คำสี่คำ...บันไดกลอนขั้นแรกของเด็กๆ


คำสี่คำ...บันไดกลอนขั้นแรกของเด็กๆ

ครูกานท์

.

การฝึกเด็กๆ ให้เริ่มเขียนกาพย์กลอนโดยขั้นแรกให้เขียนจำนวนคำตามที่กำหนดให้ได้ก่อนนั้นเป็นบันไดขั้นสำคัญที่สุด เมื่อ ๑๘-๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมาผมและคณะ (ในดวงตา ปทุมสูติ และ สัจญา สุดยอด) ได้ไปจัดกิจกรรมค่าย “อ่านคิดวิเคราะห์อย่างมีบูรณาการกับการเขียน” ให้นักเรียนโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๔ อ.พบพระ จ.ตาก แบ่งนักเรียนเข้ารับการอบรมเป็น ๓ รุ่น รุ่นละ ๒ วัน พบว่าเด็กๆ ที่นั่นเป็นชาวม้งทั้งหมดเลย แม้ว่าพวกเธอจะพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้ไม่ดีเท่าเด็กๆ ในพื้นภาคกลาง แต่เธอเหล่านั้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวาความร่าเริงและซื่อใสมากๆ โพสนี้จึงขอนำผลงานการฝึกเขียนคำสี่คำโดยไม่เน้นสัมผัสของพวกเธอที่ฝึกเขียนกันในค่ายมาให้อ่านกันดูครับ...

 

ชุด A ป.๔-๕-๖

๑.

โรงเรียนป่าไม้                     น่าเรียนน่าอยู่

คุณครูน่ารัก                         คุณครูใส่แว่น

เป็นที่ปรึกษา                       ให้คนได้รู้

วาดภาพสวยงาม                  เรียนดีทุกวัน

ชาวเขาน่ารัก                       ขยันใฝ่รู้

เชิดชูคุณธรรม                     รู้ใจรู้จำ

๒.

นกร้องจิ๊บจิ๊บ                       ไก่ร้องกุ๊กกุ๊ก

เป็ดร้องก๊าบก๊าบ                  หากินตอนเช้า

๓.

ชาวไร่ชาวนา                      ทำมาหากิน

มีรายได้เยอะ                       อยู่อย่างพอเพียง

๔.

ต้นไม้ร่มเย็น                        อากาศสดชื่น

สุขแสนสบาย                      น่าพักผ่อนจริง

๕.

ดอกกุหลาบสวยงาม             มีสีแดงขาว

เปรียบดังหญิงสาว               ราวกับนางฟ้า

๖.

หนังสือน่าอ่าน                     น่าเรียนน่ารู้

ใฝ่เรียนใฝ่สู้                        รู้รักการอ่าน

 

ชุด C ป.๔-๕-๖

๑.

วันนี้ดีใจ                             ที่ได้มาเรียน

ได้เขียนแล้วอ่าน                  ได้มีความรู้

๒.

กระดาษสีขาว                      เอาไว้ใช้งาน

สำหรับส่งครู                       ได้คะแนนกลับไป

๓.

ในน้ำมีปลา                         ในนามีข้าว

มีปูมากมาย                         ชวนกันจับปลา

และจับปูด้วย                       เอามาผัดเผ็ด

ไว้เป็นอาหาร                      สำหรับมื้อเย็น

๔.

พวกเราคือม้ง                      ม้งคือคนไทย

เรามีน้ำใจ                           ให้กันและกัน

๕.

ฉันมองท้องฟ้า                    เห็นเมฆมากมาย

มองแล้วสวยนัก                   เห็นพระอาทิตย์

ท้องฟ้าสีคราม                     เมฆขาวลอยอยู่

มองดูเพลินเพลิน                 อากาศสดใส            

พากันชื่นชม                        โอ้โฮสวยจัง   

 

ชุด B ป.๔-๕-๖

๑.

ป่าไม้น่าอยู่                         คุณครูน่ารัก

ทุกคนยิ้มแย้ม                      เด็กเด็กขยัน

ช่วยเหลือเจือจุน                  น้ำใจล้นปรี่

สามัคคีร่วมแรง                              เปลี่ยนแปลงความคิด

ชีวิตสดใส                           ทั้งกายและใจ

คนไทยด้วยกัน                    สมานฉันท์กันเอย

๒.

เสียงนกคุยกัน                     ไพเราะเพราะพริ้ง

เหมือนเสียงดนตรี                อยู่บนต้นไม้

๓.

เด็กหญิงเด็กชาย                 ขยันมาเรียน

ร่วมแรงร่วมใจ                     ช่วยกันทำงาน

กวาดบ้านถูบ้าน                   สะอาดดีจัง

เพลิดเพลินกับงาน                สนุกสนานเอย

 

ชุด ม.๑

 

กลุ่ม ๑

ก้อนดินเปรียบเหมือน            ความรักของแม่

ที่คอยเลี้ยงดู                       ให้เราพึ่งพา

 

บิดาเปรียบดั่ง                      แสงที่นำทาง

ให้ลูกเดินตาม                      เส้นทางความดี

 

ฉันอยากเป็นลูก                   ที่ดีต่อพ่อแม่

คอยเฝ้าดูแล                       ในยามท่านชรา

 

กลุ่ม ๒

ภูเขาเปรียบเหมือน               ทรวงอกของแม่

บรรจุรักแท้                         ไว้กลางดวงใจ

 

ฉันอยากเป็นคน                   ถึงจนก็ยอม

คนดีทำได้                          ยังไงก็สู้

 

กลุ่ม ๓

โรงเรียนเปรียบเหมือน          บ้านหลังที่สอง

ที่สอนให้ฉัน                        ได้มีความรู้

 

ฉันอยากเป็นครู                    เพื่อสอนนักเรียน

ให้เป็นคนดี                         ของสังคมไทย

 

กลุ่ม ๔

ก้อนดินเปรียบเหมือน            ก้อนหินก้อนหนึ่ง

ที่ครองไม่ได้                       แผ่นดินเป็นส่วนรวม

 

ฉันอยากเป็นครู                    เพื่อสอนเด็กเด็ก

ให้มีความรู้                          ต่อการศึกษา

 

กลุ่ม ๕

ก้อนดินเปรียบเหมือน            เลือดเนื้อคนไทย

ร่วมแรงร่วมใจ                     ปกป้องบ้านเมือง

 

ฉันอยากเป็นลูก                   ที่ดีที่สุด

ของพ่อและแม่                     ไปตลอดค่ะ

 

กลุ่ม ๖

ธรรมชาติเปรียบเหมือน         โรงเรียนสีเขียว

มีน้ำไหลผ่าน                       สดใสร่มเย็น

 

ฉันอยากเป็นดาว                  ที่อยู่บนฟ้า

สว่างงามตา                        เจิดจ้างามใจ

 

กลุ่ม ๗

แผ่นดินไทยดุจดัง                บ้านอันหลังใหญ่

ให้เราพึ่งพา                        ยามเราทุกข์ใจ

 

ฉันอยากเป็นนก                   ที่บินไปมา

ตามสายลมฟ้า                     ที่ใจต้องการ

 

กลุ่ม ๘

ฉันอยากเป็นแก้ว                 ที่ให้พ่อแม่

ถือไปถือมา                         ให้อบอุ่นเอย

 

กลุ่ม ๙

ฉันอยากเป็นทหาร               เพราะป้องกันบ้านเมือง

ทำให้บ้านมีความสุข             และจับคนร้ายมา

 

กลุ่ม ๑๐

ก้อนดินเปรียบเหมือน            หัวใจมนุษย์

ให้ลุกต่อสู้                          นำสู่ชีวิต

 

ใบแห้งเปรียบเหมือน            คนขาดกำลัง

ต้องการเดินทาง                  ยากที่จะเจอ

 

ฉันอยากเป็นหมอ                 นำผ้าห่อหุ้ม

คนที่เกิดเหตุ                       บาดเจ็บร่างกาย

 

กลุ่ม ๑๑

ฉันอยากเป็นดิน                   เพื่อรองรับคน

ดีชั่วเสมอ                           อยู่ทุกที่เอย

 

กลุ่ม ๑๒

ฉันอยากเป็นนก                   บินไปบินมา

บินทั่วท้องฟ้า                      ไปทุกชาติเลย

 

กลุ่ม ๑๓

หุบผาเปรียบเหมือน              เหวลึกน่ากลัว

ราตรีมืดมิด                         คิดติดดวงใจ

 

ฉันอยากเป็นนก                   ล่องลอยตามลม

ชื่นชมป่าเหว                       ลมพลิ้วพัดพา

 

กลุ่ม ๑๔

ชีวิตเปรียบเหมือน                สายลมพัดพลิ้ว

เคลื่อนไหวไปตาม                อารมณ์ของฉัน

 

ฉันอยากเป็นเด็ก                  ชอบอมนิ้วโป้ง

ที่ปัญญาอ่อน                      ทุกวันทุกวัน

 

 

หมายเลขบันทึก: 380547เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2010 09:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

ตามมาบอกว่าเคยไปโรงเรียนนี้ครับ สมัยก่อนผู้บริหารเป็น จสอ ไม่ทราบว่าเปลี่ยนไปหรือยัง เด็กๆๆได้เขียนกลอนด้วยใช่ไหมครับ ดีจังเลยครับ

ยอดครับ เดี๋ยวนี้เด็กไทยเห่อตามฝรั่ง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ถูกละเลยไปมาก  ผมขอสนับสนุนเต็มที่ครับกับกิจกรรมนี้  ขอให้ทำต่อไป

ใช่ครับ "คุณขจิต"

ว่าแต่ว่าคุณขจิตเคยขึ้นไปที่นั่นด้วยกิจกรรมใดหนอ?

 

ขอบคุณครับ "คุณกล้าณรงค์"

อายุบวร

...

สวัสดีค่ะคุณครูกานท์

มาเรียนรู้ คำสี่คำ ... กำลังจะเริ่มฝึกเขียนโคลงสี่สุภาพ บ้างค่ะครู เพราะปกติเขียนได้แต่กลอนแปด

ครูมีหลักอะไรชี้แนะสำหรับโคลงบ้างคะ เวลาจะเขียนต้องเลียนแบบ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด ไปทุกทีค่ะ

ขอบพระคุณครูกานท์ค่ะ

ไปทำค่ายอาสาครับ แต่นานมากๆๆเลย

คุณปูครับ

ไม่ว่าจะเขียนคำประพันธ์ใดๆ เราจะต้องฝึกอ่านคำประพันธ์นั้นๆ ให้มากๆ ครับ อ่านออกเสียงและท่องให้จังหวะคำ ท่วงทำนองต่างๆ ก้องอยู่ในใจ จากนั้นก็จะต้องฝึกอ่านอย่างสังเกตในชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ หมั่นเขียนและพัฒนางานของตนเองอย่างมีอัตลักษณ์ แม้เราจะเริ่มจากการเดินตามรอยครู แต่เมื่อเดินได้แล้วก็จำเป็นจะต้องมีตัวตน มีทางของตน ครูทุกคนต่างก็หวังคอยชื่นชมกับ "อภิชาตศิษย์" ทั้งนั้นแหละครับ แต่ที่มักพบว่าศิษย์ไม่ค่อยพัฒนา ก็เนื่องมาจากศิษบ์นั้นไม่ยอมฝึกใฝ่จริงจัง หรือมักเป็น "ชาล้นถ้วย" ไม่ค่อยรักการอ่าน ไม่ใฝ่เรียนรู้จากครูผู้ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งการคิด อ่าน เขียน ดังนั้นถ้าคุณปูรักที่จะเขียนกาพย์กลอน ครูกานท์ก็อยากจะหวังให้ว่าคุณปูเดินทางไปถึงที่สุดของตนเองครับ

อายุบวร

...

อนุโมทนาย้อนหลังด้วยครับคุณขจิต

จิตอาสา เป็นสิ่งดีงาม...

อายุบวร

...

ขอบพระคุณครูกานท์ค่ะ ไว้จะนำงานมาส่งนะคะ ;)

มาติดตามกิจกรรมของทุ่งสักอาศรมค่ะ

มาเยี่ยมทุ่งสัก เดี๋ยวนี้ดงอ้อยยังล้อมทุ่งอยู่หรือไม่ครับ

อยากเห็นภาพครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท