ตำนานขึดล้านนาตอน "ต๋าแหลวกั๋นขึด"


คนล้านนาทำต๋าแหลวกันขึด ป้องกันอาถรรพ์ทั้งปวง

มีใครบ้างไหมที่ไม่กลัวขึดหรืออาถรรพ์  ความเป็นเสนียดจัญไรทั้งปวง  โดยเฉพาะเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ  ที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้  แต่มีเรื่องราวให้ท้าทายจนผู้คนเกรงกลัว  และบางรายถึงแก่ชีวิต  ด้วยเหตุนี้ไงเล่าผู้คนล้านนาจึงต้องมีต๋าแหลวป้องกัน....

  อันว่าต๋าแหลว  หมายถึงดวงตาของนกเหยี่ยวที่ชอบโฉบเฉี่ยวงาบไก่หน้อยหรืองับเอาลูกเจี๊ยบไปกินนั่นแหละครับ   เชื่อกันว่าดวงตาของเหยี่ยวหรือนกแหลวนี้นี่เองมันมีแววสามารถเห็นแต่ไกลๆ  อย่างเช่นมันบินร่อนไปมาในท้องฟ้า กางปีกอ้าถลาเล่นลมอย่างสบายใจ  แต่ดวงตามันสอดส่องดูมาเบื้องล่าง ดูว่าเหยื่อของมันมีอะไรบ้างที่ต้องการจะเอาไปเลี้ยงชีวิตมันในวันนี้ให้คงอยู่รอด...พอเห็นอะไรสักอย่างมันรีบดิกหัวโฉบลงมาเอาเหยื่อ..ฉับ..งาบติดปากไปโน่นแล้วละ...ปล่อยให้พ่อไก่แม่ไก่ร้องกะโต้กกะต๊ากตกกะใจหม้ดเลย  แหมลูกเราแท้ๆมันมาเอาไปกิน  จะบินไล่มันก็ไม่ได้เพราะปีกไก่ไม่สามารถแข็งแรงขนาดนั้น  ก็เลยต้องเป๋นเวรกรรมของลูกน้อย...โธ่..น่าสงสารเกิดมาไม่ทันใหญ่เป็นไก่เต็มตัวต้องมาตายเสียแล้วลูกเจี๊ยบเอ๋ย

ด้วยความเฉียบคมของแววตานกแหลวหรือเหยี่ยวนกเขานี่เองผู้คนล้านนาจึงคิดสร้างต๋าแหลวไม้ขึ้นมาเพื่อให้ต๋าแหลวไม้สอดส่องดูแลสิ่งอาถรรพ์ขึด เสนียดจัญไร  มิให้เข้ามากรายใกล้  โดยการไปตัดไม้ไผ่มาจักตอกขนาดตามที่ต้องการ  แล้วเลาะเหลาปาดเอาคมผิวไม้ออกให้หมด  หลังจากนั้นจึงนำเส้นตอกมาสานเป็นวงกลมหักทบปลายเส้นตอกให้สานกัน  แล้วปล้อยปลายเส้นตอกคลี่ออกไปคล้ายลำแสงพุ่งออกจากศูนย์กลางหรือดวงตาของแหลวหรือตาเหยี่ยวนกเขา...ทางภาคกลางเรียกกันว่า "เฉลว"

เมื่อสานเสร็จนำต๋าแหลวไปปักไว้ตามที่ต้องการป้องกันเภทภัย เสนียดจัญไร ขึด  อาถรรพ์    เช่น   ไปปักไว้ตามประตูบ้าน   ตามบริเวณที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ

  บางครั้งหากเป็นงานใหญ่ๆ  ผู้คนจะสานต๋าแหลวเจ็ดชั้น  เพื่อให้มีความต้นทานป้องกันหนาแน่นยิ่งกว่าต๋าแหลวธรรมดาทั่วไป

   ปัจจุบันการสานต๋าแหลวยังคงมีอยู่ทั่วไปตามบ้านเรือน  ผู้คนชนบทที่ยังคงนับถือต๋าแหลวในงานพิธีต่างๆไม่ว่างานมงคล   งานอวมงคล แม้แต่งานของวัดบางแห่งก็ต้องสานต๋าแหลวไว้เช่นกัน

หากต้องการเห็นของจริงก็ลองไปเที่ยวตามหมู่บ้าน ตามวัดชนบทกันเถอะครับหากเห็นไม้เส้นตอกสานข้างในเป็นวงกลม แล้วปลายซี่ไม้ตอกแผ่ออกไปดั่งลำแสงตะวันนั่นแหละต๋าแหลวละเน้อหมู่เฮา....

หมายเลขบันทึก: 387273เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2010 21:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 10:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

มีตำนวนเกี่ยวกับนกฮูกมั้ยครับ

สวัสดีครับคุณบีเวอร์....

ตำนานเกี่ยวกับนกฮูกที่ลุงมีอยู่เล่ากันว่า...

"นกฮูกใหญ่ทางล้านนาเรียกกันว่านกถืดทือ  เพราะมันร้องเสียง ถืดทือ..ถืดทือ...การร้องของมันเป้นที่สังเกตว่า  หากมีคนไข้อยู่และมันมาร้องใกล้ๆบ้านของคนไข้  เชื่อกันว่านกฮูกถืดทือเป็นสื่อของพวกผีปีศาจต่างๆ อีกไม่กี่วันคนไข้ต้องตายแน่นอน...ญาติพี่น้องจะเตรียมการทำพิธีศพไว้ล่วงหน้า...นี่คือตำนานนกฮูกถืดทือหรือปู่ติ๊ดกิ๋นปู๋  ทางภาคกลางเรียกกันว่านกเค้าแมวยักษ์"

 ส่วนอีกตำนานที่เกี่ยวกับนกเค้าแมวธรรมดาๆ ทั่วๆไปมักเชื่อกันว่าเป็นนกผีก้ะหรือนกฮูกผีปอบกล่าวกันว่า  " เมื่อบ่าวหรือหนุ่มไปเที่ยวบ้านสาวที่มีตระกูลเป็นผีก้ะหรือผีปอบ  เมื่อเวลายามค่ำคืน  เมื่อหนุ่มลาสาวลงจากบ้านเดินไปตามถนนในหมู่บ้าน  นกฮูกหรือนกเค้าแมวที่เป็นสื่อของผีก้ะจะบินตามมาส่งหนุ่ม  เมื่อเวลาจะเข้าประตูบ้านหนุ่มจะเห็นนกเค้าแมวจับอยู่ตามริมประตูบ้านส่งเสียงร้องเป้นสัญญาณว่าได้มาส่งแล้วเน้อ..."

  หากหนุ่มไม่อยากจะเป็นผีก้ะร่วมกับเจ้าสาวก็จะหยุดไปเที่ยวในบ้านหลังนั้น  แต่หากยังคงรักและต้องการจะแต่งงานด้วย เจ้าหนุ่มก็จะไม่เกรงกลัว แต่กลับไปเที่ยวและแต่งงานกับเจ้าสาวผีก้ะหรือผีปอบนั้นต่อไป

 นอกจากนี้ในฤดูหนาวมักได้ยินเสียงร้องของนกเค้าแมวกู่เรียกหาลูกในยามค่ำคืนเพราะมันเลี้ยงลูกน้อย   ผู้คนจะได้ยินเสียงกู่เรียกลูกท่ามกลางกลิ่นไอของหมอกเหมยยามดึกหรือยามใกล้รุ่ง   หากเป็นนักเดินทางไกลได้ยินเสียงนกกู้เรียกลูกแสดงว่าเป็นเวลายามเลยเที่ยงคืนไปแล้วต้องเตรียมตัวเดินทางไกลต่อไป....

เท่าที่ลุงเล่ามาเป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่งของนกฮูกหรือนกเก๊าของคนล้านนาครับมันบ่งบอกถึงการสังเกตสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติที่เราสามารถนำมันมาเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ที่เป็นผะหญาภูมิปัญญาของคนล้านนา...

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

สวัสดีเจ้า ลุงหนานนานๆได้เข้ามาเยี่ยมอ่าน ตำนานของบ่าเก่าบ้านเฮา ชอบเจ้าเพราะจะลืมกั๋นไปนักแล้ว ต๋าแหล่วฟังก็นึกถึงการสานลายขัดทำจากไม้ตอกเนาะท่าน 

                          

สวัสดีครับคุณ rinda""

ยินดีที่เข้ามาแว่อ่านครับ..แม่นแล้วลอ   การสานต๋าแหลวคือก๋ารสานเส้นตอกครับเพื่อเลียนแบบต๋าของนกแหลว...

มีคำตวาย(ทาย)คนเมืองว่า  " อะหยังเอ๊าะชอบกิ๋นไก่หน้อย...คำตอบก็คือ  "นกแหลวหรือเหยี่ยวนกเขา"...

ต๋าแหลวยังมีก๋ารแป๋งแถมนัก  เช่น  ว่าต๋าแหลวลม  ซึ่งเป็นเครื่องลางของขลัง  ต๋าแหลว 7  ชั้น    ต๋าแหลวคาเขียวเอาไว้กั๋นผี....

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา

ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆ

สวัสดีครับ..คุณบีเวอร์..

ยินดีที่เข้ามาแว่และแลกเปลี่ยนความรู้ครับ...

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาเยี่ยมเยียนกัน ช่วงนี้ฝนตกทุกวันเลย... รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
  • ด้วยความระลึกถึงค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

               

สวัสดีครับคุณบุษรา....

ขอบคุณที่แว่อ่านและเยี่ยมชม  ...ขอให้โชคดีและมีสุขภาพแข็งแรงครับ..

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา

  • ธุเจ้า พ่อลุงหนานพรหมมา..

แวะมาอ่านบันทึกพ่อลุงหนานเมื่อใดก่อทำหื้อนึกถึงเรื่องเล่าของป้อเจ้า  ^^  เรื่องผีๆ เรื่องบ่เก่า ป้อชอบเก็บมาเล่า  

วันนี้ได้หันพ่อลุงหนานพรหมมาในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันพูก 

อ้อ พ่อลุงหนานพรหมมาฮู้จักพินกะเหรี่ยงก่อเจ้า???????

สวัสดีอิหล้าเนปาลี....

ติดต๋ามกั๋นเมินนักแก..ยินดีที่ยังมาแว่อ่านเรื่องราวบ่ะเก่าของลุงหนาน...ก็เล่าไปต๋ามประสาคนเฒ่าเหมือนพ่อของอิหล้านั้นเนาะ..เพราะว่ามันจะสูญหายยายหยาดละอ่อนมันจะบ่ฮู้ความเป๋นมาของต๋นตั๋วฮากเหง้าแล้วจะทำหื้อสังคมแตกแยกไปเรื่อยๆ..

ขอบคุณที่บอกกล่าว  เรื่องหนังสือพิมพ์ก็ดี  โทรทัศน์ก็ดีเขาไปถ่านทำที่แหล่งเรียนรู้ผะหญาล้านนา  สวนชาปิ้งหินไฟเมินแล้วเน้อ... หากมีเวลาว่างก็ไปแอ่วหาลงุได้เน้อหมู่เฮา..

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท