การพัฒนาภาวะผู้นำในการทำงานเป็นกลุ่มให้ได้ทั้งงานและได้สุขภาวะในองค์กร
ในระบบโครงสร้างมหาวิทยาลัย รวมทั้งในเครือข่ายองค์กรทางการศึกษานั้น กลุ่มคนที่ทำงานบริหารจัดการและสนับสนุนทางวิชาการ นับว่าเป็นทุนมนุษย์และทุนศักยภาพที่สำคัญมากขององค์กร ทว่า สภาพความจำเป็นของสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการพัฒนาการด้านวิทยาการและเทคโนโลยี โดยเฉพาะทางด้านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารสนเทศ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและสืบเนื่อง ทำให้แนวคิดและแนวการบริหารจัดการกระบวนการทางการปฏิบัติจำเป็นต้องพัฒนาและจัดระบบดำเนินการให้สอดคล้องกับความจำเป็น
อธิบายภาพ : การเวิร์คช็อปของคณาจารย์และบุคลากรของภาควิชาศึกษาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี ๒๕๕๓ นอกจากเป็นการประชุมพัฒนายุทธศาสตร์และแผนดำเนินงานให้สอดคล้องกับความจำเป็นใหม่ๆอยู่เสมอแล้ว ก็มุ่งส่งเสริมการบูรณาการศักยภาพทางวิชาการทุกสาขาในภาควิชา รวมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาภาวะผู้นำเป็นกลุ่ม ให้ภารกิจต่างๆมีโอกาสสะท้อนกันและกันมากยิ่งๆขึ้น ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานวิชาการทุกด้านสามารถประสบความสำเร็จ คนทำงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีบทบาทสนองตอบต่อการพัฒนาของสังคม มากยิ่งๆขึ้น
การผสมผสานแนวคิดการทำงานแนวประชาคมและความเป็นชุมชน เข้าสู่การเป็นการพัฒนาภาวะผู้นำในการทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อได้ทั้งงานและได้สุขภาวะองค์กรด้วย เป็นแนวคิดและวิธีแปรสู่ภาคปฏิบัติอย่างหนึ่งที่มีความน่าสนใจมาก ฝ่ายพัฒนาบุคลากรและทรัพยากรมนุษย์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ จึงชวนให้ผมไปบรรยายและชวนคนทำงานในคณะมาศึกษาแนวทางดังกล่าวนี้ด้วยกัน
แนวคิดและวิธีบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมโดยวิถีภาวะผู้นำเป็นกลุ่มดังกล่าวนี้ นอกจากจะทำให้องค์กรและหน่วยงานย่อยๆภายในทำงานได้ผลดีขึ้นแล้ว ก็จะสามารถริเริ่มสนับสนุนให้เกิดการรวมตัวกันเป็นกลุ่มพัฒนางานและเรียนรู้การปฏิบัติของกลุ่ม CoP : Community of Practice ซึ่งเป็นนวัตกรรมการจัดการความรู้เพื่อการพัฒนาคุณภาพการดำเนินงานต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยมหิดลและหลายสถาบันการศึกษาให้ความสำคัญ ดังนั้น จึงเป็นการเตรียมความรู้และทักษะบุคลากรของคณะเพื่อการดำเนินงานดังกล่าวไปด้วย
ผมได้ไปบรรยายและพูดคุยพอให้ได้สัมผัส หากชอบและถูกอัธยาศัยในการทำงานของตนก็จะได้มีวิธีคิดและได้แนวสำหรับนำไปพัฒนาสู่การปฏิบัติของตนเองต่อไป โหลดเอาไปอ่านในรายละเอียดได้ตามลิงก์นี้ครับ การพัฒนาภาวะผู้นำเป็นกลุ่มเพื่อได้ทั้งงานและได้สุขภาวะในองค์กร .
ความเห็น (6)
สวัสดีคะ อาจารย์วิรัตน์ : งานพัฒนาบุคลากรและทรัพยากรมนุษย์ ก่อนจะเดินหน้าพัฒนาใคร คงต้องพัฒนาตนเองก่อนเป็นอันดับแรก .. งานนี้ถือว่าอาจารย์เป็นผู้นำพาพหุปัญญาสู่ภาวะผู้นำให้กับน้องๆ ในองค์กรของอาจารย์ เมื่อดูแบบฝึกปฏิบัติแล้วถ้าถูกจริตใครแล้วสามารถปฏิบัติได้ จะยิ่งส่งผลดีต่อบุคคลนั้นๆ และองค์กรของอาจารย์ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม และจะเป็นองค์กรสุขภาวะอย่างที่อาจารย์มาดหมายไว้คะ ..
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
- ที่อาจารย์ร่วมแลกเปลี่ยนทรรศนะในเรื่องการเพื่อได้พัฒนาตนเองก่อนให้ได้ประสบการณ์และความมั่นใจเพื่อนำไปใช้ทำงานนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าคงได้แก่คนของคณะละครับ
- ในแง่อื่นก็คงจะเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและการจัดการภายในคนของตนเอง ให้สามารถบูรณาการวิธีการทางการศึกษาและศาสตร์การจัดการเรียนรู้ ให้เข้าไปสู่องค์กรการทำงานเพื่อสะท้อนแนวคิดและเนื้อหาการทำงานในแนวโน้มใหม่ๆ
- แต่เวลาจำกัดมากครับ มีเวลาเพียง ๒ ชั่วโมง คนทำงานซึ่งโดยทั่วไปก็มักจะทำใจวางมือจากงานยาก ทะยอยมากว่าจะพร้อมและเริ่มคุยกันได้ก็ผ่านไปเกือบ ๔๐ นาที
- แต่เรื่องอย่างนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนคุ้นเคยกับการทำงานชุมชนและกับกลุ่มคนหลากหลายกลุ่ม จะหดหรือขยายกิจกรรมออกไป หรือจะเลิก ไม่จัดเลย หากมันดูเหมาะสมกับเงื่อนไขแวดล้อมต่างๆแล้วละก็ ก็ได้ทั้งนั้น
- งานนี้เลยรู้สึกสบายๆ เพราะใจหนึ่งก็คิดว่าตนเองจะได้ในแง่ขอทำงานให้คณะเพื่อแนะนำตนเองกับเพื่อนร่วมงานใหม่ๆเสียมากกว่าครับ
วันนี้ผมมีการประชุมเตรียมงานบนห้องดุษฏีประชากรครับ พอดี หนานเกียรติมาด้วยกับหนูเฌวาไปเยี่ยมที่ห้องพักอาจารย์ ไม่เจอครับ...
สวัสดีครับคุณจตุพร
- นี่ปลีกตัวออกมาจาก facebook แล้วแวะมาเยี่ยมบ้านเก่าใช่ไหมเนี่ย
- ขอบคุณนะครับที่แวะไปเยี่ยมกัน วันนี้ผม อาจารย์ ดร.เนาวรัตน์ และอาจารย์ในภาคหลายท่าน ไปร่วมการสัมนา การวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษา ที่สถาบันวิจัยภาษาแห่งเอเชียทั้งวันเลยละครับ กลับมาที่ห้องก็กว่า ๔ โมงเย็นแล้ว
- ฝากรำลึกหนานเกียรติและเฌวา แค่ทราบว่าหนูเฌวาแวะไปคณะก็ดีใจแล้วละ
- ตอนนี้รูปของหนูเฌวาขนไปที่เชียงใหม่แล้ว พร้อมกับรูปเขียนอื่นๆ แล้วก็ขอทำเป็นสำเนาออกมา ๓ ชุด
- จำเพาะรูปของเฌวาก็จะนำไปเข้ากรอบ แล้วนำกลับมาให้ครอบครัวของหนานเกียรตินะครับ
- ส่วนรูปต้นฉบับนั้น ผมตั้งใจว่าจะติดตั้งรวมกับภาพทั้งหมดที่หอศิลป์ในบ้านที่สันป่าตอง และจะเป็นที่พบปะเสวนาของคนทำงานที่ชอบแนวนี้นะครับ
- การขับเคลื่อนแบบวิชาการ
- ถ้าขับเคลื่อนทั้งคณะจะมีความุขกับการทำงานนะครับ
- วันที่ 28 สค จะแวะไปหาอาจารย์นะครับ
สวัสดีครับอาจารย์ ดร.ขจิตครับ
- มุมมองของอาจารย์น่าสนใจและท้าทายดีครับ
- งานแนวนี้จะเหมาะที่จะเคลื่อนไหวไปกับคนชอบอ่าน ศึกษาค้นคว้า รักความรู้ รักการเรียนรู้จากการทำงาน รักการได้เรียนรู้จากผู้คนและชุมชน
- ค้นพบและส่งเสริมการรวมกลุ่มของคนที่มีวิถีปฏิบัติตนอย่างนี้ได้ บางทีก็คงสามารถสนับสนุนงานต่างๆด้วยวิธีการความรู้และการจัดการตัวคนผู้มีประสบการณ์ความรู้อยู่ในตนเองอย่างนี้ให้ทำได้ในระดับคณะนะครับ
- หรือบางเรื่องก็อาจจะทำได้ในระดับความเป็นสาธารณะที่ใหญ่กว่าในองค์กรคณะ
- ดีครับอาจารย์ มานั่งผ่อนคลายชีวิตที่ศาลายา-พุทธมณฑลกันสักหน่อยนะครับ