เจริญพร โยมบุษยมาศ
ในฐานะที่พวกเราเป็นนักขัดแย้งวิทยา ขอนำลิงค์มาฝาก เพื่อจะได้แบ่งปันกันในโอกาสต่อไป
นมัสการ พระคุณเจ้าค่ะ...
ได้เข้าไปศึกษาแล้วค่ะ...มีประโยชน์มากค่ะ...ขอบพระคุณค่ะ...
ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างที่อาจารย์บอก..จะพยายามอย่างไรให้แยกงานออกจากเรื่องส่วนตัว เพราะนำเรื่องส่วนตัวมาพัวพันมากกว่า..ข้อขัดแย้งถึงได้มีทุกวัน....
สวัสดีค่ะ...คุณเจษฎา...
ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลค่ะ...ถ้าทุกคนมีสติว่าตนเองมาทำงาน...เวลาเกิดปัญหาก็จะไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาค่ะ...แต่คนเราไม่ค่อยได้คิดหรือตั้งสติว่า ขณะนี้เรากำลังทำงานอยู่...ชอบคิดไปเรื่องอื่น...และคิดว่าที่ทำงานคือที่บ้าน ไม่แยกแยะ...จึงทำให้จิตไม่อยู่กับตัว...พอเกิดปัญหา ก็เลยลืมตัว ใช้ความรู้สึกในเรื่องของการเอาชนะ...เข้ามาใช้กับงานค่ะ...ความจริง ผู้เขียนคิดว่าทำไม่ยาก...เพราะทุกวันนี้ก็ถือปฏิบัติอยู่...จะพูดกันด้วยเหตุด้วยผลมากกว่า...เหตุที่โลกวุ่นวายก็คือ...ไม่ค่อยคิดถึงเรื่องเหตุผลค่ะ...อยู่ที่เราต้องหมั่นฝึก + ทำใจให้ได้ด้วยค่ะ...ทำแบบค่อยเป็นค่อยไปก่อน...ขึ้นอยู่กับใจเราพร้อมค่ะ...ค่อย ๆ ฝึกค่ะ...
ขัดแย้งแตกไม่แตกแยกก็ใช้ได้
สวัสดีค่ะ
ความขัดแย้งเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดความเครียดขึ้น ด้วยนะคะ หากเกิดบ่อยๆหรือเก็บไว้ในใจนานก็ทำให้เกิดร่างกายโรคได้อีก ดั้งนั้นต้องทำใจยอมรับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน ทำงานที่เดียวกันควรจะสามัคคีและช่วยกันคิดแลกเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความขัดแย้งน้อยที่สุดนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ฝากบอกเรื่องการใช้ถุงพลาสติก ให้กับผู้ที่ไม่ทราบด้วยนะคะ
สุขสันต์วันเข้าพรรษา ด้วยต้นกล้วยบัวสีชมพูค่ะสาธุจ้า
สวัสดีค่ะ
นานหลายวันไม่ได้มาทักทาย เพราะไปค่ายฯ เยาวชนมาค่ะ ความขัดแย้งยากที่จะเยี่ยวยานะคะ ไม่มีที่ใดปราศจากความขัดแย้งนะคะ
สวัสดีค่ะ...
ในที่ทำงานถือเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ...เพราะคนเราอยู่ด้วยกันนี่ค่ะ...เหมือนลิ้นกับฟันค่ะ...ย่อมมีการกระทบกัน...2-3 วันมานี้ไม่ได้อยู่เหมือนกันค่ะ...ไปอบรมเรื่อง การนำองค์การสู่ความเป็นเลิศตามเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ หมวด 5 การมุ่งเน้นทรัพยากรบุคคล ที่ กทม.มาค่ะ...มีเรื่องมาเล่าอีกเยอะเลยค่ะ...เอาไว้เขียนให้อ่านในบล็อกก็แล้วกันนะค่ะ...ขอบคุณพี่ครูคิมค่ะ...