ถุงยางอนามัยก็ผลิตไฟฟ้าได้กับความใฝ่รู้ของเด็กไทย

ถ้าไฟฟ้ามีอยู่ทุกที่ ความรู้ก็มีอยู่ทุกหนแห่ง

อ่านแล้วคุณหนุ่มๆทั้งน้อยและไม่น้อยทั้งหลายก็อย่าเพิ่งสยดสยองกันจนเกินเหตุไปขนาดถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับนะครับ เพราะมันคงไม่ใช่ว่าอยู่ๆเจ้า condom หรือถุงยางอนามัยที่เขาส่งเสริมให้ใช้กันอยู่นี่จะสร้างกระแสไฟฟ้ามาทำมิดีมิร้ายผู้ใช้ก็หาไม่ และก็มิใช่ว่าจะมีใครอุตริ ประจุกระแสไฟฟ้าใส่ไว้เพื่อหวังผลในการป้องกันการติดเชื้อหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดแต่อย่างใด เพราะหากเกิดผิดพลาดขึ้นมาผู้ใช้อาจจะถูกคุมกำเนิดไปตลอดชาติโดยไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกเลยก็เป็นได้ แต่มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่เขากำลังบอกว่าไฟฟ้านั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แล้วก็หาอะไรแปลกๆ น่าสนใจมาทำการทดลองให้ดูเพื่อพิสูจน์ให้พวกเราเห็นกัน

http://www.instructables.com/community/Condom-Electricity-Maker/

จะว่าไปแล้วหลังจากที่ได้เห็นการทดลอง การทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าจากถุยางอนามัยตามที่เขาทดลองให้ดูนั้น ก็เป็นเรื่องที่สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางเคมีและฟิสิกส์ธรรมดาๆนี่เอง ไม่ได้เป็นเรื่องลึกลับพิสดารเหมือนดั่งต้นกล้วยออกลูกเป็นลิงมาให้คนไทยปูเสื่อจุดธูปกราบขอหวยแต่อย่างใด นักเรียนระดับมัธยมปลายของเราก็สามารถทำการทดลองแบบนี้ได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอก็คือ องค์ความรู้ต่างๆนั้นมีอยู่รอบตัวเพียงแต่เราจะหยิบมันขึ้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์หรือไม่เท่านั้น

ผมชอบเข้าไปอ่านใน website หรือ forum ต่างประเทศ(ทั้งๆที่ภาษาอังกฤษอ่อนแอป้อแป้อย่างยิ่ง)ที่เกี่ยวกับโครงงานสร้างสรรค์ การพัฒนาต่อยอดความรู้จากห้องเรียนหรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆของเด็กๆเหล่านี้ ต้องขอบอกว่ามันมีมากมายแทบจะเรียกว่าทุกสาขาความรู้ก็ว่าได้ การนำเสนอของเด็กๆเหล่านี้มักจะอธิบายขั้นตอน วิธีการอย่างละเอียด และส่วนใหญ่จะมีการถ่ายทำเป็น video เพื่อถ่ายทอดผ่านทาง Youtube ให้เห็นภาพจริงๆเกือบทั้งสิ้น

สิ่งที่ผมประทับใจและอยากจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพวกเราก็คือ ผมได้เห็นความมุ่งมั่นและความตั้งใจ การมีแนวคิดที่เป็นตัวของตัวเองของเด็กๆเหล่านี้ การทดลองบางครั้งอาจไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่มันก็จะเป็นบันไดขั้นที่หนึ่ง ขั้นที่สองที่ถูกสร้างรอไว้เสมอ

ผมเคยลองใช้ keyword ภาษาไทยเพื่อค้นหากิจกรรมแบบเดียวกันนี้ใน website ที่เด็กไทยเรานิยมใช้ ต้องบอกว่ารู้สึกผิดหวังค่อนข้างมาก สิ่งที่ได้เห็นเป็นเรื่องราวของการรวมกลุ่มอย่างไร้สาระ ไร้จินตนาการในการสร้างพลังทางความคิด ผมได้เห็นแม้กระทั่งโครงงานที่ copy ตั้งแต่ชื่อเรื่องจนจบเปลี่ยนแต่เฉพาะชื่อคนทำ จุดที่พิมพ์ผิดก็ผิดเหมือนกัน ที่น่าเศร้าก็คือ ไม่ละอายเลยที่จะนำเสนอผ่านทาง internet ที่มีสายตาคนทั่วโลกจับจ้องอยู่ หรือว่านี่จะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพวิธีการบริหารจัดการองค์ความรู้ของเยาวชนของเราที่พัฒนาตามอย่างผู้ใหญ่(ไร้สาระ)ในสังคมขณะนี้..

