โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

บุคคลต้นแบบ


“ยุทธศาสตร์การทำงานสู่ความสำเร็จ” เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2551 ณ โรงแรมโรยัลซิตี กทม. โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร. กระแส ชนะวงศ์ เป็นผู้บรรยาย
บุคคลต้นแบบ-1
โสภณ  เปียสนิท
.......................................
                คณะบริหารธุรกิจ วิทยาเขตวังไกลกังวล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์จัดการประชุมสัมมนาหัวข้อ “ยุทธศาสตร์การทำงานสู่ความสำเร็จ” เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2551 ณ โรงแรมโรยัลซิตี กทม.  โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร. กระแส ชนะวงศ์  เป็นผู้บรรยาย
                การได้ฟังคุณหมอกระแสบรรยายให้ฟังอย่างใกล้ชิดเป็นกันเองนับเป็นบุญของผมเองและเพื่อนพ้องอย่างสูงสุด ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าในช่วงหนึ่งของชีวิต จะมีโอกาสอันมีค่าเช่นนี้ เป็นเรื่องดีงามเกินกว่าที่คาดหมายไว้ กล่าวได้ว่า ผมตื่นเต้นดีใจจนเวลาหลายชั่วโมงที่นั่งรับฟังผ่านไปอย่างรวดเร็วแทบไม่รู้สึกตัว
                นึกทบทวนย้อนหลังไปเมื่อราวๆ ปี 2518 ภาพทุกอย่างยังกระจ่างชัดในความทรงจำ ที่วัดท่ามะขามอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ติดริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ หันหน้าไปทางทิศเหนือ ทอดสายตามองเห็นรั้วลวดหนามของวัดบังถนนลูกรังสีแดงเป็นช่วงๆ เลยถนนไปเป็นดงอ้อยกว้างใหญ่ของชาวบ้าน ด้านหลังเป็นกุฏิเจ้าอาวาส ด้านซ้ายมือเป็นหมู่กุฏิสงฆ์ ด้านขวามีศาลาและโบสถ์ติดร่มลานพิกุลสูงอายุจำนวนมาก ด้านหลังเป็นทางดินเดินลงสู่ที่ราบลุ่ม ผ่านป่าไม้ร่มรื่นเลยเรื่อยถึงลำแม่น้ำแควใหญ่
                 ช่วงเวลาหลังเที่ยงเช่นนั้น มักเป็นเวลาแห่งการหยุดนิ่ง เจ้าอาวาสรับกิจนิมนต์นอกวัด สามเณรเล็กๆ จับกลุ่มอยู่บริเวณศาลาเมรุฟังพี่เลี้ยงอบรมให้ความรู้ พระหนุ่มเก็บตัวท่องบ่นทรงจำบนสวดมนต์ภาษาบาลี หรือไม่ก็ฝึกซ้อนการเทศน์ หลวงตาหลบเข้าห้องแอบจำวัตรเล็กน้อย ก่อนจะกลับออกมาต้มน้ำร้อนน้ำชาฉันตอนบ่าย
                  สามเณรน้อยรูปหนึ่งใช้เวลาช่วงบ่ายของวันแดดเปรี้ยง นั่งพักรับลมหลบร้อนบนม้าหิน ใต้ต้นมะขามใหญ่อายุเกินร้อยปีอย่างเดียวดาย หนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งติดอยู่ในมือ สายตาค่อยๆ ผ่านตัวอักษรที่ละคำอย่างช้าๆ หน้าแล้วหน้าเล่าตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่หลังเที่ยงจนบ่ายแก่ๆ แดดร่มลมตก
                 เรื่องที่อ่านประทับอยู่ในความทรงจำเนิ่นนาน จากวัยสามเณรน้อยสู่วัยใกล้ชราในทุกวันนี้ (แปลว่ายังไม่แก่)  เป็นเรื่องของหมอหนุ่มผู้พลิกชีวิตอันระกำลำบากยากจนในวัยเยาว์ อยู่ในถิ่นกันดารอันห่างไกล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ภาคอีสาน สู่ความสำเร็จ ด้วยการศึกษาวิชาทางการแพทย์
                 ผมอ่านไปเปรียบเทียบกับชีวิตของตัวเองไป มีสิ่งคล้ายคลึงกันหลายประการ ความยากจน พี่น้องหลายคน ชนบทห่างไกลแสนกันดาร การพลัดพรากจากบ้าน อัศจรรย์จริงหนอ ท่ามกลางปัญหาอุปสรรคมากมาย คุณหมอพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จจนได้ มิใช่เพียงระดับประเทศ แต่เป็นความสำเร็จระดับโลก
                ผมเฝ้าครุ่นคิดว่าสิ่งใดกันที่นำพาชีวิตของคุณหมอสู่ความสำเร็จได้ บทสรุปเท่าที่เณรน้อย วุฒิการศึกษาประถม 4 นักธรรมเอก จะคิดออกคือ “การศึกษา” เป็นแรงผลักดันสำคัญ มีความอดทน มีความขยัน มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความซื่อสัตย์ มีความรักในความรู้ มีความคิดตอบแทนคุณสังคมเป็นองค์ประกอบ
                ต้นกล้าแห่งความสำเร็จถูกปลูกไว้ในใจของสามเณรองค์นั้น นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา และค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยทีละน้อยจนแทบไม่รู้สึกตัว เคยมองว่าเด็กๆ ที่ต้องไปโรงเรียนนั้นน่าสงสาร เพราะการเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย ผมมองการศึกษาด้วยความเป็นมิตรมากขึ้นตามลำดับ ใช่ นี่มิใช่ศัตรูแต่เป็นมหามิตรต่างหาก
                ความไม่เอาถ่านไม่อ่านหนังสือถูกผลักดันออกไปทีละน้อย (เน้นว่าทีละน้อย) ความไม่อดทนต่อการอ่านถูกแทนที่ด้วยความอดทน ความขยันไล่ความขี้เกียจ ความโง่ทำให้เย่อหยิ่งถือดีโดนต้อนไปติดตามมุมตามซอก ด้วยบทกวีอันสุขุมว่า “รวงข้าวคราวสุกน้อม  รวงลง  รวงลีบชูรวงตรง  สู่ฟ้า  เฉกปราชญ์ฉลาดยิ่งยง  รู้ถ่อม ตนนา  คนโง่คิดโอ่อ้า  อวดอ้างเสนอตน”
หมายเลขบันทึก: 380875เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2010 19:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 21:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

เรียนท่านอาจารย์โสภณ

    ที่อาจารย์เล่ามาไม่ถึงครึ่งหนึ่งของชีวิตน้อยๆของคุณยายหรอกนะคะ มันยิ่งกว่าหนังเช้าวันหยุดอีกค่ะ จน  จ๊น  จน แต่หนูเป็นเด็กดี ขยัน ประหยัด อดทนและใฝ่เรียนค่ะตอนจบป.4 ไม่มีเงินเรียนต่อหนูออกมาเลี้ยงควายอยู่ 2 ปี พอโรงเรียนเปิดประถมปลายขึ้น ผ่านไป 1 ปีไม่ทราบเกิดอะไรขึ้น คุณครูก็ไปตามให้มาเรียนต่อ แต่แม่ก็ยืนยันว่าไม่มีเงินส่ง ไม่มีจริงๆค่ะแม่ทำนาไม่มีรายได้อื่น เด็กหญิงน้อยก็นั่งฟังตาปริบๆ ไม่รบเร้าเพราะสงสารแม่ทั้งๆที่อยากเรียนใจจะขาด คุณครูประสิทธิ์ กับคุณครูสุชาติมีความพยายามสูงมากค่ะ ไปทุกวัน บอกว่า ค่าสมุด หนังสือ โรงเรียนจะออกให้หมด อยากให้เรียนเพราะจะได้สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนเพราะเปิดใหม่ คือจะแข่งกับโรงเรียนตำบลค่ะ ผ่านไป 1 เทอมแม่ใจอ่อนยอมให้เรียน เรื่องตื่นเต้นไม่ต้องพูดถึงค่ะ วันรุ่งขึ้นไปเรียนทั้งๆที่ไม่มีชุดใส่ก็ใส่ผ้าถุงกับเสื้อธรรมดาไปยืนเข้าแถวโดยไม่อายใคร ภูมิใจมากที่ได้เรียนค่ะ ผ่านไป 1 เทอมคุณครูบอกไม่มีอะไรจะสอนแล้วทดสอบทุกวิชาทั้งที่ยังไม่ได้เรียนผ่านหมด(เพราะหนูอ่านล่วงหน้าค่ะ)ภาษาอังกฤษ 30 บทท่องศัพท์ได้หมดทั้งๆที่ครูสอนถึงบทที่ 15 คุณครูส่งเรื่องมาทางศึกษาธิการขอให้ผ่านไปเรียนป.6ในเทอมต่อไป ตื่นเต้นอีกครั้งเพราะต้องไปศึกษาย้อนหลังที่เพื่อนเรียนไปแล้ว 2 เทอม เป็นอันว่าเด็กหญิงน้อยไม่ทำให้คุณครูผิดหวังค่ะ ดังไปทั้งตำบล โรงเรียนบ้านกุดรังเหมารถมาดูตัว(ยังกับเป็นดารา อิอิ)คุณครูโรงเรียนอื่นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันรู้จักหมดเลย อาจารย์เบื่อหรือยังคะ ว่าแล้วถ้าคนแก่ได้พูดถึงความหลัง หยุดไม่ได้ ถ้าไร้สาระต้องขอโทษอาจารย์ด้วยนะคะ ฟังเรื่องที่อาจารย์เล่าแล้ว คิดถึงความหลังค่ะ งั้นจบเลยละกันนะคะกลัวอาจารย์เบื่อฟังค่ะ

ผมยังไม่เบื่อเลยคุณยาย

อย่างนี้ต้องบันทึกนะครับ

เอาเป็นเล่มเลยนะ ผมจะรออ่าน จริงๆๆนะ

ชื่อเรื่องผมขอตั้งให้เลย "จากหลังควายสู่คุณยายคนสวย" ครับ แหม ภูมิใจจังตั้งชื่อได้เก่งมาก

สวัสดีค่ะ

พี่คิมเคยพบคุณหมอกระแส  หลายครั้งค่ะ เมื่อตอนทำงานอยู่ที่ขอนแก่น  ประทับใจในความเป็นคนจิตใจโอบอ้อมอารีและคนนอบน้อมมากค่ะ

บุคคล(ดัง)ต้นแบบ ควรให้เด็กในสมัยปัจจุบันได้เรียนรู้บ้างนะคะ  เด็กปัจจุบันขาดความอดทนค่ะ  ชอบสบายและง่าย ๆ และที่สำคัญไม่รู้จักกตัญญู

ขอขอบพระคุณค่ะ

ท่านใจดีมากครับ

ใครแสดงความคิดเห็นท่านแจกหนังสือด้วย

ครูอิ๊ดมีโอกาสได้ฟังคุณหมอกระแส บรรยายที่ขอนแก่นเมื่อหลายปีมาแล้ว ชีวิตท่านเป็นบุคคลต้นแบบของหลายๆ คนนะคะอาจารย์ เพราะคนเราเกิดมาในที่แตกต่างกัน เราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะทำสิ่งที่ดีได้ เริ่มจะ......แล้ว

อ้าว เรียนครูอิ๊ด เริ่มจะ.......อะไรนี่ครับ

ยังงงๆ อยู่ เริ่มจะดี หรือไงนา.......

ท่านอาจารย์ขา

เริ่มจะ.......บ่นเดี๋ยวอาจารย์ก็ว่าแก่อีก นักเรียนยิ่งบอกว่าครูยังไม่แก่เลย แต่บ่นเก่ง ๕๕๕๕๕๕

งั้นทำตัวให้เป้นสาวอีกครั้ง

โดยตั้งปณิธานอธิษฐานขอเลิกบ่นเด็ดขาด พระท่านคงชอบนะ

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยบ่นแล้วค่ะ เด็กๆเกรง เพราะถ้าครูนิ่งไม่พูดผิดวิสัยครู เด็กๆจะเรียบร้อยมาก ครูเลยนำวิธีการวางเฉยเจ้าจะเฮ็ดหยังกะซางครูกะบ่เว้า เลยเป็นวิธีแก้ปัญหาเด็กชนได้ (บางคน บางกรณ๊ บางโรงเรียน)เท่านั้นนะค่ะอาจารย์ขา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท