พรพล
๒๗ กรกฎา ๕๓
...หนาม..มันก็อยู่ที่ต้นของมัน...
...มันจะทำร้ายเราได้หรือ...อยู่ที่เราเข้าไปใกล้ หรือไกลมัน...
...การเก็บคำพูดของคนไม่ดีมาเป็นโทสะ..เราจะเป็นคนไม่ดียิ่งกว่า..
......................
ได้แง่คิดดี ๆ เยอะเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาทักทาย
อ่านแล้วนึกถึงเพลง หินก้อนนั้น ค่ะ .. ขึ้นอยู่กับเราแล้ว ขอบคุณค่ะ
เป็นการให้มีสติ มีปัญญา รู้เท่าทันอารมณ์ที่กระทบผัสสะครับ ขอบคุณมากครับ
สวัสดีทุกท่านนะครับ
ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมเยือน และ มาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ...
น้องPhornphon
ด่านทดสอบจิตใจในขั้นที่สูงขึ้นไป...จิตสูงเท่ากับสำเร็จ ชื่นชมๆ
ให้กำลังใจค่ะ
แวะมาทักทายตอนดึกค่ะ
หนามมันก็ยังคงอยู่อย่างนั้น เพราะเป็นธรรมชาติของมัน
อยู่ที่ว่าเราจะยอมให้มันทิ่มแทงตลอดไป
หรือแค่บาดเจ็บครั้งเดียว แล้วปล่อยวาง
ขอบคุณข้อคิดดีๆที่แบ่งปันค่ะ
หนามแหลมในใจ... คือ...อารมณ์ร้าย... ที่ฝังรากลึกลงไปในจิตใจของเรา... สร้างความเจ็บปวดใจให้เรา... ในทุก ๆ ครั้งที่เราคิดและปรุงแต่ง...
ดังนั้น..
วิธีที่จะถอนหนามแหลมออกจากจิตใจของเรา..
ก็คือ..หยุดคิดปรุงแต่ง...หยุดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดี.. แล้วนำเอาความรู้สึกดี ๆ ลงไปในจิตใจของเรา.. ด้วยการบ่งหนามแหลมคืออารมณ์ร้าย ๆ ออกจากจิตใจ..
ขอบพระคุณ คุณ ภัทรานิษฐ์
ที่มาให้กำลังใจนะครับ...
ขอบพระคุณท่าน krudala เช่นกันครับ ที่แวะมาเยือนนะครับ...
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ แผ่นดิน ที่นำข้อธรรมมาฝากนะครับ...
สวัสดีคุณ ศิรินทร ครับ
"วิธีที่จะถอนหนามแหลมออกจากจิตใจของเรา..
ก็คือ..หยุดคิดปรุงแต่ง...หยุดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดี.. แล้วนำเอาความรู้สึกดี ๆ ลงไปในจิตใจของเรา.. ด้วยการบ่งหนาม
แหลมคืออารมณ์ร้าย ๆ ออกจากจิตใจ"
ขอบพระคุณครับ
จริงด้วยค่ะ....ได้ข้อคิดดีดี น่ะ บางที่คนเราไม่ค่อยมีใครมาเตือนสติก้ออาจเผลอไปบ้างน่ะ...
และก้อขอบคุณที่ไปเยี่ยมน่ะค่ะ
ขอบพระคุณ คุณปนัดดา ที่มาเยี่ยมเช่นกัน ครับ...