เชือดจิต...เฉือนใจ


 

 

 

ต้นไม้ที่มีหนามตามต้น

หนามนั้นจะคอยทิ่มแทงผู้ที่ไม่ระมัดระวัง

เมื่อเดินผ่าน หรือ เมื่อยามต้องสัมผัส

หนามนั้นเป็นลักษณะของลำต้น

เกิดแต่ลำต้น และอยู่แต่ลำต้น อาจไม่อาจหมดไปจนกว่าไม้นั้นจะล้มลง

 

 

 

คำพูดที่เป็นเท็จ ส่อเสียด ก้าวร้าว นินทา ดูหมิ่น ที่มีผู้พ่นพิษใส่เราก็เช่นกัน

มันจะคอยทิ่มแทงเราเรื่อยไป ถ้าเรามัวไปสนใจ เก็บมาคิด

ต่อเติมจินตนาการ เพราะมันนั้น เหมือนเชื้อโทสะ

ที่นำให้เราเกิดอาฆาตพยาบาทกับคนผู้นั้นอย่างจมปลัก

ถ้าเราขาดสติไม่รู้เท่ามัน

โลกธรรมแปดยังคงดำเนินไปตามหน้าที่ของมัน

เราแค่มีหน้าที่รู้เท่าทัน และ คลายวาง

 

 

 

หนามมันก็ยังคงอยู่อย่างนั้น เพราะมันเป็นธรรมชาติของมัน

อยู่ที่เราว่าจะยอมให้มันทิ่มแทงตลอดไป

หรือแค่บาดเจ็บครั้งเดียว แล้วรู้ ปล่อยวาง ให้อภัย

การจะทำดีตอบ กับคนที่ทำดีต่อเรานั้นไม่ยากเลย

การที่จะทำดีให้อภัยด้วยจิตเมตตา กรุณากับคนที่ทำร้ายเรานั้นก็ช่างไม่ง่ายเลย

แต่สิ่งนี้ไม่ใช่หรือ ที่เป็นด่านทดสอบจิตใจในขั้นที่สูงขึ้นไป...

 

 

 

 

พรพล

๒๗ กรกฎา ๕๓

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 378881เขียนเมื่อ 27 กรกฎาคม 2010 09:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
  • เป็นบันทึกที่ดีดีคติชวนคิดครับ
  • สำหรับผมจะถือคติที่ว่า  " การจะปีนป่ายไปให้ถึงยอดไม้นั้น ต้องยอมเจ็บตัวเพราะหนาม หรือกิ่งไม้ขูดข่าวบ้าง จึงจะปีนไปได้ถึงยอดไม้ แต่ถ้าไม่ยอม  แล้วถอยกลับ จะไม่มีวันไปได้ถึงยอดไม้ " ครับ
  • ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันครับ

...หนาม..มันก็อยู่ที่ต้นของมัน...

...มันจะทำร้ายเราได้หรือ...อยู่ที่เราเข้าไปใกล้  หรือไกลมัน...

...การเก็บคำพูดของคนไม่ดีมาเป็นโทสะ..เราจะเป็นคนไม่ดียิ่งกว่า..

......................

  • แวะมาทักทายค่ะ

ได้แง่คิดดี ๆ เยอะเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาทักทาย

อ่านแล้วนึกถึงเพลง หินก้อนนั้น ค่ะ .. ขึ้นอยู่กับเราแล้ว ขอบคุณค่ะ

เป็นการให้มีสติ มีปัญญา รู้เท่าทันอารมณ์ที่กระทบผัสสะครับ ขอบคุณมากครับ

สวัสดีทุกท่านนะครับ

ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมเยือน และ มาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ...

น้องPhornphon

ด่านทดสอบจิตใจในขั้นที่สูงขึ้นไป...จิตสูงเท่ากับสำเร็จ ชื่นชมๆ

ให้กำลังใจค่ะ

แวะมาทักทายตอนดึกค่ะ

หนามมันก็ยังคงอยู่อย่างนั้น เพราะเป็นธรรมชาติของมัน

อยู่ที่ว่าเราจะยอมให้มันทิ่มแทงตลอดไป

หรือแค่บาดเจ็บครั้งเดียว แล้วปล่อยวาง

ขอบคุณข้อคิดดีๆที่แบ่งปันค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพรพลP

หนามแหลมในใจ... คือ...อารมณ์ร้าย... ที่ฝังรากลึกลงไปในจิตใจของเรา... สร้างความเจ็บปวดใจให้เรา... ในทุก ๆ ครั้งที่เราคิดและปรุงแต่ง...

ดังนั้น..
วิธีที่จะถอนหนามแหลมออกจากจิตใจของเรา..

ก็คือ..หยุดคิดปรุงแต่ง...หยุดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดี.. แล้วนำเอาความรู้สึกดี ๆ ลงไปในจิตใจของเรา.. ด้วยการบ่งหนามแหลมคืออารมณ์ร้าย ๆ ออกจากจิตใจ..

ขอบพระคุณ คุณ ภัทรานิษฐ์

ที่มาให้กำลังใจนะครับ...

ขอบพระคุณท่าน krudala เช่นกันครับ ที่แวะมาเยือนนะครับ...

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ แผ่นดิน ที่นำข้อธรรมมาฝากนะครับ...

สวัสดีคุณ ศิรินทร ครับ

"วิธีที่จะถอนหนามแหลมออกจากจิตใจของเรา..

ก็คือ..หยุดคิดปรุงแต่ง...หยุดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดี.. แล้วนำเอาความรู้สึกดี ๆ ลงไปในจิตใจของเรา.. ด้วยการบ่งหนาม

แหลมคืออารมณ์ร้าย ๆ ออกจากจิตใจ"

ขอบพระคุณครับ

จริงด้วยค่ะ....ได้ข้อคิดดีดี น่ะ บางที่คนเราไม่ค่อยมีใครมาเตือนสติก้ออาจเผลอไปบ้างน่ะ...

และก้อขอบคุณที่ไปเยี่ยมน่ะค่ะ

ขอบพระคุณ คุณปนัดดา ที่มาเยี่ยมเช่นกัน ครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท