สวัสดีครับ วันนี้ได้อ่านบทความบันทึกของสมาชิกท่านหนึ่ง ท่านมีอาชีพค่อนข้างจะหนักไปทางเป็นวิทยากรบรรยาย ท่านเล่าว่าผู้ใหญ่กับเด็กในการฟังใครแย่กว่ากัน ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรยายครับ แต่อ่านแล้วก็อยากจะแสดงความคิดเห็น เป็นความคิดเห็นที่เป็นส่วนตัวไม่ได้อ้างอิงวิชาการให้อ่านกันเล่น ๆ ครับ
รายละอียดผมจะเน้นที่บอกว่าเวลาบรรยายแล้วคนฟังไม่ฟัง คุยบ้าง รับโทรศัพท์บ้าง เล่นเกมที่โทรศัพท์บ้าง นอนหลับบ้าง เด็กฟังตั้งใจกว่าผู้ใหญ่ ทำไมปัญหาจึงเป็นอย่างนี้ อย่างนั้น ก็เลยถือโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ
การรับฟังการบรรยายครับ ถ้าผมบรรยาย ผมสมมุติเอานะครับ มีคนฟังสร้างปัญหา ผมจะบรรยายไปพลางคิดวิธีแก้ไปพลาง ผมยกตัวอย่างขณะบรรยายมีคนรับโทรศัพท์ถึงแม้เราไม่ได้ยินเสียงพูดของเขาก็ตาม เราก็บอกว่า ผมขออนุญาตครับเนื่องจากมีท่านหนึ่งกำลังรับสายโทรศัพท์ เดี๋ยวท่านจะมีเสียงจากผมไปรบกวนท่าน ให้ท่านรับโทรศัพท์ให้จบก่อนแล้วจะบรรยายต่อเดี๋ยวท่าท่านจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการพูดคุย จึงขอหยุดบรรยายนิดหนึ่งครับ หรือขณะบรรยายฟังกันเงียบ ๆ มีเสียงสัญญานโทรศัพท์ดังขึ้น ก็พูดให้เจ้าของโทรศัพท์สายและบอกว่าขอหยุดชั่วครู่ เจ้าของโทรศัพท์จะกดทิ้งทันทีไม่รับสาย
แต่ถ้าเขาเขารับสาย ผมหยุดบรรยาย สายตาทุกคู่ก็จะมุ่งไปที่คนพูดโทรศัพท์ คนที่โทรศัพท์ก็จะตกใจและวางสายในทันที หลังจากนั้นบรรยายไปอีกกี่ชั่วโมงก็ตามจะไม่มีใครผู้ใดหาญกล้ารับโทรศัพท์อีกเลย คนที่คุยก็ทำในลักษณะเดียวกัน แต่อย่าลืมเราไม่แสดงอาการความไม่พอใจให้ปรากฏ เราจะทำเสมือนเราให้เกียรติเขาเต็มที่ ทำนองว่าไม่ล่วงละเมิดสิทธิมนุษย์ชนกันเลยครับ เรายิ้มตลอดเวลา แต่การพูดเราต้องประเมินตนเองด้วย เราพูดเราบรรยายไม่ได้เรื่อง ผู้ฟังก็เริ่มคุย ผลการประเมินจะออกมาทันทีว่า ว่าตัวเราเองผิด ความผิดอยู่ที่ตัวเราเองผู้บรรยาย เราต้องแก้ไขวิธีการบรรยายในทันที ถ้าปล่อยไว้คนฟังเราพูดไม่ได้อะไรกลับไปเลยทั้ง ๆที่มีพวกอยากได้ แต่เราคนบรรยายเสียหมด เสียคน เสียชื่อ บรรรยายไม่ได้เรื่องเปลืองเวลาเปล่า ซ้ำร้ายไม่มีใครเชิญให้ไปบรรยายอีกต่างหาก
เสียดายวิทยากรความรู้ดีต้องมาตายเพราะรอให้ผู้อื่นประเมินซึ่งผลจะออกมาตอนบรรยายจบ แต่ถ้าพูดไปประเมินไป แก้สถานการณ์ไปอย่าให้เขารู้ว่าเรากำลังทำหน้าที่หลายอย่างขณะบรรยาย เหมือนเราเป็นนักบินกำลังพาผู้โดยสารไปสู่จุดหมาย แต่ผู้โดยสารพอเครื่องบินเหินฟ้าก็สร้างความวุ่นวาย เครื่องยนต์ก็มีปัญหา เราก็จะไม่บอกให้รู้ เราก็แก้ปัญหาขณะแก้ปัญหาเครื่องก็ย่อมลดสมรรถภาพในการบินคือดิ่งลงอย่างเดียว ผู้โดยสารจะรู้โดยสันชาติญานขึ้นมา ก็จะตกใจ เราก็แก้ปัญหาอยู่ตลอดอย่าตกใจ ถ้าเราแก้ปัญหาสำเร็จ เราก็จะนำเครื่องเชิดขึ้นได้อีกครั้ง เราก็จะได้รับความชื่นชมจากผู้โดยสารและได้รับการยกย่องจากคนทั่วไปด้วย
ผมว่าการเป็นวิทยากรนั้นตีได้หลายแง่มุม แต่การเป็นวิทยากรที่ไม่ครบเครื่องเรื่องวิทยากร สร้างปัญหาให้กับวิทยากรเสมอ คนไม่ฟังก็ทำให้เขาฟังไม่ได้ เราวิทยากรต้องเป็นผู้แก้ เราแก้ได้โดยไม่มีความผิดอะไรเลยเพราะเราถูกมอบหมายให้พูด แล้วทำไมเราไม่พูดในลักษณะแก้ไขให้เขาฟังเราให้ได้
โดยสรุปที่ยากก็คือเรื่องที่บรรยายนั้นเรารู้ลึกนาดไหนเราเข้าใจบทบาทของวิทยากรได้ขนาดไหน เราวิเคราะห์ผู้ฟังได้ทะลุที่จะแก้ปัญหาในการพูดในการฟังของเขาได้ผลเพียงใดถูกต้องหรือไม่ต่างหาก
ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ผมไม่ได้เป็นวิทยากรอาชีพนะครับแค่ร่วมเสวนากับชาวบ้านบ่อย ๆ และชาวบ้าน ๆนี่นะครับเรื่องไม่ฟังไม่ร่วมมือทำกิจกรรมที่กำหนดเป็นเรื่องปกติ แต่ในวงเสวนาถ้ามีใครแก้สถานการณ์ได้สักคน วงเสวนานั้นก็จะเป็นไปตามปกติได้ เพราะแก้ครั้งแรกแล้วจะไม่ต้องแก้ครั้งต่อไป และผมมักจะเป็นผู้แก้สถานการณ์เสมอในตอนเริ่มแรก ต่อมาเขาเกิดการเรียนรู้ซึมวับการให้เกียรติซึ่งกันเพิ่มขึ้น วงเสวนาก็มีคุณค่าไม่เสียเวลาเปล่า แถมได้พัฒนาทุนมนุษย์เติมเต็มได้มากว่าอีกด้วย
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับหลาน ขอบใจที่จะนำไปใช้ แต่จะใช้ให้ได้ผลต้องยิ้มไว้ทุกครั้ง จะไม่เกิดผลกระทบทางลบ มันยังมีอีกหลายวิธี แต่ก่อนใช้ทุกครั้งต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนว่าเกิดผลทางบวกหรือทางลบ ถ้าได้ผลก็เป็นความสามารถสุดยอดของหลานละครับ
สวัสดีครับท่าน ธนา ดึกๆลุกขึ้มาสนทนา เพราะว่าเราหม้ายมียางให้ตัด ฮา
เข้ามาอ่านบันทึกนี้แล้วได้ปัญญา ได้วิชา ที่กินได้ วิชาว่าด้วยการแก้ปัญหา การจัดการเวทีผู้ฟังทำให้สะดุด
ชอบมาก กับวิธีการที่ท่านหยุดพูดให้เขาคุยโทรศัพท์ให้เสร็จ ผมนึกถึงบรรยากาศในเวที คนที่ทำแบบนี้ได้ สีหน้าท่าทางต้อง
บ่งบอกว่าเต็มใจฟังคนโทรศัพท์ ผมนึกถึงหน้าอาจารย์ นิรัตน์ จรจิตรในการ จัดการครับ ผมเป็นคนงานทำความสะอาด ที่รพ
.
เขียนป้ายบอกแล้ว ว่าอย่าทิ้งขยะ บอกทุกคนที่มานั่งให้ช่วยกันรักษาความสะอาด แต่ขยะยังมีให้เห็นทั้งวัน
มีอยู่วันหนึ่งผมหวิบมากที่แหลงไม่รู้ฟัง ผมหยิบไม้กวาด แล้วไปยกมือ ไหว้ หยะ แล้วยกมือไหว้คนที่นั่งบริเวณนั้น
แล้วบอกว่า" ขอบคุณที่เติ้นช่วยให้ผมมีงานทำ ขอบคุณหยะที่ทำให้ผมมีกิน นี้ถ้าไม่มีหยะ ผมเขายิกออกแล้ว" เพราะไม่ที่ให้อะไหร
เหลือเชื่อ หลังจากนั้นบริเวณนี้ญาติคนไข้เอาไม้กวาดไปกวาดเองครับ
สวัสดีครับ ผมเพิ่งเป็นครั้งแรกที่ตื่น ตี 2 กว่า ๆ คืนนี้ ก็เลยได้มีโอกาสมาเยี่ยมในชุมชน การทำอะไรก็ตามอยู่ที่การคิดครับ ดูอย่างได้ข้อสรุปการยกมือไหว้มีค่าเสมอ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยนิสัยเดิม ๆ ของคนก็ไม่เปลี่ยน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านแล้วแหลงใต้ไว้ครับหลายคำ ขอบคุณ
ขอขอบคุณท่านธนา ที่แวะไปเยี่ยมและชม งานที่ได้ถ่ายทอดไว้ ได้กลับมาชื่นชมงานที่ท่านธนา ถ่ายทอดไว้เช่นกัน ผมขอนำเอาเรื่องราวที่เป็นมุมมองจากท่านธนา ไปใช้ประโยชน์ เวลาให้ความรู้ในห้องเรียนรู้ จะได้นำเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้ไปปฏิบัตินะครับ
สวัสดีครับ
มาเยี่ยม มาเรียนรู้ ครับ