ปัจจุบันเกมคอมพิวเตอร์กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ของเด็กและเยาวชนเป็นอย่างมาก จนเกิดปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ มากมาย ทั้ง หนีออกจากบ้าน และ ล่าสุดที่แม่ ล่ามลูกเพราะติดเกมคอมพิวเตอร์อย่างหนัก เด็กติดเกม ในที่นี้จะหมายถึงเด็กที่ติดเกมจริงๆ จนต้องออกจากบ้านหรือหนีมาเพื่อเล่นเกมตามร้านเกม หรือตู้เกมตามห้างสรรพสินค้า เด็กเหล่านี้เริ่มแรกจะมีพฤติกรรมใช้เงินเก่ง หายตัวบ่อยๆ จากนั้นจะเริ่มโกหก หนีโรงเรียน ขโมยเงิน ขโมยของเอาไปขาย จนหนีออกจากบ้านเพื่อไปเล่นเกม แต่เพราะความเป็นเด็กจึงทำให้ไม่กล้ากลับบ้านเพราะกลัวผู้ปกครองทำโทษ กลายเป็นเด็กเร่ร่อน หาเงินไปเล่นเกมด้วยการขอทาน รับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆ และเริ่มคบเพื่อนที่โตกว่าหากโชคร้ายก็อาจจะถูกชักชวนให้ดมกาว ติดยาเสพติด ถ้าหากเด็กบางคนที่ออกจากบ้านตั้งแต่เล็กก็อาจจะกลายเป็นคนที่ไม่มีบัตรประชาชน กลายเป็นคนนอกกฎหมายไปในที่สุด
ในส่วนของการแก้ปัญหาเด็กติดเกมนั้น ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเอง ก็ ยัง ตีโจทย์ของปัญหาไม่แตก ว่า จะเริ่มจากที่ไหนดี และใครบ้างควรจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งนี่เองทำให้ ปัญหาเด็กกับเกมคอมพิวเตอร์จึงจะยังอยู่ในสภาพของการไม่เท่าทันของปัญหา หรือ การเกี่ยงกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา ทั้งที่ ควรจะมีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งของภาครัฐเอง ออกมา รับเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้เสียก่อน จากนั้น การขยับขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาก็ จะเริ่มขึ้น และ รุดหน้าเสียที ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
การแก้ปัญหาที่ มุ่ง ไปที่การควบคุมร้านอินเตอร์เน็ตเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุอย่างสิ้นเชิง เป็นรูปแบบของการคิดถึงภาพปัญหาที่ปลายทาง โดยไม่ได้พิจารณาว่าในปัจจุบันเรามีทางเลือกในการใช้เวลาว่างที่เกิดการเรียนรู้คู่ความสนุกให้แก่เด็กมากน้อยแค่ไหน ครอบครัวมีเวลาสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกับเด็กมากน้อยแค่ไหน แม่ที่ออกมาร้องบอกว่า ลูกติดเกมถึงได้หนีออกจากบ้าน ได้สำรวจตัวเองว่าวิธีการเลี้ยงลุกของตัวเองนั้นเป็นอย่างไรบ้างหรือไม่ หรือ ล่าสุดที่แม่ต้องล่ามลูกไว้เนื่องจากไม่เชื่อฟังและอ้างว่าลูกติดเกมนั้นได้สำรวจตัวเองหรือไม่ว่าที่ผ่าน ๆ มาตนเองให้เวลาในการสร้างกิจกรรมภายในบ้านร่วมกับลุกมากน้อยเพียงใด การที่ผู้ใหญ่โยนปัญหาออกนอกตัวโดยไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ว่า จริง ๆ แล้วมันเกิดจากการที่ใช้ชีวิตในสังคมที่แก่งแย่งแข่งขันกันทำมาหาเงินมากเกินไปโดยลืมที่จะให้เวลากับสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวเอง จนเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ถึงได้ใช้วิธีแก้ปัญหาแบบเสียไม่ได้
ภาครัฐเองแทนที่จะไปวิ่งไล่จับร้านเกมควบคุมร้านเกมควรหันมาเอาจริงเอาจังกับการสร้างสถานที่ที่ครอบครัวสามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกันให้มากขึ้น สวนสาธารณะที่มีทุกอย่างครบวงจร คนในครอบครัวทุกคนต้องใช้เวลาร่วมกันในสวนสาธารณะแบบนั้นได้ สวนสนุกที่ทั้งครอบครัวเข้าใช้บริการได้ พิพิธภัณฑ์แบบที่มีชีวิตชีวาคล้าย ๆ กับพิพิธภัณฑ์เด็ก กรุงเทพมหานคร ต้องมีให้มากขึ้น โดยที่รัฐต้องเป็นเจ้าภาพ ประชาชนที่พอจะมีกำลังก็ต้องช่วยกันสนับสนุน ให้คนที่มีโอกาสน้อยกว่าได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ ให้มากขึ้น เอางบประมาณที่จะไปไล่จับ มาสร้างสรรค์เวที ที่สามารถทำให้ครอบครัวใช้เวลาอยู่ร่วมกันให้มากที่สุด
ในด้านของความรู้ รัฐเองต้องก้าวเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการจัดสถานที่ให้คนในชุมชนได้มีโอกาสดูแลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์แนวคิดในการสร้างสรรค์ครอบครัวที่เข้มแข็งอันจะนำไปสู่สังคมที่เข้มแข็งและมีคุณภาพ หรือที่อยากจะใช้คำว่า สังคมคุณภาพสูง เพื่อขจัดปัญหาที่สะสมอยู่เป็นเวลานาน และเพิ่มประสิทธิภาพของการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพเสียทีอ่านแล้วโดนใจมากเลยครับ
ผมเองตอนเด็กๆ ก็ติดเกมส์เช่นกัน (ขนาดตอนนั้นเกมส์ยังไม่มีสีสัน น่าติดตามขนาดนี้)
ปัญหาหลักจะอยู่ที่ครอบครัวจริงๆ แหละครับ
อย่างผมพ่อแม่ท่านอายุมาก ไม่รู้เรื่องเกมส์ก็แอนตี้ไม่ให้เล่นเลย กลายเป็นยิ่งห้ามยิ่งยุ กว่าผมจะเข้าใจผลเสียของมันก็นานอยู่
ปัญหานี้จะตีก็ตีแตกยากครับ เพราะการจะสร้างภูมิให้เด็กได้ พ่อแม่ต้องมีภูมิก่อนจึงส่งต่อให้เด็กได้ ถ้าพ่อแม่ไม่เคยเล่นเกมส์คงเข้าใจลูกได้ยากว่า ทำไมเด็กถึงสนใจเกมส์ขนาดนี้ จริงๆ ผู้ใหญ่ที่ยอมเปิดกว้างยอมเล่นเกมส์กับลูกน่าจะทำความเข้าใจได้ง่ายนะครับ ทุกวันนี้แม่ผมก็เล่นเกมส์เป็นแล้วละ อิอิ ผลจากความพยายามนานปี
เพื่อนๆ หนูอยู่มหาวิทยาลัยแล้วยังติดเกมกันเลยค่ะ ครอบครัวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ส่วนใหญ่พวกผู้ชายจะอยู่หอกันเป็นกลุ่ม กลางวันก็ใช้ชีวิตเรียน กิน ปกติ แต่พอว่าง กลางคืน ก็ไปเล่นเกมกันเป็นกลุ่ม เล่นกันข้ามวันเลยก็มี อันนี้เป็นวงจรชีวิตเด็กมหาลัยในเมืองที่ธรรมดามาก ถ้าผู้ปกครองไม่รู้ หรือมีเงินให้เล่นเกมก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าคนคนนั้นยังไม่เสียการเรียน (ซึ่งจะว่าไปแล้วเล่นเกมดีกว่าเล่นยา และถูกกว่าไปกินเหล้าเป็นหลายเท่า)
ในกลุ่มเดียวกันนั้น คนที่มีปัญหากลับเป็นแฟนหนูซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่ได้อยู่หอพัก ต้องกลับบ้าน อยู่กับพ่อ แม่ ครอบครัว พอเล่นเกมหนักเข้า ก็โดนพ่อไล่ออกจากบ้านเลย กลายเป็นเด็กมีปัญหาซะอย่างนั้น
ถ้ามองอย่างนี้แล้ว หนูก็ไม่รู้ว่าอะไรคือปัญหา เด็ก เกม หรือผู้ปกครอง มันอยู่ที่ความพอดี ความเข้าใจกัน