เมื่อวานนี้ 14-7-49 ดิฉันถูกคนรักหมาต่อว่าที่ห้องทำงาน เพราะว่าคนรักหมาเอาอาหารหมามาให้หมา คนของสถาบันเลยด่าฝากไปให้คนรักหมา แต่คนรักหมาไม่ยอมรับฝากแต่ให้ดิฉันเรียกลูกน้องมาขอโทษ คนรักหมาว่าอย่าด่าอยาบคาย ดิฉันสงสารลูกน้องและกลัวเรื่องจะบานปลายจึงขอโทษคนรักหมา และแจ้งรองศิริชัยเพื่อให้ทุกคนมาตั้งสติเพื่อจัดการทั้งหมา คนรักหมาและ คนกำจัดหมาเพื่อให้ทุกสิ่งเป็นที่พอใจทั้งคนและหมาต่อไปค่ะ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย พ.ญ. อัจฉรา เชาวะวณิช ใน Dr.Achara bamras
เรื่องคนกับหมาเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ก็เป็นเรื่องจนเป็นข่าวใหญ่ ถ้าคนรักหมายอมฟังเหตุผลทางสถาบันบ้าง ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ นี่เพราะคนรักหมาไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ คนรักหมา เคยมาคุยกับดิฉันด้วยก่อนหลายเดือนที่ จะมีเรื่องขออย่าให้ทางสถาบันกำจัดหมา ดิฉันก็ช่วยชี้แจงแล้ว ว่าทางสถาบันไม่กำจัดหมาโดยการฆ่าหรอก ถ้าต้องควบคุมดูแล โดยจะหาที่ให้อยู่ใหม่ หรือแจ้งให้ทางเทศบาลมาช่วยดูแล ซึ่งสถานที่ราชการตามระเบียบก็ไม่สมควรเลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว เพราะอาจจะไปกัดผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลได้ และเป็นหน่วยงานที่ให้การรักษาและควบคุมโรคติดต่อทุกโรค เคยแนะนำให้คนรักหมานำไปเลี้ยงที่บ้าน เขาก็อ้างว่าหมาไม่คุ้นเคยกับหมาที่บ้านกลัวไปกัดกัน ดิฉันก็แนะนำให้ซื้อกรงใส่ซิ ถ้ารักหมาจริงก็น่าจะทำได้ แต่กลับมาสร้างความเดือดร้อนให้สถาบันเสียชื่อ ให้ข่าวที่บิดเบือนความจริง ไม่น่าเลย!
สรุปเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่าการอยู่ร่วมกันในสังคมทุกคนควรเคารพกติกาของสังคม ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ถ้าตามหลักพระพุทธศาสนา คนรักหมาก็ต้องปล่อยวางบ้าง ในเมื่อทำเต็มที่แล้ว ผลออกมาเป็นอย่างไรต้องยอมรับความจริง ไม่ใช่มาเอาชนะกัน อยากให้คนอื่นทำตามใจตนเอง ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ต้องยืนอยู่บนความถูกต้องและกฎเกณฑ์ของสังคม สังคมจึงจะปกติสุขได้