สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทวันอาสาฬหบูชา พ.ศ.2553...
20 ก.ค. สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช แจ้งว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทวันอาสาฬหบูชา พ.ศ.2553 ความว่า วันอาสาฬหบูชา เป็นวันบูชาที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในพุทธศาสนา ตรงกับวันพระจันทร์เต็มดวง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 คือเดือนอาสาฬหะ เป็นวันที่เจ้าชายสิทธัตถะ หลังจากได้ทรงตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ได้ทรงเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วได้ 2 เดือน ได้ทรงแสดงพระปฐมเทศนา ทรงประกาศพระธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นครั้งแรกโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้กรุงพาราณสี ท่านโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรม รู้ว่า “สิ่งใด สิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงมีความดับไปเป็นธรรมดา” โดยสมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเปล่งพระพุทธวาจาให้เป็นที่ประจักษ์ว่า อัญญาโกณฑัญญะ คือ “โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ” วันนั้นจึงเป็นวันที่พระรัตนตรัยเกิดครบองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ องค์แรกที่เกิดขึ้น คือ ท่านโกณฑัญญะ “ด้วยพระบารมี พระรัตนตรัย จงมั่นใจและจงปฏิบัติเทิดทูนบูชาพระรัตนตรัย ให้เต็มจิตใจทุกเวลา ขออำนวยพร”
ที่มา
: นสพ.ดอทคอม. ออนไลน์. http://www.norsorpor.com/ข่าว/m2107162/%CA%C1%E0%B4%E7%A8%BE%C3%D0%CA%D1%A7%A6%C3%D2%AA++%BB%C3%D0%B7%D2%B9%BE%C3%D0%E2%CD%C7%D2%B7%C7%D1%B9%CD%D2%CA%D2%CC%CB%BA%D9%AA%D2.
สืบค้นเมื่อวันที่ 21 ก.ค.
2553.
รูปภาพประกอบ : http://jeep.diaryclub.com/images/20090707_mContent_Image2410255001118.jpg.สืบค้นเมื่อวันที่
21 ก.ค. 2553.
สวัสดีค่ะ
ครูโต้งสบายดีนะคะ โรงเรียนปิดหลายวันมีกิจกรรมอะไรบ้าง ไปเข้าค่ายฯ ที่แม่สอดไหมละ
http://gotoknow.org/profile/krukim
ขอบคุณครับครูคิมที่เข้ามาให้กำลังใจ มือใหม่หัดเขียนบล็อกครับ อยากไปครับครูคิม อยากไปเข้าค่ายจิตอาสา คิดถึงทีมงานทุกคนครับ แต่ว่า วันเสาร์ - อาทิตย์ ผมมีเรียนครับ (เรียน ป.โท ภาคเสาร - อาทิตย์ ที่ มรภ.รอ.) ผมขอสัญญากับครูคิม ณ ที่นี้ว่า จะต้องไปเข้าค่ายจิตอาสากับครูคิมและทีมงานให้ได้ครับ ส่วนเรื่องโรงเรียนฯ ปิด หลายวัน ผมยังไม่ทราบครับว่าจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง คงต้องรอคณะครูประชุมก่อนครับ
คืออยากแสดงความคิดเห็น และขอความเข้าใจ คือผมเป็นศาสนิกชนคนไทยคนหนึ่ง ที่ดำเนินรอยตามคำสอนของพระพุทธเจ้ามาตลอด เคยบวชเป็นพระ เคยถือศีล เคยธุดง ทำทุกอย่างตามแบบผู้ธำรงรักษาพุทธศาสนา
ด้วยปัจจุบันศาสนาพุทธในเมืองไทยก่อนเป็นที่พึ่งทางใจยามศึกสงคราม เป็นแหล่งวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม เป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธ หากแลบัดเดี๊ยวนี้ ผู้ที่ธำรงรักษาพุทธศาสนา อย่างเช่นพระ หรือมนุษย์ที่ห่มผ้าเหลืองในเมืองไทย เลยหันมาจับอาวุธ จับธง ต่อสู้ ประท้วง รณรงค์ เพื่อให้ได้มาซึ่งในสิ่งที่ต้องการ เอาง่ายๆ ยกตัวอย่าง
1. เริ่มมีการตั้งนิกายใหม่ บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า หันมาทำอะไรแปลกๆ ผิดเพี้ยน หรือมาเดินรณรงค์เพื่อขอความสงบสุขในสังคม (ทำได้ด้วยเหรอ พระนะ) หรือขอความเป็นธรรม
2. ไม่ว่ามีการประท้วงเรื่องอะไรของชาวบ้าน พระต้องไปด้วยเสมอ (ไปทำพระแสงอะไร ) ช่วงนี้มีบทบาทมากเกินไปแล้ว ซึ่งตอนสถานการณ์ชุมนุมเสื้องแดง เห็นพระวิ่งหนีปะปนกับชาวบ้านดูแล้วทุเลสสิ้นดี (ไม่อยากจะใช้คำพูดดีดีแบบนี้ น่าจะหนักกว่านี้)
3. พระใช้สื่อและรับสื่อมากเกินไป เช่น หลังจากเสร็จกิจตอนเช้า รีบมาดูละครจักรๆวงๆ ที่กุฏิ อันนี้เห็นบ่อยมาก ผมเคยไปที่วัดแห่งหนึ่ง ทางใต้จะไปถวายสังฆทาน ก็ไปหาเจ้าอาวาสที่กุฏิแบบ แกไม่รู้ตัวเปิดประตูเข้าไปถึงเห็นเจ้าอาวาสนอนดูหนังวีซีดี กับ ทีวีจอใหญ่อย่างสบาย พอแกเห็นผมก็รีบเก็บของจัดที่จัดทางรอรับสังฆทาน ทีแรกผมคิดว่าจะโยนไปให้แล้ว คือหมดความศรัทธา
ผมคิดว่าเรื่องดังกล่าวมันไม่เหมาะกับผู้ที่ห่มผ้าเหลืองนะ พระควรมีบทบาทเท่าที่ควรจะมี รู้ว่าสังคมปัจจุบันมันรุดหน้า เติบโตมากขึ้น แต่ใช่ว่าบทบาทของพระจะมีมากตามไปด้วย ผมไม่อยากใช้คำพูดแบบหยาบคายนะ ต้องขออภัยและขอขอบคุณเจ้าของเว็บ ที่เปิดโอกาศให้แสดงความคิดเห็น (จะขอบพระคุณมากหากตอบกลับมา เพื่อให้ผมได้กระจ่ายในข้อสงสัย) ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ ครู ยังจำมิตรภาพที่ไทนรัฐวิทยาได้ดีครับ
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายเช่นกัน ช่วงนี้ผมไม่ได้สร้างบันทึกของตัวเองใหม่เลย ตอนนี้กำลังดูแลบล็อกโรงเรียนไทยรัฐวิยา ๖๓ กับท่าน ผอ.พรชัย ภาพันธ์ ครับ ว่างๆ ก็แวะไปให้กำลังใจเด็ก ๆ ไทยรัฐวิทยา ๖๓ ได้นะครับ