AI ตอน...พลังแห่งความไม่เป็นทางการ
ไม่นานมานี้..ลูกศิษย์ชาว AI คนเก่งผมคนหนึ่ง..ทำร้าน Internet..มาบ่นกับผมว่า..
อาจารย์ครับ..ทำไมพนักงานในร้านผมเปลี่ยนไป..แต่ก่อนนี่..ผมเข้าร้านไป นี่แทบไม่ต้องพูดอะไร เหมือนรู้ใจกันไปหมด...ตอนนี้นะครับ..มันก็กลุ่มเดิม แต่พอเดินเข้าร้าน..ต้องพูด ต้องสั่ง....อาจารย์ครับทำไงดี..
ผมเลยถามขึ้นมาว่า..."คุณลองนึกถึงตอนที่คุณทำงานด้วยกันอย่างรู้ใจกัน..กับตอนนี้..มีอะไรที่คุณทำไม่เหมือนกัน.."
เขานึกสักพักก็ได้คำตอบ.."..ตอนแรกที่ผมเปิดร้านแรกนะครับ อาจารย์ ยังใหม่กับกิจการนี้..ก็เลยนัดทานข้าวกับลูกน้องบ่อยๆ..อะไร work ไม่ work ก็เอามาคุยกัน เรื่องานบ้าง ส่วนตัวบ้าง..แต่ปัจจุบัน ผมทานข้าวกับพนักงานน้อยมาก..เพราะผมเปิดร้านใหม่.."
นี่ไงครับ..เราค้นพบอะไรบางอย่างแล้ว...
ผมบอกว่าสิ่งที่เขาทำในช่วงแรกคล้าย BAR (Before Action Review และ AAR (After Action Review) นี่คือกิจกรรมง่ายๆ ที่เป็นพื้นฐานขององค์กรแห่งการเรียนรู้เลยครับ...
ผมเคยจำได้ว่าลูกศิษย์ของผมเคยอ่านเรื่อง AAR ของผมและจากแหล่งอื่นๆ เอาไปใช้ที่ office (ธนาคารทำอยู่แล้ว เรียกว่า Morning Brief แต่เขาปรับ AAR/ฺBAR เข้าไป) ไม่นานมานี้ เขามาบอกผมว่า สาขาเขาขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง..แต่ล่าึุสุดไม่กี่วัน...เจอเขาโดยบังเอิญ..เขาบอกว่า..ไอ้การรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งนี่มันยากนะอาจารย์...ผมเลยถามว่าเขายังทำ AAR/BAR อยู่ไหม...เขาบอกว่าไม่ได้ทำครับอาจารย์ เพราะยุ่งมากๆ...ก็เลยบอก กลับไปทำเถอะคุณ..
เมื่อสองสามวันก่อน มีโอกาสสอบ IS ผู้บริหารของบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง.เขาพูดว่า..วัฒนธรรมองค์กรของเขาดีมาก..ดีตรงไหน.. เขาตอบว่า คนสามัคคีกันดีค่ะ..
ผมเลยซักต่อ..เอางี๊ ที่ดีที่สุดนี่แผนกไหน...เป็นแผนกช่างไฟค่ะ...ผมเลยซักต่อ..แผนกนี้ทำอะไรไม่เหมือนแผนกอื่นไหม..เธอบอกว่่า..ที่ไม่เหมือนคือ พวกเขามี Morning Talk ค่ะ เอาปัญหา ทุกข์สุขมาคุยกัน...
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
เห็นความเชื่อมโยงของทั้งสามเรื่องนี้ไหมครับ..การคุยกันแบบ AAR/BAR ไม่ใช้เงิน แต่สามารถสร้างความแตกต่าง เพิ่ม Productivity เพิ่มยอดขาย สร้างวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างน่าทึ่ง...
แทบไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไร...
......
กลับมาร้านแรก เจ้าของกลับไปคุยอย่างเดิม...ครับ...คนในร้านเปิดใจกับเขา เขารู้ปัญหาคนงานมากขึ้น...บรรยากาศร้านเปลี่ยนไปในชั่วสัปดาห์เดียว...
......
บางที AAR/BAR อาจเป็นศาสตร์ที่ใครๆมองข้าม..ไม่ทำ ไม่น่าสนใจ ไม่หรู..ไม่ปรากฏในแผนใดๆ เพราะดูไม่ใช่ศาสตร์การบริหารขั้นสูง...(มันดูไม่ซับซ้่อน)...
ผมอยากเรียกว่านี่คือพลังแห่งความไม่เป็นทางการครับ...
และสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริงๆครับ..
อย่าปล่อยพลังนี้วนเวียนอยู่ไกล้ตัวคุณต่อไปเลยครับ..
คุณล่ะคิดยังไง...
ความเห็น (10)
สวัสดีครับอาจารย์
หมั่นคุยกันอยู่เนืองๆ มันทำให้รู้เข้าใจกัน อุดรอยรั่ว และเติมเต็มให้องค์กรได้
ใช่เลยครับท่านอาจารย์ หากแต่องค์จำนวนมาก มองข้ามครับ..คุยอะไรก็ทางการไปหมดครับ..
* เรื่องของความไม่เป็นทางการนี้ มีพลังมากเลยครับ ผมเอง พาเจ้าหน้าที่ไปกินข้าวแต่ละครั้ง จะได้อะไรในวงข้าวเยอะครับ ทั้ง ได้ใจ ได้งาน
* ช่วงหลังมานี้ ผมมีประชุมอบรมบ่อย ไม่ค่อยได้พาเจ้าหน้าที่ไปกินข้าว งานก็ชักจะไม่ค่อย เวิร์ค ครับ เจอหน้าเจอตาเจ้าหน้าที่ก็ เหมือนคนไม่คุ้นเคยกัน คือ ดูแล้ว จะไม่ค่อยได้งาน และ ได้ใจ ครับ
* คงต้องหาโอกาสพาไปกินข้าวเพื่อสร้างพลังครับ
กินข้าวสร้างพลังได้จริงครับ..ท่านอาจารย์ สร้างทีม สร้างองค์กร...ครับ...
เห็นด้วยครับ
ในการทำงานไม่ต้องให้เป็นทางการในทุกๆเรื่อง.... ยิ่งถ้าองค์กรใดมีการ"ละลายพฤติกรรม" หรือสร้างกิจกรรมที่ให้ความคุ้นเคยกันเองอย่างดีภายในองค์กร จะสามารถกล้าพูดคุย ถึงปัญหาในการทำงานและแสดงความเห็นได้มากขึ้นครับ ^^
เรียนท่านอาจารย์ภิญโญ
อาจารย์ขา เรื่องนี้ได้ใช้งานแน่ค่ะดิฉันจะเริ่มพรุ่งนี้เลย เพราะส่วนใหญ่คุณพยาบาลเค๊าจะใช้แบบเป็นทางการมากค่ะ ส่งเวรกันทีหน้าดำคร่ำเครียด ทำเหมือนเป็นนักศึกษาตลอดเวลา ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบเป๊ะๆๆ ไม่ค่อยได้คุยแบบ Relax เท่าไหร่ค่ะ
สวัสดีค่ะ
ตอนนี้กำลังเริ่มใช้ "ความไม่เป็นทางการ" ในการเขียนบันทึกบ้างแล้วค่ะ
กำลังรอดูผลค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไร
มีดอกไม้มาฝาก
ตอบคุณ Desert-seal ขอบคุณมากๆ คุณจุดประกายให้ผมมีเรื่องเขียนต่อไปได้อีก
ตอบคุณยาย ลองดูนะครับ..แล้วมาเล่าให้กันฟังด้วยนะครับ
ตอบคุณณัฐรดา
เอาเลยครับ..ขอให้สนุก และขอบคุณสำหรับภาพสวยๆนะครับ..