ในขณะที่เด็กๆกำลังสนใจคลั่งไคล้กับดาราเกาหลี ในขณะที่ผู้ใหญ่ก็กำลังยัดเยียดมอมเมาให้เด็กวาดฝันถึงการเป็นดารานักร้องผ่านเวทีสารพัดค่าย ไม่ต้องเรียน โน่น..ไปเข้าค่ายฝึกร้องฝึกเต้น โดยมีพ่อแม่หน้าบานเป็นกระด้งคอยส่งเสริมสุดลิ่มทิ่มประตู สิ่งที่เกิดเป็นปรากฎการณ์ที่เราไม่อยากเห็นก็คือ เยาวชนของเราเลิกคิดเอง ไม่รู้จักใช้ความคิด ทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น ไม่มีจินตนาการของโลกแห่งความเป็นจริง แม้แต่จะทำโครงงานในเรื่องที่ตัวเองเรียนในห้องเรียนยังคิดไม่ออกกระทั่งชื่อเรื่อง ต้องร้องขอไหว้วอนคนอื่นผ่านสื่อสาธารณะ เหมือนกับประจานตัวเองไปทั่วโลก...มันเป็นเพราะอะไรกันแน่..เพราะเด็กไม่เอาไหน หรือผู้ใหญ่ไร้สาระ


จาก http://www.sudipan.net/index.php

คงไม่สามารถตัดสินอย่างนั้นได้หรอก เพราะแม้เราจะไม่ค่อยได้พบเห็นกิจกรรมเช่นว่าของลูกหลานเรา แต่ก็ไม่ใช่จะหาไม่ได้เสียเลยทีเดียว ใน internet เช่นเดียวกัน วันก่อนผมอยากรู้เรื่อง generator ก็ลองสืบค้นโดยใช้ภาษาไทย ในความหมาย โครงงาน + เครื่องปั่นไฟอะไรทำนองนี้ ปรากฎว่าเจอ..หนึ่งเดียวจริงๆ

http://www.youtube.com/watch?v=nvJ1XE5pVDY&feature=related

เป็นโครงงานของเด็กนักเรียน ม.4 โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช (เด็กที่นี่น่ารัก ขนาดอยู่มัธยมปลายทรงผมยังเป็นเด็กมัธยมต้นอยู่เลย คุณครูคงเอาใจใส่ดี) ที่มีการลงมือปฏิบัติและเผยแพร่ผ่านเครือข่าย internet ทาง Youtube ให้คนทั่วไปได้เห็นและอาจนำไปสร้างเป็นแรงบันดาลใจเพื่อต่อยอดต่อไป แม้ว่าถ้าเราไปสืบค้นในเว็บต่างประเทศโครงงานประเภทนี้(hydro generator)จะมีอยู่มากมายและมีการอธิบายขั้นตอนของกระบวนการต่างๆตลอดจนวิธีการผลิตตัวอุปกรณ์อย่างละเอียดมากกว่านี้ แต่ก็ถือว่าเด็กๆกลุ่มนี้น่าจะได้รับการยกย่องจาก G2K ของเรานะว่า

..นี่แหละที่เรียกว่าแลกเปลี่ยนเรียนรู้ !..ขอคารวะ น้องๆ หลานๆกลุ่มนี้ครับ..

ขอขอบคุณ http://www.instructables.com/community/Condom-Electricity-Maker/, http://www.youtube.com/watch?v=nvJ1XE5pVDY&feature=related, http://www.sudipan.net/index.php

[ครูต้อย]

อย่าว่าแต่ชวนมาทำโครงงานเลยค่ะ ทำกิจกรรมง่ายๆ ที่ทำด้วยความคิดตัวเอง

ไม่ทำตามคนอื่นก็แสนยาก ทุกวันนี้นักเรียนก็ขอแค่ เกรดดี แอดมิดชันส์ได้

เรียนแล้วรู้เรื่องหรือไม่ก็ช่างมัน สอบก็คอยชำเลืองเพื่อน การบ้านก็copy

แค่ให้ทำกิจกรรมรักการอ่าน ด้วยการบันทึกสิ่งที่นักเรียนเคยอ่าน ลงในสมุดบันทึก

จากสมุดรักการอ่าน ยังกลายเป็นสมุดรักการลอก เศร้าค่ะ เศร้ามาก

ตอนเป็นนักเรียน หาหนังสืออ่านไม่ได้ แค่อ่านแบบเรียนภาษาไทยก็สนุกแล้ว

เดี๋ยวนี้หนังสือดีๆวางเหงาอยู่บนชั้นวางในห้องสมุด

คงเป็นเพราะเดี๋ยวนี้ นักเรียนมีกิจกรรมอื่นๆมากเกินไป

หรืออีกอย่างหนึ่ง เป็นเพราะคนยุคเรานี่แหละ

ตอนเราเป็นเด็ก พ่อแม่จะเคี่ยวเข็ญบังคับให้ทำกิจกรรมดีๆมากมาย

เช่น ทำงานบ้าน อ่านหนังสือ ไปทำบุญ ช่วยงานวัด

แต่พอเราเป็นพ่อแม่ ก็มัวแต่ทำกิจกรรมเพื่อหารายได้

พ่อแม่บางคนก็มีอาชีพเป็นแทกซี รับส่งลูก จากโรงเรียนสอนพิเศษบ้านนี้

ไปส่งบ้านโน้น จากบ้านโน้น ก็ไปบ้านนั้นอีก แทบไม่มีเวลาคุยกัน

เพราะลูกต้องเรียน...เรียน...เรียน...

คงได้แต่บ่นมั๊งคะ เพราะพยายามตั้งชมรมนักประดิษฐ์ในโรงเรียนมา 3 ปีแล้ว ยังหาสมาชิกไม่ได้เลย 55