จากที่เราได้เริ่มดำเนินงานโครงการ R2R ในโรงพยาบาลยโสธรที่ผ่านนั้น จากการบอกเล่าในหลายๆ คนพบว่า เริ่มมีความกังวลเกิดขึ้น ว่าที่เราทำนั้นเป็นการเพิ่มภาระงานไหม โอกาสที่กลุ่มพบกันนั้นมีน้อยลง และเริ่มเหมือนเป็นการแยกส่วนออกจากการทำงานจริง
จากความกังวลดังกล่าวนั้น..ดิฉันและทีมเคยคิดกังวลก่อนหน้าเช่นกัน เพราะวัฒนธรรมการทำงานเรานั้น การทำ R2R ดูเหมือนจะไม่คุ้นชินเพราะคนทำงานมักคิดกังวลแยกส่วนออกไป โดยที่ลืมหันกลับมามองที่เป้าเดิมของตน คือ การพัฒนางานประจำที่ตนทำอยู่โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นระบบระเบียบวิธีวิจัย มาเป็นตัวกำกับการการทำงานที่เป็นเหตุผลมากยิ่งขึ้น
หากถามว่าทุกวันนี้เรามีการพัฒนางานที่เราทำอยู่ทุกๆ วันหรือไม่ ดิฉันเชื่อว่าเราทุกคนทำอยู่ แม้บางส่วนอาจเปลี่ยนไปเพียงน้อยนิดแต่นั่นก็ยังถือได้ว่าเปลี่ยนไปจากจุดเดิมแน่นอน แต่หากเราลืมมองย้อนกลับ..ไปเปรียบเทียบจากฐานเดิม และประเมิน-วิเคราะห์"ตน" ในแต่ละวันแต่ละส่วน เราก็จะมองเห็นตนเองชัดเจนขึ้น
จากการประชุมของกลุ่ม CVA ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนและก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้ว่า ที่กลุ่มกำลังเดินไปนั้นจากเคยหลงทางว่าเป็นการทำงานวิจัยชิ้นที่ยิ่งใหญ่ กว่าจะหันกลับมามองว่านั่นเรากำลังทำพัฒนางานที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเรา ก็ทำให้แวบไปหลายครั้งต่อหลายครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันความรู้สึกของคนทำ..สะท้อนออกมาให้ดิฉันได้รับทราบ..หากว่าทีมไม่ตระหนัก และไม่รีบแก้ไขหรือว่าป้องกันการเกิดความรู้สึกท้อแท้ใจ..ได้นั้น..การเดินทาง R2R ของโรงพยาบาลยโสธรก็น่าจะไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้
คุณ"ชายขอบ" และ คุณ"ขจิต"
ขอบพระคุณทั้งสองท่านมากเลยนะคะ..ที่มาเติมเต็มและให้กำลังใจเสมอ
คุณ"บวร"
เรากำลังเรียนรู้..ไปเรื่อยคะ
มีอีกกลายอย่างที่เราต้อง
เรียนรู้เพิ่มเติมคะ...
คราวหลังท่านบวรเดินเร็วๆ นะคะ...
จะได้ทันท่านชายขอบและท่านขจิต