สองสามวันที่ผ่านหลังจากเข้าพรรษาได้ไม่กี่วัน ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนถิ่นน้ำดำ ...แล้วก็เลยถือโอกาสอันดีขึ้นเขา...ตามรอยวิถีแห่งพระอริยะ กราบคารวะพระอริยเจ้าสายวัดป่า และถือโอกาสนี้แบ่งปันภาพแห่งการเดินทาง..ให้แด่ผู้ที่สนใจ บางท่านก็อาจจะเคยไปมาแล้ว บางท่านอาจจะไม่เคยเห็น เอาเป็นว่าดูเองก็แล้วกัน
“วัด ” หลายคน หมายถึง สถานที่ ซึ่งอันที่จริงความหมายของวัดก็ คือ “ให้ รู้ ”ไปวัดก็เพื่อจะได้ รู้ รู้ในที่นี้ คือ ใจ ตนเองว่าสุขคืออะไร ทุกข์คืออะไร เกิดอย่างไร ดับอย่างไร และจะรู้ได้ก็ด้วยการ ดู ดู ไปที่ใจ (ดู จิต ) ใจที่ รู้ แล้วจะตื่น คือ พ้นจากความหลับ(ไสยะ ) และ พ้นรวมทั้งหลีกออกห่างจากความ หลง (โมหะ ) และเมื่อ ตื่น ขึ้น แล้วจะเบิกบาน ดังความหมายของคำว่า พุทธ นั่นเอง
ทั้งนี้หลายสิ่งหลายภาพที่เล่าสู่กันฟัง เพียงเพื่อให้ผู้ที่ผ่านเข้ามา อาจจะพบเส้นทางการปฏิบัติเช่นนี้ได้ทราบ พอเป็นแนวทางไว้เท่านั้น…และบรรยากาศที่ให้เชื่อว่าเป็นวัดอยู่มีความรู้สึกของการได้เข้าวัดมากกว่าการมาท่องเที่ยวในสถานที่แปลกตา
จากพระกลางป่า กลางฝน กลางภูเขา
ภูริวฑฺฒโน
ป.ล. ที่จริงจะลงท้ายชื่อพระอนุวัฒน์ก็ได้เหมือนกันนะ แต่กลัวไม่ได้ใช้ฉายาที่ท่าน
อุปัชฌาย์ตั้งให้น่ะ..ถึงอย่างไรมันก็เป็นสัจจะสมมติที่มนุษย์กำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมาเท่านั้นเอง
ขอบคุณสถานที่
วัดป่าสักกะวัน
วัดพุทธนิมิตร
อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
แวะมานมัสการคนแรกนะครับหลวงพี่
-เห็นภาพสถานที่แล้ว วันหน้าผมขอเป็นเด็กวัดไปเที่ยวหลวงพี่นะครับ
-ได้ทำบุญบ้างชีวิตคงจะดีขึ้น ใช่ไหมครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าวัดเลย
-ตอนนี้ผมรู้สึกไม่สบายใจครับ ขอคำชี้แนะจากหลวงพี่ครับ ผมควรจะทำอย่างไรครับ สาธุ สาธุ
เห็นตามไตรลักษณะครับ..เดี๋ยวมันก็เกิด..เดี๋ยวมันก็ดับ อยู่กับเราไม่นานหรอก..ขอบคุณการแวะชมนะครับ