l,gfhfrbfmtpk7,’
พื้นถิ่น พื้นฐาน“ย้อ”เมืองแซงบาดาล...แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาชุมชน ของโรงเรียนสมเด็จพิทยาคม อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
คุณตาม่าน(ขวา)ทายาท.กำนันคนแรกหลังจากเป็นเมืองมาเป็นตำบล.....
รู้จักสมเด็จพิทยาคมก่อน...จิ๊ดนึ่ง
โรงเรียนสมเด็จพิทยาคมเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษที่ให้บริการด้านการศึกษาในชุมชนอำเภอสมเด็จ และอำเภอใกล้เคียง เพราะมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร สื่อการเรียนการสอนโดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ภาษาต่างประเทศโดยเปิดสอน ๒ ภาษา
(โรงผลิตน้ำดื่มของโรงเรียนเอง.บริโภคและจำหน่ายเป็นการหารายได้พึ่งพาตนเองผลงานของท่าน ผอ.พิริยะ อุทโท)
โรงเรียนสมเด็จพิทยาคมยังเป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอที่ได้รับความนิยม ๑ ใน ๕ โรงเรียนยอดนิยมของจังหวัดกาฬสินธุ์
(ท่านผอ.ฟังการนำเสนอด้วยภาษาย้อของ นส.ปิยวรรณ จันทร์เสนา ๔/๓...นักเรียนย้อบ้านคำบก ต.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์)
ในด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของชาติและของชุมชนท้องถิ่น เนื่องจากชุมชนแวดล้อมโรงเรียนมีความหลากหลายของชนเผ่าและที่มีอยู่จำนวนมากคือ “ชาวย้อ”ตำบลแซงบาดาล...จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาในชุมชน ทั้งด้านภาษา การดำรงชีวิตชาติพันธุ์ต่างๆเพื่อให้นักเรียนเรียนรู้สืบสานภูมิปัญญาความรู้ของชุมชนท้องถิ่นตนเองให้ดำรงอยู่ เปรียบสะท้อนสังคมที่เปลี่ยนแปลงในยุคเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต
คุณป้าตุ๋มกับน้องชาย
ประวัติเมืองแซงบาดาล : คุณครูประภาวดี มองเพชร(ประมวลปรีชา) คุณครูมยุราชินี ประมวลปรีชา(ในภาพผู้โกนจุก...ยังไม่ขึ้นค่ะ)
...จากหนังสืออนุสรณ์เนื่องในพิธีเปิดห้องแสดงประวัติเจ้าเมืองกาฬสินธุ์ วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๔ สำนักงานศึกษาธิการอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์)
(ทายาทเมืองแซงบาดาล คุณป้าเตี้ย.คุณป้าตุ๋ม)
“จากบ้านบึงกระดาน เป็น เมืองแซงบาดาล”
ในปีพ.ศ.๒๓๗๙ พระยามหาอำมาตย์(ป้อม)และพระมหาสงคราม ไปตั้งอยู่เมืองนครพนม ได้เกณฑ์ผู้คนข้ามไปเกลี้ยกล่อมญาติพี่น้องแถบเมืองมหาไชย เมืองคำเกิด เมืองคำม่วน ได้ผู้คนมาตั้งถิ่นฐานในเมืองสกลนครและเมืองกาฬสินธุ์จำนวนมาก จึงมีการขอตั้งเมืองบริวารขึ้น คือ เมืองท่าขอนยาง เมืองแซงบาดาล เมืองกุดสิมนารายณ์ เมืองภูแล่นช้าง เมืองกมลาไสย เมืองสหัสขันธ์ และเมืองกันทรวิไชย
ในปีพ.ศ.๒๓๓๖ รัชกาลที่ ๑ (พ.ศ.๒๓๒๕-๒๓๕๒) ได้สถาปนาเมืองกาฬสินธุ์ขึ้น และในรัชกาลที่ ๓ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกบ้านบึงกระดานเป็นเมืองแซงบาดาล(พ.ศ.๒๓๗๙ ครัวพระคำแดงจำนวน ๙๓๓คน )
ในปีพ.ศ.๒๓๘๘ ให้อุปฮาด(คำแดง)เมืองคำม่วนเป็นพระศรีสุวรรณเจ้าเมือง ราชวงศ์(จารย์จำปา)เป็นอุปฮาด ท้าวขุติยะ(พก)เป็นราชวงศ์ ท้าวสุริยะ(จารย์โท)เป็นราชบุตร
ในปีพ.ศ.๒๓๙๑ พระศรีสุวรรณ(พระคำแดง) เจ้าเมืองแซงบาดาลถึงแก่กรรม จึงโปรดให้ตั้งอุปฮาด(จำปา) เป็นพระสุวรรณ ว่าราชการเมืองแซงบาดาลต่อไป
ในปีพ.ศ.๒๔๐๔ พระศรีสุวรรณ(จำปา)ถึงแก่กรรม ราชวงศ์(พก)ได้รับราชการเป็นพระศรีสุวรรณเจ้าเมือง ท้าวบุญบุตรพระศรีสุวรรณ(จำปา)เป็นอุปฮาด ท้าวขีบุตรพระศรีสุวรรณ(พระคำแดง)เป็นราชวงศ์ ท้าวพรหมบุตรพระศรี ราชบุตร รักษาบัญชาราชการเมืองแซงบาดาล
ในปีพ.ศ.๒๔๑๕ ท้าวโพธิสารว่าที่ผู้ช่วยเมืองกาฬสินธุ์ มีบอกขอตั้งท้าวโคตร เป็นพระศรีสุวรรณเจ้าเมืองแซงบาดาล(วันอังคารขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะแม โปรดเกล้าฯตั้งท้าวโคตร เป็นพระศรีสุวรรณเจ้าเมืองแซงบาดาล พระราชทานถาดหมาก คนโทเงิน ๑ สำรับ สัปทนแพรคัน ๑ เสื้อเข้มขาบริ้วขอ แพรสีติดขลิบ ๑ ผ้าส่านวิลาส ๑ แพรขาวห่ม ๑ ผ้าม่วงจีน ๑ เป็นเครื่องยศ
ในปีพ.ศ.๒๔๒๕ นี้พระศรีสุวรรณ(พก)เจ้าเมืองแซงบาดาล ถึงแก่กรรม ราชวงศ์(ขี) ได้ดูแลรักษาราชการเมืองต่อมาเพียง ๒ ปี ก็ถึงแก่กรรมลงอีก ท้าวจารโคตรบุตรอุปฮาด(พรหม)เป็นพระศรีสุวรรณเจ้าเมือง ให้ท้าวทุมเป็นอุปฮาด(ทุม) ถึงแก่กรรม ท้าวหงส์ได้รับตำแหน่งเป็นอุปฮาดรักษาราชการเมืองต่อไป
ในปีพ.ศ.๒๔๔๐ รัชกาลที่ ๕ ได้ยกเลิกตำแหน่งระบบการปกครองเดิม โดยพระศรสุวรรณ(โคตร)ได้เป็นผู้ว่าราชการเมือง(๒๔๔๒)
ในปี ๒๔๔๙จึงเริ่มมีอำเภอเกิดขึ้นอำเภอแซงบาดาล มีขุนบาดาล นิคมเขต(ฮวด)เป็นนายอำเภอ
ปีพ.ศ.๒๔๕๑ นายขำ เป็นนายอำเภอ
ปีพ.ศ.๒๔๕๔ การจัดการปกครองแบบหัวเมืองได้ถูกยกเลิกในระหว่างที่จัดตั้งเป็นจังหวัดตำแหน่งข้าราชการเมืองกาฬสินธุ์ก็เปลี่ยนไปด้วย
ในปีพ.ศ.๒๔๕๕ รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าให้ตั้งมณฑลร้อยเอ็ด แยกออกจากมณฑลอีสาน อำเภออุทัยร้อยเอ็ด ที่ตั้งอยู่ในเมืองร้อยเอ็ดให้ออกมาตั้งใหม่ย่านศูนย์การปกครองที่อำเภอดินแดง
ในปีพ.ศ.๒๔๕๖ อำเภออุทัยร้อยเอ็ดจึงเปลี่ยน เรียกเป็นอำเภอแซงบาดาลเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่เมืองแซงบาดาลถูกยุบเป็นตำบล
เมืองแซงบาดาลปัจจุบันคือ บ้านแซงบาดาล ตำบลแซงบาดาล อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
"- สมเด็จนามมงคล งามเลิศล้น"แก่งพฤาชัย"
น้ำตกใส"แก้งกะอาม" ธรรมชาติงาม"ถ้ำผาลี่"
ฝีมือดีคือ"เนื้อทุบ" งามเหวหุบ"ผาเสวย"
น่าชมเชย"หมอลำซิ่ง" อัศจรรย์ยิ่ง"ห้วยสังเคียบ" -"
ซึ่งทายาทของเจ้าเมืองแซงบาดาลในปัจจุบันจากภาพพิธีโกนจุกคือ คุณป้าตุ๋ม (น้องสาวคุณป้าเตี้ย...คุณครูประภาวดี มองเพชรที่ข้าพเจ้าเคารพรักยิ่ง)...แล้วค่อยชมภาพตอนต่อไป(เน็ตข้าพเจ้าช้ามากๆ...ภาพโกนจุกและอื่นๆเดี๋ยวตามมา).
(ใครเป็นใคร???...ทายาทย้อ)
เรียนอาจารย์จอมใจที่นับถือ
ขอบคุณบันทึกดีๆที่นำมาแบ่งปันนะคะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะไม่เคยทราบมาก่อน ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ คุณยาย คนสวย
บันทึกไว้เพื่อเด็กน้อยและผู้สนใจค่ะยินดีที่ได้รู้จัก /ขอบคุณมากค่ะ.
ภาษาย้อ เป็นอย่างไรครับ ผมคุ้นแต่ส่วย เขมร ย่านอีสานใต้
เรียนคุณครูหยุยที่แสนดีของเด็กน้อย
เป็นเกียรติยิ่งที่ท่านมาเยี่ยมชมเฮือนซานซุมเฮา
ภาษาย้อและภาษาภูไทจะคล้ายๆกัน แต่ภาษาย้อจะอ่อนหวานกว่า
(คนอื่นๆเขาว่าค่ะแต่ดิฉันชอบภาษาภูไทยน่าฟังและไพเราะ.....)
เช่น ภูไท ถามว่า "ไปไหน"..."ไปสิเล๊อ"
ย้อ .................."ไปเต๊อ"
เป็นต้นซึ่งจะได้นำรายละเอียดภาษาย้อมาบันทึกลงในวันหยุดนะคะวันนี้ว่างแค่ ๒ ชม.
แวะมาอ่านแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาชุมชน ,,,“ย้อ”เมืองแซงบาดาล
เอาของกินมาฝาก
โอ้โห!บักแตงๆอ้ายทหารบักนัด...ปลูกเองบ๊นี่
ขอบคุณอ้ายหลายๆซำบายดีค่ะ
พึ่งรู้นะเนี่ยว่าคุณพี่ แซงบาดาลเคยเป็นเมือง นึกว่ามีแต่เมืองษหัสขันธ์ซะอีก
ดีใจ จังที่คุณครู Kanchana สนใจค่ะ สมเด็จ(บ้านสี่แยก)เป็นชุมชนที่มี...ความหลากหลายของกลุ่มชนแต่...ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไม่สนใจเท่าที่ควร(อาจเพราะเป็น...ภาคอื่น)
คุณครูเต้อยู่ใกล้แค่นี้ยังไม่รู้เลย...ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้า G2K"""ค่ะต้องขอโทษมากกกกก
รู้สึกปี้มใจที่ยังมีประวัติอันทรงคุณค่าของชาวย้อเมืองแซงบาดดาลไว้ให้ศึกษา และยังเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับสืบค้นของผู้ที่ยังไม่รู้ และผู้ที่อยากรู้เช่นกระผม
ขอบคุณ คุณครูครับ
ขอบคุณมากครับ ที่ให้ความรู้ครับ
ขอบคุณมากที่ชอบนะคะ
ไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยนัก
ต้องขอโทษที่ตอบช้า...
สุดยอด เลยค่ะ
เราภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกหลานของท่าน
ขอบคุณนะครับที่ทำให้ผมได้อ่านได้ยินแต่ยายทวดพูดให้ฟัง(ยายใหม่ คานทอง)แต่ยายเสียไปแล้วคุณยายแหวน ประมวลปรีชายายก็รู้จัก ขอบเจอหลายๆที่เฮ็ดให้ผมบ่ลืมภาษาบ้านเกิดเจ้าของเด้อครับคือสิบ่มีพิเดอแล้วเนอเอาไว้พอกันใหม่เด้อครับ
อนาคต อยากสร้างห้อง สมุด และสนามเด็กเล่น ให้แก้โรงเรียนครับ
คนบ้านเฮาฮักบ้านแซงบาดาลเฮา เฮาซิบ่ลืมซาติเกิดเฮา ผมกะญ้อผุหนึ่ง55555คือกันคับา
สงสัยครับ ได้ยินมาว่าในภาษาย้อ สะระ "ใ" จะออกเสียง "เออ" เช่น "ใกล้" ออกเสียงเป็น "เ้ก้อ" "ใบไม้" ออกเสียงเป็น "เบอไม้" แล้วทำไมคำว่า "คนใบ้" จึงไม่ออกเสียงว่า "คนเ้บ้อ" ครับ และขอถามอีหน่อยครับทำไมคนแซงบาดาล ที่ได้ดีมีตำแหน่งแล้วชอบย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่อื่น(ในเมือง)
เมืองแซงบาดาลน่าอยู่มากคุณแม่คุณพ่อชอบบ้านแซงบาดาลมากเพราะคนบ้านแซงบาดาลน่ารักน่าอยู่มากเลยค่ะ
สนใจประวัติเมืองแซงบาดาลมากค่ะ
เมืองแซงบาดาล เคยมาเยี่ยมญาติกับคุณพ่อ เม่ือปี พ.ศ. 2530 เป็นเมืองที่น่าอยู่มากค่ะ
เพราะเป็นบ้านเกิดของย่าช่ือ ย่าโกสุม ปาลบุตร (สุวรรณภักดี) ปู่ช่ือ ปู่ป่อง สุวรรณภักดีมาพักที่บ้านปู่ขันตี ปาลบุตร