เที่ยวลันตา: ตอนจบ


เล่นน้ำทั้งวัน 

        5 เมษายน 2553 วันนี้เป็นวันจันทร์ วันลาพักร้อน วันที่ยังอยู่บนลันตา บ้านผมตื่นตั้งแต่ 6 โมงกว่าๆ น้องจ้าตื่นเป็นคนแรกคาดว่าเมื่อคืนคงนอนหลับๆตื่นๆ และเมื่อเธอตื่นทุกคนก็ตื่น เพราะจะเรียกแม่ทีพ่อที เอาเป็นว่าพ่อลุกขึ้นก่อนก็แล้วกัน จากนั้นก็สะกิดพี่แป้งกระซิบถามว่า “ไปชายหาดกันไหม” แทนการตอบคำถามเธอก็พยักหน้าทีหนึ่งแล้วก็ลุกขึ้นก้าวลงจากเตียงทันที จากนั้น เราสามคนพ่อลูกก็ออกจากห้องพักมุ่งหน้าสู่ชายหาดในบัดดล ปล่อยให้แม่หลับอีกสักงีบ เพราะรายนี้ต้องสวยก่อนออกจากห้อง ฮา....

       พี่แตงกวากับป้าเปิ้ลนำหน้าออกมาก่อนแล้ว ทั้งสองสาวรุ่นใหญ่กว่าเธอกำลังโพสต์ท่าถ่ายรูปกันอยู่ เมื่อลูกผมมาถึงจึงได้เริ่มก่อกองทรายกัน และเพียงไม่นานต้นข้าวก็ออกมาสมทบ ปล่อยให้เด็กๆเล่นทรายกันสักพักก็บังคับให้ขึ้นมาทานอาหารเช้า ซึ่งก็เข้ารูปแบบเดิมก็คือลูกสาวผมกินน้อยมาก น้องจ้ากินไข่ดาวเฉพาะไข่ขาวกับขนมปังเสี้ยวหนึ่ง พี่แป้งไม่น่าห่วงนัก ส่วนบ้านพี่เปิ้ลเธอกินกันจนอิ้มแปล้ตามระเบียบ

       เสร็จมื้อเช้าก็ได้ฤกษ์กระโดดน้ำ “ตู้ม” เปิดโรงด้วยพี่แป้ง จากนั้นคนอื่นๆก็ร่วมวงด้วย สระน้ำอยู่หลังห้องพักนี่สะดวกเป็นที่สุด ของกินก็พร้อม ห้องน้ำก็คล่อง เราปล่อยให้ลูกๆเล่นน้ำกันจนถึงเวลา 11 โมง เรียกว่าเล่นกันจนตัวเขียวอื๋อเชียวครับ ต้องบังคับจึงจะได้ขึ้นมา ผมวางแผนสำหรับมื้อเที่ยงวันนี้ไว้ที่ “เขาใหญ่” ร้านอาหารประจำครอบครัว (ฮ่า ฮ่า...) ซึ่งต้องขับรถเข้าไปในเกาะอีกไกลครับ แต่รสชาติและราคาสมเหตุสมผลเป็นที่สุด

       ร้านอาหารตรงนี้เป็นมุมเหมาะ ที่นั่งเปิดรับลมโล่งสบาย เราสามารถมองเป็นตรังตรงส่วนที่เป็นปากเมง เห็นภูเขาที่มองแล้วเหมือนคนนอนหงายมองฟ้าอยู่ จากตรงร้านอาหารนี้เรายังมองเห็นเกาะไหงด้วยนะครับ อาหารสำหรับเที่ยงวันนี้ก็คงหนีไม่พ้นกุ้งซ้อสมะขาม อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ แต่สำหรับเด็กๆแล้ว ไข่เจียวเพียงจานเดียวใหญ่ๆก็อิ่มเต็มกำลัง จากนั้นก็นั่งๆนอนๆ กินไอติมแท่งจนพอใจก็ได้เวลากลับ

  ช่วงบ่ายได้มีโอกาสงีบเพียงสั้นๆ แต่ลูกสาวทั้ง 2 ของผมไปติดอยู่ห้องพี่เปิ้ล จนกระทั่งราว 2 โมงกว่าอ่อนๆจึงได้เวลาลงน้ำกันอีกรอบ และรอบนี้ พี่แป้งเธออาสาเป็นผู้นำในการพาทุกคนไปตระเวนลงสระน้ำข้างๆกัน รวมถึงสระที่อยู่ใกล้ชายหาดอีกที่หนึ่ง ซึ่งสระน้ำแห่งนี้รับแดดอยู่ทั้งวัน ดังนั้นน้ำจึงอุ่นสบายรู้สึกเหมือนแช่น้ำในออนเซ็นก็ไม่ผิดเพี้ยน (เอ...ผมเคยแช่ออนเซ็นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย) และลูกสาวทั้ง 4 คนก็เล่นน้ำกันจนเย็นย่ำ สลับกับลงทะเลเป็นช่วงๆ สลับไปสลับมาก็พลบค่ำไปซะแล้ว

    

   มื้อเย็นวันนี้เราหากินกันละแวกข้างๆโรงแรมครับ ลงไปหน้าชายหาด แล้วเดินไปทางขวา มีรีสอร์ทอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีร้านอาหารหน้าหาดที่ดูน่ากินกว่าโรงแรมที่เรานอน ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด เพราะเด็กๆต่างก็เอร็ดอร่อยกับการดูดเส้นสปาเก็ตตี้แข่งกัน ผมกับพี่เปิ้ลเลือกที่จะกินอาหารอินเดียให้หายอยาก อยากจะบอกว่า อร่อยเด็ดจริงๆนะครับ ลูกผมยืนยัน

       และคืนนี้ก็หมดแรงกันไปตามๆกัน พ่อแม่ลูกทั้ง 8 ชีวิต ต่างก็สลบไสลกันไปอย่างพร้อมเพรียง

 

       6 เมษายา 2553 เป็นวันอังคารและยังคงเป็นวันพักผ่อนของเรา เช้านี้ บ้านพี่เปิ้ลเขาต้องกลับก่อน เพราะว่าคงต้องใช้เวลาขับรถนานกว่าบ้านผม งานนี้ทำเอาลูกสาวผมอารมณ์กร่อยลงไปถนัดตา แต่ไม่เป็นไร เราไปฉลองมื้อเช้ากันก่อน

ขอทิ้งทวนด้วยการว่ายน้ำกระโดดน้ำหลังห้องกันอีกจนเกือบ 11 โมง จึงได้เวลาเก็บข้าวของกลับบ้าน โดยจุดหมายแรกของเราก็คือ ร้านอาหารลันตาซีฟู๊ดเจ้าเก่าที่เราต้องมากินกันทุกครั้งที่มาที่นี่ อันที่จริงมันก็ไม่ได้อร่อยไปมากกว่าร้านอื่นหรอกนะครับ เพียงแต่อาศัยความคุ้นเคย วิวคุ้นเคย เพียงแค่นี้ก็พอเพียงแล้วสำหรับการนั่งกินอาหารไป ดูเรือไป ป้อนอาหารปลาไปพลาง จิบน้ำมะนาวโซดาสุดโปรดของพี่แป้ง เสร็จมื้อเที่ยงอย่างเป็นสุข

       น้องจ้าเธอหลับตั้งแต่เริ่มออกรถ สงสัยจะเหนื่อยสุดแรง มาตื่นเอาอีกทีก็ถึงตรังราว 2 โมงกว่าๆ ตอนที่พ่อกับพี่แป้งลงไปหาซื้อของกินในเมืองตรัง ครั้งนี้ได้พบร้านลูกชิ้นหมูปิ้งสุดอร่อยใกล้ๆปั้มเชลล์ก่อนออกจากเมือง (เส้นที่เดินทางไปห้วยยอด) เรียกกำลังกันไปได้ก็แวะอีกรอบที่ร้านขายเค้กขนิษฐา เพราะว่าพ่อและแม่หิวกาแฟแทบขาดใจ (ฮา) แต่ความหิวกลับกลายมาเป็นความเซ็งทันที เมื่อกาแฟที่ดูดไปเอื้อกใหญ่นั้น มันทำให้ฮอร์โมนอินสุลินทำงานหนักมากขึ้นหลายเท่าตัว นี่อุตส่าห์บอกเธอแล้วว่าขอแบบหวานน้อยๆ แต่นี่สาวน้อยคนขายเธอกลับใส่น้ำตาลและนมมาเต็มอัตรากำลัง มาตรฐานเดียวเบี้ยวไม่ได้ ท้ายที่สุดได้ดูดคนละอึกสองอึกก็ทิ้งไป “เสียปาก”

       ตอนนี้ทุกคนในรถตื่นหมดแล้ว รวมทั้งคนขับ (ฮาอีก) ผมได้โทรศัพท์ไปหาพี่เปิ้ล เลยได้ทราบว่า เขาแวะกินข้าวเที่ยงกันที่พัทลุง ห่างออกไปจากเราราว 1 ชั่วโมงเศษๆเท่านั้น และก็สามารถถึงหาดใหญ่ได้ภายใน 6 ชั่วโมง ส่วนคันของเราขับตามมาตรฐาน ไม่ช้าไม่นานก็ถึงบ้านอย่างปลอดภัย ก็คงต้องบอกลากันตรงนี้ ปีหน้าเจอกันที่ลันตาอีกนะครับ

คำสำคัญ (Tags): #ลันตา
หมายเลขบันทึก: 379993เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2010 14:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

เที่ยวครั้งนี้สนุกมาก ๆๆ ค่ะ เล่นน้ำกันทั้งวัน ปีหน้าน้าแปร๊ะ อย่าลืมชวนแตงกวากับต้นข้าวอีกนะคะ

ชวนแน่นอนสาวน้อย

เสียดายจริงๆที่เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา เราไม่ได้ไปหัวหินด้วยกัน

บอกป่าป๊าให้ขับรถใหม่ให่เก่งเร็วๆนะ จะได้ไปลันตากันอีก น้าแปร๊ะชอบลันตาที่สุดเลย

เดี๋ยวเดือนตุลาคมนี้ บ้านน้าแปร๊ะจะไปเที่ยวสิงคโปร์กันแหละ อยากไปมั้ย บอกหม่าม้าเร็วๆหน่อยนะ

คุณหมอต้องเนทรีบปจองตั๋วเข้าไปเที่ยว universal ล่วงหน้าได้แล้วหน่ะครับ เพราะเดียวมันจะเต็ม แบบว่าครอบครัวผมเพิ่งกินแห้วกลับกันมาจากสิงค์โปร์ เค้าจำกัดปริมาณผู้เข้าไปเที่ยวครับ ยิ่งเดือนตุลาปิดเทอมบ้านเราพอดี คงมีคนไทยไปเที่ยวกันเยอะ

คุณหมอเข้าไปที่ www.rwsentosa.com แล้วรีบจองหน่ะครับ ที่พักคุณหมอคงจองเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไรเพราะมีให้เลือกเยอะ

มาชมครอบครัวหรรษาพาเที่ยวสนุก..คิดถึงเมื่อเป็นเด็กที่ได้เที่ยวกับพ่อ-แม่-พี่-น้อง เช่นนี้เป็นประจำเหมือนกันค่ะ...

เจ้าของภาพ : วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร

สวัสดีค่ะคุณหมอ

คิดถึงคุณหมอจังเลย แต่ยุ่งมากสุดๆตอนนี้เริ่มลัลล้าแล้วค่ะ ค่อนข้างมึความสุขดีทีเดียว คุณหมอไปเที่ยวมาอีกแล้วเหรอคะ จอยก็พึ่งไปเขาใหญ่และกลับบ้านที่ลำปางมา อาทิตย์หน้าจะไปเขาเขียว แบบว่าเที่ยวแข่งคุณหมอค่ะ อิอิ คุณหมอมีfacebookมั้ยคะ จอยพึ่งมีได้ 1 เดือน คุณหมอลองไปเล่นสิคะ มีรูปอวดเต็มเลย 555 ชื่อ ปฐมธิดา ชิโนณะวณิก แล้วจะมาคุยกับคุณหมอใหม่นะคะ วันนี้วันเกิดไปกินข้าวกับครอบครัวมาค่ะ

โอย ... คุณจอยมาในชื่อปฐม นี่ เล่นเอาผมต้องระลึกชาติไปอีกสักพักเลยครับ

บ้านผมก็เที่ยวตลอกแหละครับ แต่เดี๋ยวนี้หาโอกาสนั่งเขียนน้อยมาก เพราะงานกำลังเข้ารุม

นี่ก็เพิ่งกลับจากหัวหินมาหลัดๆ

ส่วน FB ก็มีครับ เดี๋ยวนี้ใครไม่เล่น FB เขาจะหาว่าเป็นลุง

ปฐมธิดา ชิโนณะวณิก

555 จริงค่ะ พึ่งเล่นเหมือนกันเพราะคุยกับเพื่อนๆก็จะบอกว่าไปเจอกันในfb ตอนนั้นห่างไกลเทคโนโลยีมากค่ะ ของจอยพึ่งจะเที่ยวเพราะไม่อยากได้แต่คิดแต่ไม่ลงมือทำสักที เวลาไม่เคยรอเราอ่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณหมอ

บ้านคุณหมอน้ำท่วมรึเปล่าคะ เป็นยังไงบ้างคะที่หาดใหญ่

สวัสดีครับคุณจอย

ที่บ้านน้ำไม่ท่วม แต่ร้านพังครับ แบบว่า นานๆจะมีธุรกิจส่วนตัวกับเขาบ้าง น้ำดันมาพาของๆเราไป

เพิ่งว่างเข้ามาบล็อคคุณหมอค่ะ

ชอบรูปที่คุณหมอโยนน้องลงสระจังเลยค่ะ น้องคงเล่นน้ำสนุกน่าดู

เผลอแป๊ปเดียวใกล้จะปีใหม่อีกแล้ว ฝากสวัสดีปีใหม่ ถึงคุณหมอและครอบครัวเลยนะคะ

สวัสดีแม่น้อง Java. Ada. เช่นกันนะครับ

คนเล็กชุดแดงคือน้องจ้า

เสื้อลายที่ถูกโยนคือพี่แป้งครับ

สวัสดีปีใหม่จ๊ะ คุณหมอ

วันปีใหม่นี้ สุขีถ้วนหน้า พระรัตนตรัยนำพา ซึ่งความเจริญ

ญาติมิตรทั้งหลายไม่ห่างหมางเมิน ขึ้นเขาลงเนินปลอดภัยตลอดกาล

ขอให้ครอบครัวสุขสันต์ รักกันตลอดปีนะค่ะ ^-^

อะแอ้ม ม่ะบอกคะ ปล่อยให้งง (ล้อเล่นนะค่ะ)

คริ คริ คริ... น้องจ้าจ๊ะ นั่นดอกอะไรเสียบไว้ที่ในรูหู

แบบว่าคุณหมอเป็นเหมือนสปริงให้น้องแป้งกระโดดสูง

เห็นแล้ว หวาดเสียว แต่ก็น่ารักมากที่สุด

ระวังหน่อยนะคร้า ... เป็นห่วงลูกนะค่ะ (^..^)

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณหมอพ่อน้องแป้ง

ตามมาชมภาพสุขสันต์ที่ลันตา ชอบภาพนี้จังค่ะ

อ่านบันทึก นึกถึงลันตา สุขสันต์ หรรษา ทุกวี่วันนะคะ

ปฐมธิดา ชิโนณะวณิก

สวัสดีค่ะคุณหมอ คุณหมอทำธุรกิจอะไรเหรอคะ กิจการเป็นยังไงมั่ง การทำธุรกิจ ยุ่งยากมั้ยคะ

คุณจอย

ธุรกิจอะไรเหรอครับ จู่ๆมาถามแบบนี้ ทำเอาผมงงงง

วิวสวยดีนะค่ะ เด็กๆน่ารักมากคะ

ขอบคุณครับ ไออ้วน (ชื่อสวยดีครับ)

คุณหมอคะ ขอชื่นชมความคิดด้วยนะค่ะ

ที่มองอะไรแล้วดูดี ดูสวย ดูงามตา

คุณหมอมองโลกในแง่ดีเสมอ

ขอให้คุณหมอมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง

เจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้านค่ะ

ขอบคุณครับขนตา

เรื่องการมองโลกนี่เป็นต้นทุนชีวิตครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท