ฟ้าหลังฝน


การเยี่ยมบ้านทำให้เจ้าหน้าที่ได้มีโอกาสประเมินสภาพแวดล้อมรอบตัวคนไข้ด้วย

เรื่องเล่าของพวกเราที่อยากนำเสนอ.....เรื่องที่ 3

ฟ้าหลังฝน

                ประมาณเดือน เมษายน 2550 ทางแผนกกายภาพบำบัดได้มีโอกาสให้การดูแลรักษาผู้ป่วยรายหนึ่ง ชื่อ สุรศักดิ์ อายุ 30 ปี สุรศักดิ์ป่วยด้วยอาการแขนขาซีกซ้ายอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและไม่สามารถเดินได้ ตอนแรกที่ฉันเห็นรู้สึกสงสารและเห็นใจในความโชคร้ายของสุรศักดิ์ด้วยที่อายุยังน้อยที่ต้องเจอกลับโรคร้ายเช่นนี้
            ตลอดเวลาที่สุรศักดิ์มารักษาที่แผนกกายภาพบำบัด ฉันได้มีโอกาสให้การรักษา และสร้างสัมพันธภาพกับสุรศักดิ์ ทำให้รู้ว่า สุรศักดิ์อาศัยอยู่กับมารดา บิดาเสียชีวิตแล้ว แต่งงานมีภรรยาแล้ว มีบุตรชาย 1 คนอายุประมาณ 3 ขวบ และมีน้องสาว 1 คนมีครอบครัวแล้วและมีบุตร 1 คน เมื่อสุรศักดิ์ป่วยน้องสาวต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลพี่ชาย และเป็นคนพาพี่ชายมาทำกายภาพบำบัดทุกวันที่นัด

            น้องสาวเล่าว่าสุรศักดิ์เป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นคนดี ขยันทำงาน แต่โชคร้ายเมื่อไปงานเลี้ยงกับเพื่อน จึงถูกลูกหลงถูกยิงที่ศีรษะ ต้องนอนรักษาตัวที่ห้อง ไอซียู ที่รพ. เกษมราษฏร์สระบุรีนานประมาณ 2 เดือน สุรศักดิ์ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้าน สุรศักดิ์รู้สึกเป็นทุกข์มาก เพราะตัวเองไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำ กินข้าว หรือเดินเองได้ สามารถยืนหรือเดินได้ ใบหน้าหมองคล้ำแสดงอาการอมทุกข์ เมื่อมารักษาที่แผนกกายภาพบำบัดทางแผนกกายภาพบำบัดได้ให้การบำบัดด้วย การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ และฝึกกล้ามเนื้อมือ และการใช้ชีวิตประจำวัน และได้มีการนัดสุรศักดิ์ให้มารักษาอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการรักษาสุรศักดิ์มักถามเสมอๆ ว่า ผมจะเดินได้ไหม ?  ผมจะหายไหม? ทางเจ้าหน้าที่ก็พูดคุยให้กำลังใจสุรศักดิ์เสมอๆ สุรศักดิ์ดูจะมีกำลังใจมากขึ้นและมีความหวังมากขึ้น ซึ่งสังเกตจากหน้าตาที่สดใสมากขึ้น และเริ่มมีรอยยิ้ม สุรศักดิ์ขยันมาทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับ จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ปีครึ่ง สุรศักดิ์สุรศักดิ์สามารถกินข้าว แต่งตัว และกำลังหัดยืนโดยต้องมีคนช่วยพยุง    หลังจากนั้นสุรศักดิ์ไม่ได้มารับบริการที่แผนกกายภาพบำบัดอีกนาน 3 เดือน  เจ้าหน้าที่จึงวางแผนการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยที่ขาดนัด ในการออกเยี่ยมบ้าน เจ้าหน้าที่พบว่า สุรศักดิ์นอนอยู่ที่ใต้ถุนบ้านและมีครอบครัวคอยดูแลอยู่ใกล้ เจ้าหน้าที่ถามถึงสาเหตุที่สุรศักดิ์ไม่ได้ไปรับบริการ คำตอบที่ได้รับก็คือ ที่บ้านกำลังยุ่ง     เพระกำลังปรับปรุงบ้านไม่มีใครไปส่ง ในขั้นต้นเจ้าหน้าที่ได้จดบันทึกรายละเอียดต่างๆไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม อุปกรณ์ต่างๆ หลังจากกลับจากการเยี่ยมบ้าน เจ้าหน้าที่ได้กลับมาคิดว่าจะทำยังไงดีกลับสุรศักดิ์ การเยี่ยมบ้านในครั้งต่อไป เจ้าหน้าที่ได้แนะนำญาติให้จัดทำอุปกรณ์ในการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพื่อที่สุรศักดิ์จะได้ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น และสามารถทำได้เองที่บ้าน ซึ่งครอบครัวของสุรศักดิ์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้จัดทำอุปกรณ์ขึ้นมาหลายชิ้น เช่น ถุงทรายน้ำหนักที่ทำจากเศษผ้าเก่าแล้วเอาทรายใส่ภายในเพื่อเพิ่มน้ำหนัก สำหรับให้ฝึกแรงการใช้แขนโดยยกขึ้น ลง จัดทำราวไม้ไผ่สำหรับฝึกเดินไว้บริเวณใต้ถุนบ้าน ทำรอกชักฝึกออกกำลังกายแขน ทำรอกฝึกออกกำลังขา จากภูมิปัญญาชาวบ้านผสมผสานกับความรู้ทางวิชาการ หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน เจ้าหน้าที่ได้ติดตามอาการของสุรศักดิ์เป็นครั้งที่ 3 อีก พบว่าสุรศักดิ์ดีขึ้นเริ่มยืนได้นานขึ้น และเดินได้เล็กน้อยโดยเดินกับราวไม้ไผ่ที่ทำเองที่บ้านตามที่เจ้าหน้าที่ได้แนะนำไว้ และสามารถเดินได้ด้วยไม้เท้า  หลังจากนั้นอีก 3 เดือน เจ้าหน้าที่ได้เยี่ยมบ้านผู้ป่วยเป็นครั้งที่ 4  อีก พบว่าสุรศักดิ์ดีขึ้นกว่าเดิม สามารถเดินได้ด้วยเครื่องช่วยพยุง และไม่ต้องมีคนช่วยพยุง และสามารถออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานอยู่กับที่ได้ และเจ้าหน้าที่ได้สอนให้สุรศักดิ์เดินโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยพยุง และสอนการเดินขึ้น-ลงบันไดบ้าน หลังจากนั้นอีกประมาณ  2 เดือนเจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ป่วยจากญาติ บอกว่า สุรศักดิ์สามารถเดินได้และขึ้นบันไดได้แล้ว สามารถช่วยตัวเองได้หลายอย่างเช่นการอาบน้ำ
            ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ตระหนักถึงว่า การเยี่ยมบ้านมีประโยชน์มากเพียงใด การเยี่ยมบ้านทำให้เจ้าหน้าที่ได้มีโอกาสประเมินสภาพแวดล้อมรอบตัวคนไข้ด้วย และสามารถคิดรูปแบบการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้และดัดแปลงอุปกรณ์การรักษาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ และใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ภายในบ้านมาเป็นส่วนประกอบ และลดค่าใช้จ่าย และเป็นการส่งเสริมให้คนไข้สามารถดูแลตนเองที่บ้านได้ เช่นเดียวกับสุรศักดิ์ที่สามารถดูแลตนเองที่บ้านได้

คนต้นเรื่อง น้องส้ม

คำสำคัญ (Tags): #การเยี่ยมบ้าน
หมายเลขบันทึก: 380884เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2010 19:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 15:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับ  ความอบอุ่น ความเอาใจช่วยส่งผลต่อคนไข้ให้มีกำลังใจ  อาการจึงดีวันดีคืน  ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในการทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น 

สวัสดีค่ะ

รบกวนน้องส่งที่อยู่ไปให้พี่คิมสำหรับส่งเสื้อด้วยนะคะ  ขอขอบคุณค่ะ

  • ค่ะ..
  • คงคล้ายกันกับที่ครูที่ปรึกษาออกเยี่ยมบ้านเด็กๆ 
  • เกิดความเข้าใจ ร่วมกันแก้ไขปัญหานะคะ.

สวัสดีคะ

เรื่องราวดีมากๆคะ

วันหลังเราเอาไปคุยกันนะคะ

แม่ต้อยให้กำลังใจเสมอคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท