หนานเกียรติ
เกียรติศักดิ์ หนานเกียรติ ม่วงมิตร

GTK Camp IV (ตอน ๑๑ - นับเลข/ปรบมือ : เกมปราบเซียน)


        ผมมีเกมเพื่อการเรียนรู้เกมหนึ่งที่ใช้หากินอยู่เป็นประจำ นั่นคือเกมนับเลข

        ที่ค่ายฯ นี้ก็ใช้ครับ ใช้เล่นตั้งแต่วันแรก แต่เด็ก ๆ เล่นเกมไม่ประสบผลเลยยกมาเล่นอีกครั้งตอนค่ำวันเดียวกันก็ไม่ประสบผลอีก และได้เล่นอีกครั้งในช่วงค่ำวันถัดมา

        เกมนับเลข เป็นเกมที่มีคติสอนใจดีมาก ๆ เกมหนึ่งในทัศนะผม หากผู้ดำเนินรายการตั้งคำถามให้เกิดการสรุปบทเรียนจากเกมได้ดี ผู้เล่นก็จะเกิดการเรียนรู้มาก

        วิธีการเล่นเกมนี้ จะให้ผู้เข้าร่วมนั่งล้อมกันเป็นวงกลมวงเดียว แล้วให้แต่ละคนขานนับเลขเรียงกันตั้งแต่ ๑ ไปจนถึง ๑๐๐ แต่มีกติกาที่สำคัญก็คือ ในจำนวนใดที่มีเลข ๓ และ ๗ มิให้คนที่ตรงกับจำนวนนั้นขานจำนวนออกมา แต่ให้ปรบมือแทน คนที่มิใช่มีจำนวนที่มีเลข ๓ และ ๗ ก็ขานได้อย่างเดียวห้ามปรบมือ หรือทำท่ายึกยักว่าจะปรบมือ การทำผิดพลาดต้องเริ่มต้นนับใหม่ ผิดที่ใครให้เริ่มนับใหม่ที่คนนั้นเวียนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบ ๑๐๐

        ใครที่ไม่เคยเล่นเกมนี้ และเพิ่งจะเล่นเป็นคราวแรกส่วนใหญ่มักกระหยิ่มคิดว่าง่าย... แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ

        นี่แหละครับที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เยาวชนกลุ่มนี้เล่นกันถึง ๓ รอบกว่าจะผ่าน ตามหลักแล้วในการอบรมแต่ละครั้งเขาจะเล่นกันครั่งเดียวครับ แต่ต้องเผื่อเวลาไว้นานมาก ๆ บางแห่งใช้เวลาเกินกว่าชั่วโมง

        ในครั้งสุดท้ายที่เล่น ทำท่าจะเลิกเอากลางคันโดยไม่สนถึงความสำเร็จ แต่ครั้งนี้ผมไม่ยอม ต้องให้ผ่านจึงจะเลิก มีบางคนแอบเดินออกไปจากวงด้วย

        ทุกคนในวงไม่มีใครไม่ผิด ยกเว้นทีมที่ไปด้วยเนื่องจากเคยเล่นมาแล้วหลายรอบ บางคนผิดบ่อยมาก บางคนผิดไม่กี่ครั้ง สาเหตุที่ผิดก็มีหลากหลาย เผลอขานนับทั้งที่ต้องปรบมือ เผลอปรบมือทั้งที่ต้องขาน บ้างก็งงไม่ทันขานนับหรือปรบเพราะไม่ใส่ใจ ฯลฯ บางคนผิดในการนับตอนจำนวนยังไม่มากนัก บางคนผิดเมื่อนับไปจนค่อนแล้ว...

        ผมหยุดพักเกม เมื่อเล่นมาพักใหญ่แต่ก็ยังไปไม่ถึงไหน ผมถามว่าเพราะอะไรเราจึงยังไปไม่ถึงจุดหมาย

        คำตอบมากมาย หลากหลายจากวง เช่น มันยาก บางคนไม่สนใจ ไม่มีสมาธิ ขานนับเบาเกินไปจึงไม่ได้ยิน มองไม่เห็น ฯลฯ 

        ผมถามต่อว่าทำอย่างไรจึงจะไปให้ถึงจุดหมาย

        บางคนบอกว่าใครผิดให้ออกจากวงไป บางคนบอกว่าให้ลงโทษคนทำผิด บางคนบอกว่าให้ออกมาเต้น ฯลฯ

        ผมบอกว่าเกมนี้ต้องร่วมกันเล่นจนกว่าจะนับได้ถึงร้อย ไม่มีการคัดคนผิดออก ไม่มีการลงโทษคนใดคนหนึ่ง หากจะลงโทษก็ต้องลงโทษทุกคน ความผิดพลาดเป็นของทุกคน ไม่มีการโยนให้คนใดคนหนึ่งรับ

        ผมถามต่อว่าหากเราจะถึงจุดหมายร่วมกันจะต้องทำอย่างไรบ้าง

        คราวนี้มีข้อเสนอที่สร้างสรรค์ออกมาหลายประการ

        เช่น ต้องตั้งใจ ต้องสนใจการนับเลขของเพื่อน ๆ รอบวงด้วย ต้องมีสมาธิ ขานนับให้มีเสียงดังพอที่คนอื่นจะได้ยิน ขานนับช้า ๆ จัดที่นั่งใหม่ให้ทุกคนเห็นหน้ากัน มีข้อเสนอให้คนที่ผิดบ่อยเปลี่ยนที่นั่งไปอยู่ใกล้ ๆ เพื่อนที่ไม่ค่อยผิด ฯลฯ

        จากนั้นก็เริ่มนับใหม่ แม้ว่ายังมีผิดพลาดแต่การนับเลขก็นับถึงจำนวนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ บรรยากาศการนับเลขรอบวงผิดไปจากรอบแรกอย่างเห็นชัด จริงจังตั้งใจมากขึ้น การล้อเล่นในวงหมดไป ทุกคนจับจ้องอยู่กับการนับเลขของเพื่อนรอบวงแต่ละคน บ้างก็ช่วยเตือนเพื่อนด้วยวิธีการต่าง ๆ ฯลฯ

        และไม่นานนักการนับเลขจากหนึ่งถ็ถึงจำนวนร้อย เสียงปรบมือและเสียงเฮลั่นสนั่นเรือนด้วยความยินดีปรีดาของสมาชิกแต่ละคนจากความสำเร็จร่วมกัน ผมเองแม้จะผ่านการเล่นเกมนี้มาไม่น้อยก็ยังรู้สึกไม่ต่างไปจากเด็ก ๆ

        ผมถามเด็ก ๆ ว่าความสำเร็จนี้เป็นของใคร เด็ก ๆ ตอบว่าเป็นของทุกคน

        ผมถามต่อว่าเราได้ข้อคิด ได้เรียนรู้อะไรจากเกมนี้บ้าง คำตอบแรก ๆ ที่ผมได้ยินคือ ต้องมีความสามัคคี ต้องมีสมาธิ เด็กตอบมาอย่างเสียงดังฟังชัด

        ผมถามต่อว่าสามัคคีอย่างไร มีสมาธิอย่างไร คราวนี้ไม่มีเสียงตอบ

        ถึงตรงนี้ผมก็สรุปในใจว่าเด็ก ๆ มักจะจดจำหลักหารนามธรรมมาตอบ แทนที่จะสรุปบทเรียนจากของจริง ประสบการณ์จริง ผมจึงอธิบายเพิ่มเติมถึงคำที่เด็ก ๆ สะท้อนมา ทั้งสองคำ

        ผมอธิบาย “สมาธิ” ว่า โดยศัพท์แล้วสมาธิแปลว่าการตั้งมั่น ในเกมการตั้งมั่นคืออะไรผมถามเด็ก ๆ เด็ก ๆ บอกว่าตั้งมั่นกับตัวเลข การนับเลขทีละเลขของเพื่อนแต่ละคนทุกคน ผมบอกเด็ก ๆ ว่าการที่จิตไม่วอกแว่กไปนอกเหนือจากจำนวนที่เพื่อนนับนั่นเรียกว่าจิตที่ตั้งมั่น ซึ่งก็คือสมาธินั่นเอง

        ส่วน “สามัคคี” ผมอธิบายว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นของทุกคน เพราะทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ทำตนให้เป็นภาระของผู้อื่น อีกทั้งก็พยายามทำตนเองให้ดีที่สุดด้วย การที่เราผิดพลาดไม่ว่าไม่อยากทำผิดแต่ทั้งกลุ่มก็ต้องรับผิดชอบ และเมื่อแต่ละคนร่วมไม้ร่วมมือทำหน้าที่ในส่วนของตนเองให้ดีที่สุด ในขณะที่ก็ต้องเอื้อประโยชน์ให้คนอื่นได้ ทั้งหมดนี้เราเรียกว่าความสามัคคี

        ผมคุยกับเด็ก ๆ ต่อว่า ทุกคนไม่อยากทำผิด การทำผิดพลาดแล้วทำให้กลุ่มต้องเดือดร้อนและรับผิดชอบกับความผิดพลาดนั้นไม่มีใครไม่เสียใจ ดังนั้นในการทำงานกลุ่มหรืออยู่ร่วมกันในสังคมเมื่อมีบางคนผิดพลาด เราก็ควรที่จะให้อภัยและเริ่มต้นกันใหม่ ในขณะเดียวกันคนที่ผิดพลาดก็ต้องจดจำไว้เป็นบทเรียน ไม่ผิดซ้ำอีก

        เราเล่นเกมนี้จนดึกกว่าจะถึงเป้าหมาย ผมจึงหยุดการสรุปบทเรียนไว้เท่าที่เล่ามา และหากมีเวลาอีกหน่อยผมก็จะสัมภาษณ์คนที่ผิดบ่อย กับคนที่ไม่ผิดเลยว่ารู้สึกและทำอย่างไรจึงเป็นแบบนั้น ดังที่ผมมักจะทำในการสรุปบทเรียนเกมนี้ในที่อื่น ๆ ซึ่งมีเวลามากกว่านี้

        บันทึกนี้ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่า ขอเล่าต่อบันทึกหน้านะครับ...

 

หมายเลขบันทึก: 383080เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2010 13:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ

ข้อสังเกตมากมาย เพราะมีเด็กต่างระดับกันถึงคนโต ๆ ไม่เคยเห็นที่ไหนเล่นยากแบบครั้งนี้เลย

เด็กที่โรงเรียนพี่คิมระดับประถมก็เล่นได้  ตอนแรก ๆ เขาจะผิดบ่อยและไม่นิ่ง  แล้วต่อ ๆ เขาจะนิ่งมากขึ้นเองโดยไม่มีคนต้องบอก

เมื่อเล่นคละระดับกัน  เด็กโตจะผิดพลาดมากกว่าเด็กเล็ก...แบบนี้ทดลองหลายครั้งแล้ว 

วันนั้นสังเกตออโตผิดเพียง ๑ ครั้ง  อันนี้ก็น่าเป็นบทเรียนของเรานะคะ

..สวัสดีค่ะคุณหนานเกียรติ..อ่านแล้วอยากหัดเล่นเกมนี้บ้าง...เล่นกันคนแก่ๆ้ด้วยกัน...หรือเล่นกับเด็ก...หรือเล่นกันในหมู่ต่างวัย...เล่นกันในยามว่าง...เล่นกันในครอบครัว..ไม่ว่ายากดีมีจน...เล่นจนเป็นนิสัย..แล..เป็นวินัย...แลมีครูที่อธิบายดีอย่างคุณหนานเกืยรติ(ชอบใจตรงที่ไม่มีการลงโทษ..เจ้าค่ะ..อยากไชโยให้ตรงนี้ด้วยเจ้าค่ะ..)...ยายธีค่ะ

เคล็ดวิชา ๔ ส สมาธิ สามัคคี แถม "สติ" ด้วยครับ จึงจะ ส สำเร็จ 

  • เยี่ยมยอดเลยครับ เล่นเกมไป สนุกไป สอนเด็กๆไป สาระสำคัญอยู่ที่สมาธิ สามัคคี ร่วมมือร่วมใจ ไม่มีใครอยากผิด ไม่มีใครอยากถ่วงความสำเร็จของกลุ่ม เป็นเกมที่ไม่แข่งขัน ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งแพ้หรือชนะ ผลออกมาหมายถึงผลงานของทุกๆคน ไม่มีการคัดออก ไม่ยกย่องคนหนึ่งคนใดเป็นพิเศษ..สัปดาห์หน้าสอนลูกเสือ จะลองเอาไปเล่นและสอนนักเรียนดูด้วยตัวเองครับ
  • ขอบคุณความรู้ และขอบคุณหนานเกียรติที่แวะไปเยี่ยมเยือนบ่อยเลยครับ

โอ้โห เด็กๆ เก่งจัง นับจนครบร้อยด้วย...คงได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเกมส์นี้

ดาวชอบเกมส์นี้มาก เพราะเป็นเกมส์สำหรับฝึกสติและสมาธิได้อย่างดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ

ขอปรบมือด้วยความชื่นชมให้กับเด็กๆ และผู้จัดกิจกรรมค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท