ดำรงชีพในภาวะปัจจุบันได้ดี
อ่านแล้ว สะท้อนใจค่ะ
ตัวเราเองก็ต้องระวัง มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้พอดี เผื่ออนาคต
ลูกอีก 2 สามีอีก 1 (แน่นอนค่ะ)
แม่ ญาติ
ที่มีโอกาสได้ดูแล
อย่าประมาท
ท่องไว้เตือนใจตนเอง
สวัสดีค่ะพี่สุ
น่าเห็นใจนะค่ะ
อ่านแล้วได้เรียนรู้ชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง ชื่นชมการต่อสู้ของเขาเหล่านั้นค่ะ ขณะเดียวกันก็ชื่นชมน้ำใจ ความห่วงใย เห็นใจคนด้อยโอกาสของพี่สุค่ะ
ขอบคุณค่ะ
พี่สุเล่าแบบเห็นภาพเลยนะ
ชอบภาพวิถีชาวบ้านพี่สุนำมาให้ชมมากเลยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณสุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ
ไม่เป็นไรค่ะ ให้แค่ ๓๕๐ ก็ไม่เป็นไรนะคะ ได้รับเสื้อแน่นอนค่ะ
สำหรับการส่งลงทะเบียนธรรมดา ทุกตัวค่ะ ไม่สามารถส่ง EMS ได้ เพราะค่าส่งสูงมาก เราต้องรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมค่ะ การส่ง พกง.เพื่อเสื้อตัวเดียวมันน่าจะลำบากกว่าการขายเสื้อให้คุณสุ ๓๕๐ บาทนะคะ เพราะต้องมีภาระเพิ่มค่ะคุณสุ หวังว่าคงเข้าใจนะคะ
ช่วยเหลือเท่านี้ก็เป็นพระคุณอย่างยิ่งแล้วนะคะ
ขอขอบคุณในการร่วมกิจกรรมของ GotoKnow ค่ะ
สวัสดีคะท่านพี่ มหา ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมอ่านและแสดงความคิดเห็นกัน คนในภาคเกษตรมีทั้งคนได้โอกาสและด้อยโอกาส เป็นความจริงคะ
-คนมีโอกาส มีเครื่องมือทำการเทคโนโลยี่สมัยใหม่ มีแต่รวยกับรวย
-ส่วนเกษตรย่อย ด้อยโอกาส ก็ต้องทำมาหากินถ้าอยากอยู่รอด ก็ต้องใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ แบบบูรณาการ ท่านพี่มหาเป็นผู้นำชาวบ้านและแบบอย่างที่ดีมาตลอด จะเห็นได้จากทุกบทความ เป้าหมายยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มาบูรณาการ พอประมาณ มีเหตุมีผล สร้างภูมิคุ้มกันรายได้ แต่ผู้ด้อยโอกาส บางคนหาเป็นเช่นนั้น จึงจำเป็นจะต้องกู้หนี้ยืมสิน จากรัฐบาล หรือกองทุนทุกแห่งที่มี มันจึงลืมตาอ้าปากไม่ขึ้นซักที ปัญหาส่วนหนึ่งก็คือ ขาดการศึกษา ความรู้ไม่มี จึงเป็นผู้ตามตลอด
-ขอบคุณมากคะ แสดงว่าท่านพี่มหาเข้าใจดี ทำไม คนจึงด้อยโอกาส
พี่สุครับ คนที่ลำบากมากที่สุดดูจะเป็นผู้รับจ้าง คอยดูพอขึ้นเงินเดือนราชการ สินค้ามันก็ขึ้นามแน่นอน...
สวัสดีคะ น้องกระติก วันที่ 27 สิงหาคม 53 คงจะได้พบกันอีกนะคะ
-เรื่องราวของใครบางคนเราอยู่สุขสบาย แต่เราไม่รู้ว่า ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอยู่อีก สาเหตุก็คงเรื่องไม่ได้รับการศึกษา ฐานะทางบ้านยากจน มาตลอด ทำอย่างไรก็ไม่รวย ถ้าไม่ไปขายของผิดกฎหมาย นี่แหละปัญหาสังคม สืบเนื่องมามากมาย จะต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือการศึกษาให้เขาได้เรียน หรือส่งเสริมให้มีอาชีพที่พอเลี้ยงตนเองได้บ้าง ก็จำเป็นคะ เขาเกิดมาเพื่ออาชีพนี้ ถ้าไม่มีเขา เราก็ต้องทำเอง
-เราก็ต้องระวังความเป็นอยู่ของเราเอง อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพราะวิกฤติการณ์คือสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อคะ ดีแล้วที่ไม่ประมาทท่องไว้เสมอคะ
สวัสดีคะ น้องถาวร วันที่ 27 คงได้พบกันนะคะ ทุกคนเกิดมา ก็ต้องต่อสู้ตามแบบฉบับของตนเอง คนที่รับจ้างเขาก็จะแข็งแรง อดทน ต่างกับเรา เราไปทำแบบเขาก็ไม่ได้ เรารู้สึกว่าไม่ไหว เขากลับธรรมดา แต่เขาเคยคิดพิจารณาตนเองไหม ว่าทำไม เขาจึ้งต้องมารับจ้าง ซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง ถ้าเกิดเขาเจ็บป่วยไป ทางบ้านคงเดือดร้อนกันหมด เขาก็ไม่คิดมากมายปานนั้น มีทางเดียว ถ้าส่งเสริมการศึกษาให้เขาแต่เล็กๆๆ นั่นคือครู ต้องให้เขาได้คิด และเรียนให้สูงๆๆ หาโอกาส หรือวิธีการส่งเสริม นักเรียนในท้องถิ่นของตน โตมาพอจะมีปัญญาบ้าง ว่าไป ว่าไป พูดได้แต่ทำยาก
-พี่สุเป็นคนชอบคิด ก็คิดเรื่อยเปื่อย บางครั้งคิดแทนเขาคะ จึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาเขียนคะ
สวัสดีคะ น้องครูกาญจนา พี่สุก็มองไปรอบด้านเรื่อยเปื่อย คงจะไม่มีใครมาคิดเหมือนพี่สุหรอกคะ พี่สุเป็นคนสะดุด และสังเกต ความเป็นไป ของคนรอบข้าง ซึ่งเราพอจะมองเห็นความแตกต่าง แต่คนอื่นเขาไม่มองหรอกคะ เพราะธุระไม่ใช่ แม้แต่ผู้นำชุมชน เขาจะคิดเป็นเหมือนพี่สุหรือเปล่าก็ไม่รู้
-พี่สุเขียนขึ้นมาก็อยากให้พี่น้องเรา ชาว GTK ผู้ที่ไม่ได้เคยสังเกต ความเป็นอยู่ของคนรอบข้างหรือในชุมชน จะได้ลองไปหัดสังเกตเหมือนพี่สุบ้าง แล้วจะเอะใจ ได้ความคิดมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
-สาเหตุ คนไม่มีการศึกษาสูง ไร้ที่ทำกิน ทำงานรับจ้างค่าแรงกับค่าใช้จ่ายในบ้านตนเองค่าแรงถูกไม่พอกิน จำเป็นจะต้องทิ้งถิ่นไปทำงานต่างจังหวัด ค่าจ้างแรงงานสูง แต่ก็ลำบากมันไม่ใช่บ้านตนเอง ไปแล้ว บางคนทิ้งลูกทิ้งเมีย ทิ้งพ่อทิ้งแม่ไปเลย เพราะเงินเดือนที่ได้รับไม่พอส่งมาให้ทางบ้าน
-ทางบ้านขาดแคลนอยู่แล้ว ก็หนักไปอีก ตกก็อยู่ที่เด็ก ขาดการดูแลเอาใจใส่ที่ดี อยู่กับปู่ย่าตายาย เลี้ยงตามมีตามเกิด
-ผู้ที่จะเห็นเขาเหล่านั้น ก็คือคน หรือผู้นำชุมชนนั้นที่จะดูแล และหาทางช่วยเหลือ ผู้นำชุมชน ความรู้ไม่มาก คิดไม่ถึง คาดไม่ถึง จึงมีวงเวียนชีวิต ทางทีวีทุกๆๆวัน แล้วถึงพากัน ไปช่วยเหลือ พร้อมได้หน้าได้ตา ได้ออกทีวี
-ถ้าหาก ทางบ้าน น้องครูกาญจนา มีคนด้อยโอกาส แล้วไปเห็นสภาพ อาจจะมีคนน่าสงสาร สะท้อนใจ ยิ่งกว่าได้อ่านเรื่องของพี่สุอีกคะ แต่จะมีเวลาสำรวจไหมคะ เพราะตามจริงแล้ว ก็ไม่ใช่หน้าที่เรา และเลิกงานมาก็เหนื่อยแล้ว ดูแลครอบครัวตนเองดีกว่า
สวัสดีคะน้องนาง วิถีชีวิตคนอีสาน อาชีพรับจ้างทั่วราชอาณาจักร ก็เป็นแบบนี้แหละคะ คนด้อยโอกาส ภาพคนดำนาสวยมากใช่ไหมคะ วันที่ 27 สิงหาคม 53 จะมาร่วมด้วยไหมคะ โกทูโนสัญจรคะ คิดถึงนะคะ แต่จะลางานมาได้ไหมหละ หรือไม่ก็แลกงานกับคนอื่น ไม่เช่นนั้นไม่ได้พบกันนะคะ
สวัสดีคะ น้องครูขจิต แน่นอนเลยคะ คนรับจ้างลำบากแน่ ข้าวราคาถูกก็หาไม่ได้ซื้อกินลูกเดียว แล้วพอเงินเดือนข้าราชการขึ้น ราคาสินค้าขึ้นตาม แต่คนรับจ้างราคารับจ้างยังเท่าเดิม นั่นคือเขาต้องเหนื่อยมากขึ้น
-พี่สุว่า จะเกิดการขายยาบ้ามากขึ้น ขโมยมากขึ้น สิ่งไม่ดีต่างๆ จะตามมาเพราะเกิดมีคนยากจน ยากจนยิ่งขึ้นอีกคะ จะมีใครตระหนักไหมนี่
-ยังไม่พอนะคะ น้ำท่วมไร่นา บางพื้นที่ในประเทศไทย จะเกิดข้าวราคาแพง สินค้าราคาแพง ใครจะช่วยเขาได้ คอยดูการแก้ปัญหา ของรัฐบาลคะ
-ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมกัน ได้ยินว่า วันที่ 27 สิงหาไม่ได้พบกันที่ โกทูโนสัญจรที่ขอนแก่น ใช่ไหมคะ พลาดได้ไง นา
ที่ กทม.ยิ่งเห็นความแตกต่างของชนชั้นมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่โยกย้ายมาทำกินที่นี่ในลักษณะ "หาเช้ากินค่ำ" ท่ามกลางสภาวะค่าครองชีพที่สูงลิบลิ่ว ไม่มีบ้านช่องเป็นหลักแหล่ง.. เป็นอยู่อย่างแร้นแค้น.. บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย.. แทบไม่มีเงินส่งกลับไปบ้านนอก.. เพราะมาแต่ตัว ทิ้งครอบครัวไว้ที่โน่น ฯลฯ ...คิดดูแล้ว..ไม่แน่ใจว่า..การย้ายออกมาหากินนอกพื้นที่ โอกาสดีกว่าแน่แล้วหรือ ??..
สวัสดีครับ คุณป้า่สุ..
ูกู๊ดดี้อ่านบันทึกนี้แล้วรู้สึกเห็นใจคนที่ด้อยโอกาสมากเลยครับ...
ทุกวันนี้ แม้กู๊ดดี้จะยังไม่ได้เผชิญเรื่องราวมากมายขนาดนั้น (เพราะเพิ่งจะ 4 ขวบเอง) อิอิ
แต่เรื่องราวที่ได้อ่าน สามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์เตือนใจในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดีครับ...
ว่าคนเรา...ควรตั้งอยู่บนหนทางของความไม่ประมาท ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสาขาอาชีพใด รู้กิน รู้ใช้ รู้ประมาณตนครับ...
คิดถึงคุณป้าสุเสมอครับ...
สวัสดีคะพี่ใหญ่ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมทักทายคะ และมาเติมเต็มคะ
-เรื่องคนทิ้งถิ่นแล้วเข้ามาหางานทำที่กรุงเทพนั้น เขาก็คิดว่าเขาคิดถูกแล้ว เพราะกรุงเทพเป็นเมืองใหญ่ งานจะหาง่าย และมีทางเลือก แต่ถ้าไปอยู่บ้านตนเอง นอกจากทำไร่ ทำนาแล้ว จะไปหางานทำ เมืองมันก็เล็ก ความรู้ก็ไม่มี ฉะนั้น ตัดสินใจ ทิ้งถิ่นไปตายเอาดาบหน้า อาจจะเห็นคนบางคนได้งานและประสบผลสำเร็จ แต่ก็มีส่วนหนึ่ง ไม่ประสบผลสำเร็จ มาแล้วถอยไม่ได้ สู้ตาย กลับคืนก็ตายเหมือนกัน จำเป็นจะต้องหยิบฉวยงานที่พอทำได้ ไม่เลือก ก็เลยเกิดการหาเช้ากินค่ำ และปัญหาสังคมตามมาอีกมากมาย
-บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ บางครั้งประหยัด กว่าจะหางานได้ ต้องขนข้าวสารเป็นกระสอบปุ๋ยจากบ้านไปพอประทัง และรายได้ที่ได้ เนื่องจากบ้านก็ต้องเช่าข้าวก็ต้องซื้อ เงินไม่พอที่จะส่งกลับคืนบ้าน น่าเห็นใจผู้รอคอยอยู่ทางบ้านคะ
-โอกาสที่เขาจำเป็นต้องเลือกคะ เพราะไม่มีทางเลือก ที่จะดีไปกว่านี้แล้ว แม้จะเป็นโอกาส ก็เป็นโอกาสของผู้ด้อยโอกาสดีดีไปเหมือนเดิมคะ
-ภาพที่มอบให้ ได้ข้อคิด เหมือนชีวิตที่มืดมน รอฟ้าสว่างคะ ขอบพระคุณคะพี่ใหญ่
สวัสดีคะ น้องกู๊ดดี้คนเก่ง ป้าสุคิดถึงน้องกู๊ดดี้เหมือนกันคะ ดีแล้วคะ ที่ไม่ประมาท ตั้งใจเรียนสูงๆนะครับ ถ้าเรียนสูงเป็นคนดีพร้อม เราจะฉลาดขึ้น และจะไม่เป็นคนด้อยโอกาส เพราะเรารู้ทัน โอกาสดีดี เสมอคะ และอย่าลืม ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือ รู้จักประมาณตน มีเหตุมีผล สร้างภูมิคุ้มกัน รู้จักหา รู้จักเก็บ รู้จักใช้ จะไม่ยากจนคะ
- ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ ป้าสุจะไปเยี่ยมคืนคะ
สวัสดีค่ะพี่สุมาอ่านเรื่องราวคนยากไร้แล้วก็พบว่ามีทุกที่ ทุกแห่งค่ะ อาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำได้รับผลกระทบก็น่าคิดกับความแตกต่างนะคะ
สวัสดีค่ะพี่สุ
น่าเห็นใจมากค่ะ กลุ่มคนเหล่านี้มีอยู่ทุกที่ค่ะ ที่โรงเรียนของหนูก็มีเยอะ เด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองยากจน ไม่มีที่ทำกิน หาเช้ากินค่ำ รับจ้างไปวันๆ เด็กๆ ที่มาเรียนก็ไม่เป็นอันเรียน ไม่มีข้าวกิน บางครั้งก็ต้องหยุดเรียนไปก็มี โรงเรียนต้องให้ความช่วยเหลือเยียวยา... เห็นแล้วสงสารค่ะ
พี่สุสบายดีไหมคะ ที่กระนวนฝนตกมากไหมคะ? ที่อุตรดิตถ์ตกเยอะและหนัก จนเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่เลยค่ะ
คิดถึงนะคะ...
"ทรัพยากรบนโลกนี้มีพอสำหรับทุกคน แต่มีไม่พอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว" มหาตมะ คานธี
สวัสดีครับป้าสุ ......ขอบพระคุณที่แวะไปทักทายครับ....