โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

ขึ้นเครื่องบิน-1


การขึ้นเครื่องบินเป็นเรื่องน่ารู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีโอกาส “ครั้งแรก” และแม้จะขึ้นครั้งที่สองหรือสามก็ยังมีประโยชน์

ขึ้นเครื่องบิน-1

โสภณ  เปียสนิท

......................................

                ผมขึ้นเครื่องบินไม่บ่อยครั้งดอกครับ ครั้งหนึ่งเมื่อยังดำรงสมณเพศ เดินทางไปบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นตั๋วแบบดับเบิ้ล หรือสองเที่ยวบิน คือไปและกลับ อีกครั้งหนึ่งตอนไปศึกษาต่อที่ประเทศอินเดีย เป็นตัวแบบมัลติเปิ้ล หรือตั๋วหลายเที่ยว เพราะไปอยู่นานหน่อย อีกครั้งหนึ่ง เมื่อตอนไปเข้ารับการ อบรมด้านภาษาอังกฤษที่ประเทศออสเตรเลีย และก็มาครั้งนี้แหละครับที่เดินทางศึกษาดูงานยุโรป

                การขึ้นเครื่องบินเป็นเรื่องน่ารู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีโอกาส “ครั้งแรก” และแม้จะขึ้นครั้งที่สองหรือสามก็ยังมีประโยชน์ เพราะบางทีกว่าจะได้ขึ้นเครื่องอีกครั้งลืมประสบการณ์ครั้งก่อน ๆ ไปแล้ว ระหว่างการเดินทางเที่ยวกลับคิดเล่นเพลิน ๆ ว่า น่าจะนำเรื่องการ “ขึ้นเครื่องบิน” มาเขียนไว้ในการศึกษาดูงานครั้งนี้ด้วย คนที่ยังไม่เคยขึ้นจักได้ทำความคุ้นเคยเบื้องต้น คนเคยมีประสบการณ์มาแล้วอาจเขียนมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์บางก็จะเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น

                ใกล้บ่ายสี่โมงของวันที่ 17 ตุลาคม 2547 คณะของเราพร้อมบนรถตู้ ต่างเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับประเทศปลายทางและจำนวนวันที่จะไป รู้มาว่าที่สามประเทศ คือ สวิทเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และอิตาลี่หนาวมาก ผมเตรียมเสื้อผ้าพอดีกับจำนวนวันที่ไป กระเป๋าเล็กและอัดเต็ม บางคนเตรียมกระเป๋าใหญ่หน่อย และเหลือที่ว่างไว้มาก จะได้ซื้อของฝากขากลับ

                เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ ถนนจึงแน่นเหมือนว่ารถทุกคันในประเทศกำลังเดินทางไปในทิศทางเดียวกับเรา แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งคณะไม่กังวลมากนัก เพราะเผื่อเวลาไว้แล้ว และไม่ต้องห่วงเรื่องการซื้อตั๋วเครื่องบิน  เพราะบริษัททัวร์ได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งการต่ออายุหนังสือเดินทาง passport ทำใบขอเข้าเมือง visa มีสิ่งเดียวที่ต้องทำคือ นำตัวเองให้ถึงสนามบินก่อนเวลาที่กำหนด

                รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันนะครับ นาน ๆ จะได้ขึ้นเครื่องบินสักครั้ง ความคิดของผมทำท่าจะสับสนวุ่นวายจนเกินควร จึงทำทีเป็นหลับตาพักผ่อน แต่แอบสวดมนต์ทำใจให้สงบบอกกล่าวสิ่งที่เคารพนับถือ และแผ่เมตตาสู่ประเทศที่กำลังจะเดินทางไปถึงอยู่เงียบ ๆ

                ถึงสนามบินก่อนเวลาที่กำหนดครับ มีรถเข็นมาใส่สัมภาระสิ่งของไว้บริการ จะได้ไม่ต้องหิ้วให้เมื่อยตุ้ม (อย่าถามนะครับว่า ตุ้มไหนเล่าที่เมื่อย เพราะผมจะไม่ตอบ) อ้อ...ฟรีครับ แต่สนามบินที่อิตาลี่ต้องจ่าย 1 เหรียญยูโร (52 บาท) มีเวลาพอ จึงพาครอบครัวดูมุมนั้นมุมนี้ของสนามบินดอนเมืองเพื่อเสริมประสบการณ์ให้ลูก

จากนั้นรับตั๋วและพาสสพอร์ท และบอร์ดดิ้งพาสส์ จากผู้นำทัวร์ ชื่อคุณชาตรี พลิกดูพบว่าเป็นตั๋วของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 970 เลขที่นั่ง 46 H เวลาที่ออกเดินทาง 00.30 น.

ต่อมาต้องหาดูว่าจะเอาสัมภาระผ่านการตรวจก่อนนำขึ้นเครื่องที่เค้าเต้อร์ไหน มีหลายเค้าเตอร์เรียงรายให้เห็น อาจทำให้หลงกลุ่ม ครั้งนี้เรานัดกันที่เค้าเตอร์ 1 มากันครบก่อนกำหนดครับ ไม่มีใครตกเครื่องบิน อย่าลืมแยกของจำเป็นต้องใช้ระหว่างการเดินทางไว้ในกระเป๋าถือ สตางค์ เสื้อหนา ๆ สักตัว แปรงสีฟันยาสีฟัน ฯลฯ เท่าที่จำเป็น เพื่อนบางคนกระเป๋าถือใหญ่กว่ากระเป๋าใหญ่ของผมเสียอีก ของแหลมมีคมห้ามนำติดตัว ไม่ว่าจะเป็นคัดเตอร์ กรรไกรต้องหย่อนใส่กล่องทิ้งไว้

 

หมายเลขบันทึก: 379619เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2010 21:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 21:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

เรียนท่านอาจารย์โสภณ

   ดิฉันเคยขึ้นเครื่องบินครั้งแรกเมื่อหลายปีที่แล้วค่ะ เค๊านำมาจอดที่สนามโรงเรียนสารคามพิทยาคม ดิฉันกับเพื่อนก็ไปลูบๆคลำๆ แล้วก็ลองย่องขึ้นไปดู แล้วก็ลงมาค่ะ ไม่มีอาการเมาหรือวิงเวียนซักกะนิดนึง ค่าโดยสารก็ไม่ต้องจ่ายด้วย อิอิ จากนั้นมาก็ไม่เคยขึ้นอีกเลยค่ะ แป่วววววววววววว

เอา แค่นั้นก่อนพอเป็นพิธี แล้วก่อนลงหันหลังโยนเหรียญบาทไว้สักเหรียญ

อธิษฐานจิตว่าขอกลับมาขึ้นให้ได้ในชีวิต

แค่นั้นแหละสำเร็จ ครับ

เพิ่มเติมอีกหน่อยครับคุณยาย

ฝรั่งเขาใช้วิธีแบบนี้ที่น้ำพุเทรวีครับ

ผมเอง แบบเอาเหรียญบาทโยน

พวกเขาบอกว่าไม่ได้ต้องเหรียญยูโร ไม่กล้าโยนครับ ตอนนั้นเหรียญละ50กว่าบาท

ตามมาอ่านก่อนนะครับ พอโยนบาทหนึ่งได้ไหมครับ แต่เป็น บาตรพระ ฮ่าๆๆๆ

เรียนอาจารย์ขจิตครับ

โยนบาตรพระแล้วอาจได้อานิสงส์

ให้บวชพระตลอดไปเลย เอ้าฮากันหน่อย

เรียนท่านอาจารย์โสภณ

  ตอนนี้ดิฉันยังอยู่ที่ทำงานค่ะ สรุปโครงการยังไม่เสร็จ เลยแวะมา จะรอลุ้นว่าอานิสงฆ์ที่อาจารย์อวยพรให้กับท่านอาจารย์ขจิตจะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ฮ่าๆๆๆ

ชอบเดินทางโดยเครื่องบินค่ะ  รวดเร็ว- ปลอดภัย- ประหยัดเวลา(สำหรับการเดินทางภายในประเทศอื่นๆ หากจองในช่วงจังหวะดีๆอาจถูกกว่ายานพาหนะอื่นๆ)

                                              
                                       
                

เรียนคุณยาย

คาดว่าคงได้ผลนะครับ

เพราะเห็นท่านอาจารย์ขจิตธัมมะธัมโมดีออก

เรียน  ท่านมหาโสภณ ที่เคารพ

อ่านแล้วมีความรู้ดี เคยขึ้นเครื่องครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2553 ที่สุวรรณภูมิไปศึกษาดูงานที่มาเลย์เซีย สิงคโปร์  ตื่นเต้นมาก ไม่เคยคิดเลยว่าครูบ้านนอกอย่างเรา จะมีโอกาสดี ๆ อย่างนี้ ฝากบอกทุก ๆ ท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียน ไม่ต้องอธิฐานหรอกนะครับ เก็บเงินไว้เยอะ ๆ แล้วก็บินไปเลย...ชัวร์กว่าตั้งเยอะ

เรียนอ.สุเพียบ (แปลว่าสุภาพใช่เปล่าครับป

ยินดีด้วยที่มีโอกาสแล้ ยินดีด้วยสำหรับการเดินทางครั้งต่อไปนะครับ

เห็นด้วยครับ เรื่องเก็บเงิน ส่วนเรื่องอธิษฐานนั้น เป็นเคล็ดนิดหน่อยแค่นั้นเอง เอ้าฮาครับ

อาจารย์ขา

บ้างครั้งขึ้นเครื่องบินถือว่าเป็นการเรียนรู้เอาไว้ไปเล่าให้ใหลูกๆฟังว่าคนอยู่บนท้องฟ้ามีความรู้สึกอย่างไร โอ้โหอะไรจะขนาดนี้เนาะ

ดีเหมือนกันครับครูอิ๊ด

บางครั้ง อารมณ์และความรู้สึกที่เรารับขณะนั้น หากไม่บันทึกไว้นานไปจะลืม โชคดีครับ ครั้งนั้นผมบันทึกไว้ตลอดการเดินทาง

ดูเหมือนว่าจะสมบูรณ์กว่าการเดินทางครังใด

มาขึ้นเครื่องบินด้วยคนค่ะ เคยขึ้นเครื่องบินแค่ในประเทศน่ะค่ะ ครั้งแรกแล้วก็ครั้งเดียวไม่มีโอกาสไปไกลๆกะเขาสักที

เรียนคุณมดตะนอย

ขึ้นเครื่องแบบใกล้ๆไปก่อน แล้วจะสมปรารถนาได้ขึ้นทีเดียวโน่นเลยครับ 12 ชม.รวดเดียวเลย คราวนี้ล่ะเมื่อยจนคุ้มเชียว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท