี น้ำหนัก 100  กรัม  จะให้พลังงาน   26  กิโลแคลอรี่  แคลเซี่ยม  37  มิลลิกรัม  ฟอสฟอรัส  52  มิลลิกรัม  เหล็ก  1.0  มิลลิกรัม  วิตามินเอ  283  IU  วิตามินบี 1 0.04  มิลิกรัม ฯลฯ ครับ.....และด้าน

"สมุนไพร" เขาบอกว่า "หัวปลี" มีสรรพคุณ คือมมีรสฝาดเย็น  แก้ร้อนใน  กระหายน้ำ  แก้โรคเกี่ยวกับลำใส้  โลหิตจาง ครับ.....

เรื่องราวของ "หัวปลี" ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

http://natres.psu.ac.th/radio/radio_article/radio43-440049.htm

   สำหรับวันนี้"หัวปลี" ท้ายก็ "ปลี" ครับ.....

                                                                                        สวัสดีครับ

                                                                                        เพชรน้ำหนึ่ง

                                                                                          1/09/2553

ปล..ขอขอบคุณข้อมูลเรื่อง"หัวปลี" จาก www.natres.psu.ac.th มา ณ ที่นี้ด้วยนะคร๊าบ!!!!!

หมายเลขบันทึก: 390071เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2010 18:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

ต้นกล้วยหลังบ้าน

มีหัวปลี มาฝากตลอดปีค่ะ

ชอบทานหัวปลีมากค่ะ โดยเฉพาะต้มกะทิทานกับน้ำพริก หรือนำมายำแบบสดๆก็กรอบอร่อยค่ะ

เห็นหัวปลีในภาพแล้ว ขาวอวบ น่าทานค่ะ :-)

สวัสดีค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง

ชอบทานแกงหัวปลีใส่ปลาดุก เมนูโปรดค่ะ

ขอบคุณสาระดีๆที่นำมาฝากค่ะ

ขอบคุณค่ะ..คนโบราณเชื่ออีกด้วยว่า..แม่ลูกอ่อนบริโภคแกงเลียงใส่หัวปลีแล้ว..จะเพิ่มน้ำนมเลี้ยงทารกมากกว่าปกติ..น้องสะไภ้ช่วยยืนยันเรื่องนี้ค่ะ..

..ขอบคุณที่ไปช่วยสนับสนุนคุณค่าของชีวิตพอเพียงที่ปลูกฝังในเยาวชนนะคะ..

         

-สวัสดีครับครู ป.1,คุณBaby ,คุณ ถาวร ,คุณนงนาท

-ต้นกล้วยหลังบ้านครู ป.1 มีหัวปลีตลอดปี เข้าข่าย "หัวปลี ท้ายปลี......มีตลอด"ปี" นะครับ......

-คุณbaby ชอบทานหัวปลี โดยเฉพาะต้มกะทิทานกับน้ำพริก หรือนำมายำแบบสดๆ นึกแล้วก็..."เปรี้ยวปาก" น่ะครับ

-คุณถาวรชอบทาน"แกงหัวปลีใส่ปลาดุก" ผมยังไม่เคยทาน หากมีโอกาสจะลองทำดูนะครับ.....

-คุณนงนาท บอกด้วยว่า..แม่ลูกอ่อนบริโภคแกงเลียงใส่หัวปลีแล้ว..จะเพิ่มน้ำนมเลี้ยงทารกมากกว่าปกติ.....อย่างนี้หัวปลี..ดีมีประโยชน์จริง ๆ ครับ.... -ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนนะครับ

-เก็บภาพน้ำมันมะพร้าว (ทำเอง)มาฝากครับ

ภาพห้วปลี สวยจัง คิดถึงแกงปลีแสนอร่อยของเชียงใหม่เลยค่ะ  พี่ดาชอบทานสดๆกับขนมจีนน้ำพริก  หลนเต้าเจี๊ยว ผัดไทย  หมี่กะทิ ลวกให้สุกแล้วราดหัวกะทิสด ทานกับน้ำพริกกะปิปลาทูอร่อยมากๆค่ะ  มีแต่รายการอาหารของชอบ แล้วจะได้ผอมลงอีกสักหน่อยได้ไหมค่ะเนี่ย   น้ำมันมะพร้าว 2 แก้วนี้ได้มากค่ะ มะพร้าวแก่ดีมาก  ซื้อมาทำไว้อีกนะคะ สอนแม่ค้าทำขายเลย อุปกรณ์การผลิตจำนวนมาก  ติดต่อสอบถามที่สถาบันวิจัยพืขสวนได้เลยนะคะ  เตรียมการผลิตขายได้เลยค่ะ สหรัฐฯออกกฏหมายปี 54 ถาวร ห้ามขายห้ามใช้ไขมันทรานส์ น้ำมันมะพร้าวจะยิ่งขายดีค่ะ

               

               

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท