Training Want กับ Training Need ต่างกันอย่างไร ?

Training Want กับ Training Need ต่างกันอย่างไร ?

เป็นคำถามที่ถูกถามขณะบรรยายอยู่ที่สถาบันยานยนต์ ในช่วงพักทานกาแฟและของว่าง

อยากรู้ไปทำไม?

เคยถูกAuditor ถามมา และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

ครั้งแรกคิดว่าเขาถามมาแบบสนุกๆ หรือลองวิชาผู้สอน

หากแต่... เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรจริงๆ อาจจะเป็น HRD มือใหม่ก็ได้!

งานต่างๆ ในสถานประกอบการนั้นมีอยู่มากมายหลายลักษณะ เช่น การเชื่อมแบบ Spot ก็ต้องมีลักษณะงานดังนี้

1. การปรับ Condition spot welding ตามมาตรฐาน
2. การประกอบชิ้นส่วนตามขั้นตอน (WI)
3. การเปลี่ยนและการแต่ง Tip spot
4. การตรวจและบำรุงรักษาเครื่อง Spot
5. การตรวจและบำรุงรักษา Jig, Fixture
6. การบันทึกเอกสารด้านการผลิต
7. ความปลอดภัยในการทำงาน Spot
8. การจัดการ 5 ส.

สิ่งดังกล่าวนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่พนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับการ SPOT จำเป็นต้องรู้ เพราะถ้าไม่รู้จะไม่สามารถทำงานได้ดีตรงตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานได้เลย

แต่ระดับความรู้ของพนักงานที่อยู่ในหน่วยงานเดียวกัน แต่ทำงานต่างกัน อาจจำเป็นต้องรู้ไม่เหมือนกันก็ได้ เพราะขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละตำแหน่ง สิ่งที่จำเป็นเหล่านี้ เมื่อนำมาผนวกเข้ากับระบบการจัดการฝึกอบรมเราเรียกว่า “Training need” เพราะจำเป็นต้องรู้ เพื่อทำให้สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน ไม่รู้ไม่ได้ อาจเรียกว่า “ความต้องการจำเป็นในการอบรม”

แต่.... ไม่ใช่แค่นี้เท่านั้น เพราะถ้าบุคลากรในหน่วยงานรู้เรื่องดังกล่าวหมดทุกคน ทุกเรื่องแล้ว training need จะเปลี่ยนไป ในระดับที่สูงขึ้น เช่น

1. Spot welding level 2
2. การวิเคราะห์และแก้ไขงาน Spot
3. จิตสำนึกด้านคุณภาพ
4. Kaizen spot weld
5. QCC

ถ้ารู้และเข้าใจดีหมดแล้วอาจจะต้องมีการเสริมความรู้ในด้านต่างๆ ที่เป็นกิจกรรม หรือการบริหารงานเบื้องต้นเพิ่มเติมลงไปเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรได้เติบโตในสายอาชีพต่อไป เช่น

1. การจัดการกระบวนการผลิต
2. เทคนิคการวางแผนงาน
3. การสร้างทีม
4. การพัฒนาภาวะผู้นำ
5. การออกแบบสายงานการผลิต
6. การสร้างสุขสนุกกับงาน
7. Relation ship

จะเห็นได้ว่า มีความต้องการในการอบรมอยู่ 3 กลุ่ม คือ

                กลุ่มที่ 1 พื้นฐานในการทำงาน

                กลุ่มที่ 2 การพัฒนางานและคุณภาพ

                กลุ่มที่ 3 การบริหารงานเบื้องต้นและสันทนาการ

พนักงานแรกเข้าจนถึง 3 ปี (อย่างน้อย) ต้องรู้ในกลุ่มที่ 1 เท่านั้น ยกเว้นผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ความรู้ในกลุ่มอื่นๆ จึงเป็นเพียง Want เท่านั้น ไม่ใช่ Need เพราะคุณยังไม่รู้ในกลุ่มงานพื้นฐาน การรับรู้ในส่วนงานที่สูงกว่า (Advance) จึงไม่มีความจำเป็นเพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

                แต่ Want ก็อาจเปลี่ยนเป็น Need ได้เมื่อถึงเวลา แต่บางสิ่งบางอย่าง ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ เพราะถึงไม่รู้ก็ยังสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี อย่างไม่มีข้อบกพร่องอยู่แล้ว สิ่งนั้นจะเป็น WANT ไปทันที

                ก็คงพอมองเห็นภาพได้ชัดขึ้น

สรุปก็คือ

                TRAINING NEED คือสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ ถ้าไม่รู้จะไม่สามารถทำงานได้ดี มีคุณภาพ และจำนวนตรงตามความต้องการของลูกค้าได้

                TRAINING WANT คือสิ่งที่อยากรู้เพื่อประดับไว้บ้าง สนองกิเลศ ตนเอง หรือเพื่อการต่อต้านกับหน่วยงานหรือกลุ่มคนอื่นๆ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ไม่มีผลต่อการทำงานที่ดีด้วย

Sekpornsawan  Boonpetch

๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๓