ทำบุญใหญ่ - กับสัตว์ใหญ่ (ตอนที่ 1)


ขอเท้าความสักนิด ถึงที่มา ที่ไป ของการเริ่มทำบุญ ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ในครั้งนี้ค่ะ

        จุดเริ่มต้นของการทำบุญในครั้งนี้ มันมีหลาย ๆ ที่มาค่ะ ขอเท้าความให้ฟังสักนิดนึงละกัน ด้วยความที่ลูกชายแอร์ป่วยบ่อยนี่แหละ จึงได้หันมาสนใจในพระพุทธศาสนา เพราะทราบมาว่าการทำบุญนั้น เราสามารถอุทิศบุญให้กับคนที่เรารักได้ ไม่ว่าเค้าคนนั้นจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม

 

          อาจารย์แพรภัทร  ยอดแก้ว ได้แนะนำให้แอร์ไปฝึกปฏิบัติธรรมที่วัดป่าเจริญราช คลอง 11  กว่าจะได้ไปต้องผ่านบททดสอบหลายอย่าง  (อ่านได้ใน blog ฝีกวิปัสสนากรรมฐานที่วัดป่าเจริญราชค่ะ) และหลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสพาเพื่อนไปปฏิบัติธรรมอีก 2-3 ครั้ง (ต้องขออนุโมทนากับคุณแพรด้วย) ในครั้งแรกที่ไปวัดนั้น แอร์และเพื่อน ๆ ตั้งใจว่าจะไปถวายสังฆทาน และดูลาดเลาก่อน ว่าสถานที่เป็นยังไงและต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ในครั้งนั้น ได้เจอหลวงพ่อวีระนนท์ เจ้าอาวาสวัดป่าเจริญราช จึงได้ถามปัญหากับท่าน แต่ท่านยังไม่ให้คำตอบ ท่านบอกเพียงว่า “ถ้ามาครั้งหน้าแล้วจะบอก”  แล้วท่านก็บอกจริง ๆ ในครั้งที่สอง ครั้งนี้ แอร์และเพื่อนอีก 2 คนก็ไปปฏิบัติธรรม ไปวันศุกร์ กลับวันอาทิตย์  แอร์เรียนท่านไปว่า  เมื่อเดือนที่แล้ว หนูพาเพื่อนมาถวายสังฆทาน และเคยเรียนหลวงพ่อว่าหนูมีอาการปวดท้องปัสสาวะบ่อย ๆ คล้ายเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่ตรวจทางแพทย์ผลก็ปกติ ส่วนลูกชายก็ป่วยบ่อยมาก แล้วหลวงพ่อบอกว่าถ้ามาครั้งหน้าแล้วจะบอกว่าเกิดจากอะไร ไม่ทราบว่าหนูเคยไปทำอะไรไว้คะ หลวงพ่อมองหน้านิดนึง แล้วก็บอกว่า “เคยทำกรรมกับแมวและวัวไว้ ” ส่วนลูกชายเรา ท่านบอกว่า “ก็รีบมานี่ กลัวไม่ได้มา เกิดจากกรรมเหมือนกัน เดี๋ยวเค้าจะมาทวงกับเราแล้ว แล้วจะทวงหนักกว่านี้อีก เค้าจะมาทวงกับเราที่เป็นแม่ เพราะแม่กับลูกอยู่คู่กัน ให้เร่งฝึกภาวนาเข้า” ท่านคงเห็นเราหน้าเสีย ท่านก็พูดว่า  “ถ้าทำไว้น้อย เค้าก็อาจจะแค่มาให้เห็น อโหสิกรรมแล้วก็จบกันไป ” ในขณะนั้น อยากจะบอกว่า มึนค่ะมึน อึ้งไปเลย ไม่น่าจะไปอยากรู้เล๊ย แล้วแถมเราก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเราไปทำอะไรไว้  คิดไม่ออก เพราะปกติเราเป็นคนที่รักแมว แล้วที่บ้านก็เลี้ยงแมวไว้เยอะด้วย คิดไม่ออกจริง ๆ แต่คิดไปคิดมา อย่าคิดเลย เสียเวลา เราตั้งใจมาปฏิบัติธรรมให้แม่ (ไปเดือนสิงหาค่ะ) ก็ตั้งใจปฏิบัติก่อนดีกว่า อย่าให้สิ่งอื่นมารบกวนจิตใจเลย ว่าแล้วก็ฝึกปฏิบัติต่อไป เดินจงกรมมั่ง นั่งสมาธิมั่ง นั่งหลับมั่ง แต่ก็พยายามเพื่อแม่ จนถึงที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสมาวัดอย่างนี้อีกเมื่อไหร่ ไหน ๆ มาแล้วต้องตักตวงโอกาสให้คุ้ม

 

          เราลาศีลแปดกันตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ แต่ด้วยความตั้งใจ เราก็อยู่ปฏิบัติต่อกันถึงเย็น ..เป็นเพราะอะไรก็ไม่ทราบได้ ..ในที่สุดเราก็ได้เห็นในสิ่งที่พระอาจารย์บอกไว้ค่ะ ....

** อ่านต่อในบันทึกถัดไปค่ะ **

 

อ่านบันทึกอันนี้จะเข้าใจมากขึ้นค่ะ : http://gotoknow.org/blog/watpa/290037

 

 

หมายเลขบันทึก: 387807เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2010 17:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท