ชื่อเรื่อง ผลของการเยี่ยมบ้านต่อการดูแลตนเองในผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลท่าวังผา จังหวัดน่าน
ผู้รับผิดชอบ นายแพทย์ชรินทร์ ดีปินตา , นางนภาพร มหายศนันท์ , นางญาณิน เสฎฐวุฒิพงศ์
โรงพยาบาลท่าวังผา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
1. ที่มาปัญหาและวัตถุประสงค์
โรงพยาบาลท่าวังผา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่านเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง มีประชากรที่รับผิดชอบทั้งหมด 53,635 คน มีผู้ป่วยเบาหวานที่ขึ้นทะเบียนรักษากับโรงพยาบาลทั้งหมดตั้งแต่ปี 2548,2549,2550 เท่ากับ 683 , 713 , 831 รายตามลำดับ ข้อมูลปี 2550 มีผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อน ดังนี้ ทางไต 31 ราย ทางตา 7 ราย การเกิดแผลเรื้อรัง 15 ราย การตัดอวัยวะ 11 ราย เป็นข้อมูลสะสม และมีการนอนโรงพยาบาลจากการควบคุมโรคไม่ได้ 223 ครั้งต่อปี และพบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่ขึ้นทะเบียนรักษาที่โรงพยาบาลท่าวังผาสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ตามเกณฑ์(80-130 mg./dl.) ปี2550 , 2551 ร้อยละ32.5 ,44.75 ตามลำดับโรงพยาบาลท่าวังผามีกระบวนการเยี่ยมบ้านเพื่อให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานได้เรียนรู้การดูแลตนเองให้เหมาะสมและควบคุมโรคได้ ผู้ศึกษาจึงมีความสนใจที่จะศึกษาถึงผลการเยี่ยมบ้านมีผลต่อการดูแลตนเองและควบคุมโรคได้หรือไม่ อย่างไร
2. วิธีการศึกษา
การดูแลผู้ป่วยเบาหวานมีเป้าหมายที่สำคัญคือส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อให้ควบคุมโรคให้อยู่ในระดับปกติหรือใกล้เคียงระดับปกติมากที่สุด โดยการศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความรู้ในการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานก่อนและหลังการเยี่ยมบ้าน ศึกษาเปรียบเทียบการควบคุมโรคเบาหวานก่อนการเยี่ยมบ้านและหลังการเยี่ยมบ้าน และศึกษาความพึงพอใจของผู้ป่วยเบาหวานต่อการเยี่ยมบ้าน โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน ที่มารับบริการที่คลินิกโรคเบาหวานโรงพยาบาลท่าวังผา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่านเลือกโดยการเฉพาะเจาะจง (Purposive salmpling) และใช้กระบวนการเยี่ยมบ้านตามแนวทางการเยี่ยมบ้านของทีมเยี่ยมบ้านโรงพยาบาลท่าวังผา การเก็บรวบรวมข้อมูลตามแบบสัมภาษณ์ก่อนและหลังการเยี่ยมบ้าน ระยะเวลาการศึกษาในช่วงเดือนตุลาคม 2551-กุมภาพันธ์2552วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ simple pair t test
3. ผลลัพธ์
จากการศึกษาพบว่า 1.) หลังการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยเบาหวานมีความรู้ในการดูแลตนเองเพิ่มขึ้นก่อนการเยี่ยมบ้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 2.) จากการศึกษาเปรียบเทียบการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มตัวอย่างก่อนและหลังการเยี่ยมบ้านพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีระดับน้ำตาลในเลือดก่อนการเยี่ยมบ้านเฉลี่ย 168.5 มก./ดล. แต่ภายหลังการเยี่ยมบ้านกลุ่มตัวอย่างมีระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ย 141.53 มก./ดล. 3.) ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างต่อการเยี่ยมบ้านพบว่ามีความพึงพอใจมากที่สุดในด้านกริยามารยาทอ่อนโยน สนใจและตั้งใจฟัง เปิดโอกาสให้ซักถามและรับรู้ปัญหาและความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัว
โดยสรุปผลการวิจัยครั้งนี้พบว่าการเยี่ยมบ้านมีผลต่อความรู้ในการดูแลตนเอง และการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยส่วนใหญ่มีความพึงพอใจมากต่อการเยี่ยมบ้าน
4. บทเรียนที่ได้รับและการนำผลงานไปใช้ประโยชน์ในงานประจำ (ต่อผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานและหน่วยอื่นๆที่ร่วมงาน)
ผู้ป่วย ผู้ป่วยมีความรู้ในการดูแลตนเองให้เหมาะสมกับโรคมากขึ้น
เจ้าหน้าที่ กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ทำงานเป็นทีมโดยมีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น
หน่วยงานอื่น เป็นแบบอย่างในการดูแลผู้ป่วยที่บ้านได้ตามความเหมาะสม
5. ผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน
1. พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่บ้านให้เหมาะสมกับบริบทของอำเภอท่าวังผา
2. กระตุ้นเจ้าหน้าที่ให้พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ป่วยที่บ้านให้มีความรู้ในการค้นหา และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย
สวัสดีครับคุณ นู๋นาย
แวะมาเยี่ยมและฝากประสาสัมพันธ์ข่าวถึงลูกจ้างสาสุขด้วยครับ
เชิญประชุมสัมนาวิชาการ และร่วมงานแสดงมุฑิตาจิต
ไหว้พระ 9 หวัดกับงานแสดงมุฑิตาจิต สืบสานประเพณีไทยในวันเกษียน
เรียนลูกจ้างทุกประเภทของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมประชุมสัมนาทางวิชาการ และร่วมแสดงมุฑิตาจิต แก่ท่านที่เกษียนอายุราชการปี นี้ ทางสมาคมลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ได้จัดงานสืบสานประเพณีไทยในวัยเกษียน ด้วยการทำบุญ ไหว้พระ เก้าวัด แก่พี่น้องชาวพุทธ และทำบุญร่วมละศิลอดที่มัสยิดสำหรับพี่น้องมุสลิม รายละเอียดที่นี้
คลิกโหลดเลย>>http://gotoknow.org/file/takra_takra/scan0002.pdf