จารุวัจน์ شافعى
ผศ.ดร. จารุวัจน์ ชาฟีอีย์ สองเมือง

ในคืนที่เหนือความคาดหมาย


เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาเป็นอีกวันที่สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่สำหรับผมเกี่ยวกับเรื่องรถครับ ปกติเคยแต่ได้ยินว่าอุบัติเหตุบางครั้งเกิดจากเบรคแตก แต่ไม่เคยรู้เลยว่าอาการมันเป็นไง แต่คราวนี้ได้รับรู้ด้วยตัวเองครับ ถึงแม้จะเป็นความรู้ที่ไม่อยากเจอะเจอก็ตาม อันเนื่องจากสัปดาห์นี้ (ตลอดสองเดือนนี้แหละครับ) ผมมีงานต้องไปประชุมร่วมกับเครือข่ายอุดมศึกษาหลายครั้งมากครับ วันอังคารที่ผ่านมาหนึ่งครั้ง เป็นเครือข่ายประกันคุณภาพออนไลน์ ซึ่งผมก็พลาดเองครับ ออกจากบ้านช้ากว่ากำหนด จึงต้องเร่งแบบสุดชีวิต ไปถึงที่ประชุมก็ช้าไปห้านาที แต่ก็กลายเป็นคนสุดท้ายที่ถึงไปในห้องประชุมครับ และก็ทำให้ประธานในที่ประชุมไม่ยอมเริ่มการประชุม ดังนั้นพอผมหย่อนก้นลงนั่งปุ๊บ ประธานก็เปิดการประชุมทันที งานนี้อายมากครับ (ไม่น่าเลยเรา) ในขณะเดียวกันขากลับก็ต้องรีบอีกเหมือนกันครับ อันเนื่องจากมีภาระกิจส่วนตัวที่บ้านต้องกลับมาสะสางให้ทัน สรุปว่าทั้งขาไปและกลับรีบสุดชีวิต ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ ผมรู้สึกว่าเวลาผมเข้าโค้งจะมีเสียงดังตักๆๆ ซึ่งมาจากล้อครับ แต่คิดว่าน่าจะมาจากยางรถที่รอบนี้ใช้ยางราคาถูกหน่อย (ฮิฮิ ซื้อยี่ห้อนี้ตามคำแนะนำของเจ้าของร้าน)

(ผมไม่แน่ใจว่าผมสื่อสารกับ รปศ. ผิดพลาดตรงไหน ผมย้ำแล้วว่า นศ.ต้องเป็นคนนำเสนอ)

และครั้งนี้ (วันพฤหัส) ผมไม่ได้รีบครับ เพราะงานนี้เผือเวลาไว้เลย แต่บังเอิญเริ่มติดนิสัยขับรถเร็ว (ฮิฮิ) ขับถึงดอนยางก็ได้ฟังรายการวิทยุหนึ่ง แนะนำ 2 เรื่องครับ คือ หนึ่ง  ยางรถไม่ควรปะเกินสองครั้ง ในส่วนหน้ายางครับ ถ้าเป็นแก้มยางไม่ต้องปะครับ เปลี่ยนทันที ฮือ ล้อหน้ารถผมเมื่อสามวันก่อนเป็นการปะครั้งที่สองแล้วครับ (เข้าประเด็นหนึ่ง) สองคือหากเวลาขับรถมีเสียงล้อดังตักๆๆ ควรทำการเช็คยางครับ เพราะนั้นแสดงว่า ผิวล้อสัมผัสถนนไม่เสมอกัน อาจมีอันตรายได้

(แก็งค์หนุ่มหล่อ)

ฮือ สองประเด็นนี้โดนผมครบทุกเรื่องเลยครับ เพียงแต่อย่างหลัง กรณีของผมเฉพาะตอนเข้าโค้ง แต่หลังจากนั้นผมรู้สึกว่า เสียงดังตักๆ มันดังบ่อยขึ้นครับ เลยตั้งใจว่า และแว้บตอนพักเที่ยงไปเช็คดูหน่อยแล้วกัน เนื่องจากวันนี้คิวประชุมตามกำหนดเสร็จทุ่มหนึ่ง แต่แล้วมีการเปลี่ยนเวลาเล็กน้อยครับ ปรับเอาประชุมตอนเย็นมาประชุมตอนหลังทานอาหารเที่ยง (ฮา แว้บไม่ได้) เสร็จประชุม บ่ายสามกว่านิดๆ ผมก็ลืมไปเลยครับ เอาโทรศัพท์ที่เพิ่งไปซื้อใหม่มา (มือสอง) ไปแก้รหัสผ่านที่ศูนย์ imobile แทนการเอารถไปเช็ค กลับบ้านก็หกโมงกว่าครับ (ออกจากหาดใหญ่) ตลอดทางช่วงแรกผมใช้ความเร็วเครื่องมากหน่อยครับ เพราะอยากจะไปละหมาดให้ทันที่จะนะ (ไม่รู้จะรีบไปทำไมไม่เข้าใจเหมือนกัน ออ. นึกออกแล้วครับ อันเนื่องจากหิวจนตาลาย ฮา) แต่ข้อสังเกตเกี่ยวกับล้อก็มากขึ้นด้วยครับ เนื่องจากมีเสียงถี่มากขึ้น

หลังจากนั้นก็ขับแบบสบายๆ ครับ คิดว่า ถึงบ้านดึกหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่แล้วพอจะเข้าสู่ด่านตรวจบ้านคลองทรายใน ซึ่งเป็นด่านทหารด่านเดียวจากวงเวียนแยกไปปัตตานีถึงยะลา (ถนนสายใหม่) ผมรู้สึกว่าผมเริ่มจะบังคับรถไม่ได้ครับ ที่สำคัญ ผมเหยียบเบรกแต่ไม่มันตอบสนองครับ เบรกเบาครับ หลวมไปเลยครับ แต่ดีที่รถผมมันหยุดของมันเองครับ จ่อก้นรถเก่งสีดำคันหนึ่งซึ่งจอดริมถนนตรงด่านทหารพอดี 

ทหารถามว่า จอดทำไม ไม่ได้ใช้ให้จอด ผมก็บอกว่ารถผมมีปัญหาครับ เบรกแตก บังคับรถไม่ได้ แล้วก็เหลือบมองไปรถคันข้างหน้าแล้วถามว่า คันนั้นเป็นอะไรครับ ทหารก็ตอบว่า เสียเหมือนกัน กำลังรอช่าง อือ ดีจัง ผมไม่มีเบอร์ช่างเลย ถ้ามาซ่อมของเขาก็ฝากของผมด้วยแล้วกัน ฮิฮิ แต่สุดท้ายความหวังว่าช่างจะมาหายไปแล้วครับ คอยแล้วคอยเล่าช่างก็ไม่มา ทหารก็เริ่มลงมือตรวจเช็ครถคันหน้าผมก่อน ระหว่างเช็คก็มีอีกหนึ่งคันจอดริมด่านอีกเช่นกัน งานนี้เห็นว่ากระจกแตก เช็คแล้วขับต่อได้ก็เลยไปต่อ

เพิ่งรู้สึกว่า ทหารชุดนี้ตั้งค่ายได้ถูกที่จริงๆ เมื่อได้ยินทหารบ่นว่า ตรงนี้มีทุกคืนแหละครับ มีรถเสียมาจอดทุกคืนเลย ฮา จากรถคันแรก ทหารท่านหนึ่งก็มาเช็ครถของผมครับ เขาตั้งข้อสมมติฐานว่า น้ำมันเบรคแห้ง (ผมไม่เชื่อ เพราะรถเช็คระยะไม่เคยขาด) ซึ่งพอเปิดดูก็พบว่า น้ำมันเบรคเต็ม ผมเลยขึ้นนั่งแล้วก็ย้ำเบรกสามสี่ครั้ง ทหารก็บอกว่า เฮ้ย น้ำมันเบรกแห้งหมดแล้ว ก็มีเสียงดังมาจากหลังรถว่า น้ำมันเบรกรั่วอยู่ล้อหลังเว้ย ฮาฮา น้ำมันละเลงเต็มพื้นถนนเลยครับ

งานนี้มีคำแนะนำว่า ขับไปเรื่อยๆ ได้ แต่ขับไม่เกิน 40 แล้วก็ใช้เบรกมือเอา ผมเลยโอเคครับ กูจะกลับบ้าน เลยสตาร์ทรถครับ ขับได้นิดเดียว ทหารก็พากันตะโกนบอกว่า จอดๆ ๆๆ ล้อรถพี่จะหลุดแล้ว ฮา

ลงมาดูเลยเห็นกับตาครับ ล้อหลังฝั่งคนขับมันเฉไปอีกทางหนึ่งครับ สุดท้ายไม่มีทางเลือกอื่นๆ ครับ ต้องจอดไว้ที่นี่ แล้วโทรหาใครสักคนให้มาช่วยรับนายอีย์กลับบ้านหน่อย (ออ ตอนผมลองขับนี้ เก่งคันแรกไปแล้วครับ ถามผมแล้วว่าจะไปด้วยหรือเปล่า แต่ตอนนั้นยังคิดว่า น่าจะยังขับไปได้ครับ) ฮือ โทรหาใครดี เอาเป็นว่าโทรหาคนโสดๆ ก่อนแล้วกัน อ.สุวิทย์ ปรากฏว่าไม่ได้อยู่ยะลาครับ อ.สุวิทย์เลยบอกว่า เดี๋ยวจะประสานหาคนมาช่วยดูรถให้ ซึ่งสักพักแบร์มัง กะลูแป (กองอาคารฯ) ก็โทรมา ถ้าคนนี้ก็ต้องบอกว่า อ.สุวิทย์แนะนำถูกคนจริงๆ เรื่องรถต้องยกให้เขา

งานนี้ออกจากบ้านด้วยโซลูน่า แต่กลับถึงบ้านด้วยแคมรี่ คันใหม่รอขายของแบร์มังครับ ฮิฮิ โฆษณาให้เลยใครสนใจ รถแคมรี่สภาพเยี่ยมในราคาห้าแสน (หรือเปล่าจำไม่แม่น) ส่วนโซลูน่าของผม นายทหารท่านหนึ่งให้เอาไปจอดไว้ในค่ายทหารเลยครับ เพราะท่านกลัวว่าถ้าจอดไว้ริมถนน อาจจะมีการชนท้ายจากรถมาชนท้ายเอาได้ แต่นั่นแหละครับตอนขับเข้าค่าย ทหารแนะนำว่า ขับให้ช้าที่สุด ที่สำคัญห้ามถอยหลัง ไม่งั้นล้อหลุดแน่ๆ

แบร์มังส่งผมถึงบ้านครับ พร้อมแนะนำช่างให้เรียบร้อย ตื่นเช้ามาเลยขอใช้บริการรถซิตี้ของฮำดันไปร้านค็อกฟิดการช่างครับ ได้ช่างเรียบร้อยกำลังจะไปเอารถ ฮือ ล้วงกระเป๋า โอ่ ลืมกุญแจรถไว้ที่บ้านอีกแล้วจะซ่อมรถยังไงเนี๊ยะ กลับไปบ้านอีกรอบ ฮือ เซ็งจริงๆ ทั้งๆ ที่รีบอยู่ เพราะวันนี้ต้องไปหาดใหญ่อีกรอบด้วยภารกิจส่วนตัว

ช่างเอาแม่แรงประคองรถครับ แค่นั่นแหละครับ ล้อมันก็หลุดออกมาเลย ดังนั้นก็เหมือนกับที่ทหารพูดเมื่อคืนครับ ดีแค่ไหนแล้วที่ล้อมันไม่หลุดขณะรถวิ่งอยู่ (มาตรฐานความเร็วที่ผมขับคืนนั้นคือ 100 กม.ต่อ ชม.ครับ) ช่างก็เอาล้อใส่กลับครับ แล้วก็ขับกลับมาซ่อมต่อที่ร้าน ใช้เวลาไปทั้งสิ้นเกือบสองชั่วโมงครับ

(อะไรเอ๋ย ขยับปุ๊บ ก็หลุดปั๊บ ฮิฮิ ล้อรถผมเอง)

ผมก็คิดว่าถ้าเร่งทำเวลาหน่อย ผมอาจจะไปทันทำภารกิจที่หาดใหญ่ครับ เลยรีบไปรับลูกๆ แล้วก็มุ่งหน้าไปหาดใหญ่เลย แต่พอถึงไปที่จะนะ น้องชายก็โทรมาว่าไม่ทันแล้ว ไม่ต้องมาแล้ว ฮือ งานนี้เลยเลี้ยวกลับครับ แก้เซ็งด้วยการแวะให้ลูกๆ ได้เล่นน้ำทะเลที่สะกอม

 

(ไหนๆ ก็ไหนๆ เช็คเสียให้ครบเครื่องเลย ฮือ)

ในความแย่ๆ วุ่นๆ ก็มีอะไรที่ดีๆ อยู่เหมือนกันครับ อย่างน้อยก็เหมือนกับที่หลายคนพูดคือ ถ้าล้อมันหลุดออกระหว่างรถวิ่ง ผมคงได้ไปนอนโรงพยาบาลอีกรอบ ฮือ ในขณะลำบาก เราก็ได้เห็นหลายมือยื่นมาเพื่อช่วยเหลือครับ ในความรีบร้อนและพลาดโอกาส ผมก็ยังได้มีโอกาสพาลูกๆ เล่นน้ำทะเลได้

งานนี้ผมเลยได้ความรู้เรื่องรถเยอะขึ้นเลยครับ ปกติขับอย่างเดียว การดูแลรถไม่มีอะไรมากนอกจากการขับเข้าศูนย์บริการตามระยะ ผมว่าหลายคนคงไม่รู้หรอกครับว่า อาการรถเบรกแตกเป็นงัย ฮิฮิ มีใครอยากลองยกมือขึ้น ฮา

หมายเลขบันทึก: 382740เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2010 23:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

อัลฮัมดุลิลลาฮฺที่ยังคงปลอดภัยนะครับ

ถ้าจะให้แนะนำด้วยความเป็นห่วง

ผมไม่แนะนำเรื่องลดสปีดของรถหรอกครับ

ผมจะแนะนำว่าลดสปีดของชีวิตลงสักนิดก็ดีนะ..

ขนาดผมอ่านยังเหนื่อยแทนเลย

ประหยัดสุขภาพบ้าง เอาไว้ใช้งานนานๆ...

ขอบคุณครับอาจารย์ อัสสะกอมี 

อยากได้ตัวช่วยอยู่เหมือนกันครับ กำลังคุยๆ อยู่ เผือชีวิตจะใช้งานได้นานขึ้น ฮิฮิ

อัลฮัมดุลิลละฮฺ...อ่านแล้วเหนื่อยแทนเหมือน อ.อัสสะกอมี ว่านั่นแหละครับ

รถพังยังซ่อมซื้อใหม่ได้แต่ถ้าร่างกายคนมันแย่ที่แน่ๆทำแทนลำบากครับ (คนคุณภาพ)

ดูแลสุขภาพด้วยครับ

อัลลอฮฺคุ้มครองครับ

รถผมก็โซโลน้าเหมือนกันครับ ขับเป็นอย่างเดียว ต้องหาเวลาไปเรียนรู้ความรู้เล็กๆน้อยๆเรื่องรถยนต์ซะแล้ว ก็ขอให้เราระมัดระวังในการใช้รถนะครับ ผมขับไม่เกิน100 หากทางไกลก็ไม่เกิน120 รถมันเล็กเท่านี้ คุณภาพเท่านี้ แถมยังไม่เกาะถนนเท่าที่ควร เอาเท่านี้ก้อพอ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของตนเอง ครอบครัว และผู้อื่น ก็ขอดุอาร์ ให้เราทุกคนปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน.

ฮืม..........อาจารย์ปลอดภัยก็ดีแล้วครับ.....

อ่านด้วยลุ้นไปด้วยครับ...คิดอยู๋ว่าอาจารย์ต้องปลอดภัยครับ

อัลฮํมดูลิลละฮฺ

อัลฮํมดูลิลละฮฺค่ะ...ที่อัลลอฮ์คุ้มครองอาจารย์ให้ปลอดภัย

รถเสียหายไม่เป็นไร ยังไงก็ซ่อมได้ แต่หากอาจารย์เป็นอะไร คนด้านหลังจะเป็นอย่างไร?

ขอให้อัลลอฮ์คุ้มครองอาจารย์ค่ะ

- อ่านด้วยใจระทึก แต่ก็ผ่านด้วยดี อัลฮัมดูลิลาฮ

-ไม่ขับเร็วครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ ต้องขออภัยที่เข้ามาตอบช้า ช่วงนี้งานชุกมาก ฮิฮิ

สลามครับอาจารย์ ลุ้นมากมากๆ

ขอบคุณอัลลอฮ์

หลานๆน่ารักมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท