ผมชอบเรื่องเล่ามากมายที่เพื่อนส่งผ่านทางเมลมาโดยตลอดและคิดว่าถ้าจะแชร์เฉพาะในกลุ่มคนรู้จักก็ยังไงอยู่ในเมื่อเป็นสิ่งดีดีหลายครั้งที่ผมเป้นอีกคนหนึ่งที่เคยผิดพลาดกลับการควบคุมอารมณ์ไม่ได้มันให้อะไรหลายอย่างเหมือน แต่ผมถูกสอนอยู่เสมอว่าถ้าคุณผิดพลาด หรือทำอะไรเสียหาย สูญเสียสิ่งที่ดีไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดจงอย่าสูญเสียบทเรียนนั้นเป็นอันขาด เช่นกันวันนี้มีเรื่องเล่าจากเมลที่เพื่อนส่งมาให้ดูแล้วรู้สึกหดหู่ใจ ก็ได้แต่ภาวนาอารมณ์แบบนี้ขออย่าเกิดขึ้นกับเราเลยเรื่องมีอยู่ว่า
ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังขัดล้างรถอย่างขะมักเขม้น
ลูกชายวัย 4 ขวบ ก้มลงเก็บก้อนหินขึ้นมา
แล้วบรรจงขูดขีดไปบนด้านข้างของตัวรถ
พักใหญ่ต่อมา...
เมื่อพ่อได้ยินเสียงครูดของหิน
ก็เกิดความฉุนเฉียว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขากระชากมือลูกมา
ตีลงบนมือน้อย ๆ นับครั้งไม่ถ้วน
โดยไม่ทันนึกว่าตนได้ถือประแจอยู่ในมือ
ณ โรงพยาบาล..
นิ้วลูกชายถูกตัดออก4นิ้ว เพราะกระดูกแตก
จนหมอไม่สามารถเชื่อมต่อได้
ขณะที่พ่อเข้ามาดูลูกในห้อง
ลูกมองพ่อด้วยสายตาปวดร้าว
แล้วถามพ่อว่า ...
" เมื่อไร นิ้วหนูจึงจะงอกเหมือนเดิม ? "
คำถามนั้น...
เหมือนคมมีดกรีดลึกลงไปในหัวใจผู้เป็นพ่อ
เขารู้สึกละอายใจ รู้สึกผิด
และเสียใจในการกระทำตนอย่างไม่อาจให้อภัย
เขาจึงกลับไปที่รถ
เตะมันสุดแรงเกิดโดยไม่ยั้งจนเหนื่อยหอบ
แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างรถอย่างเศร้าใจ
สายตาพลันเหลือบไปเห็นรอยขูดขีด
เขาเบิกตากว้าง !
จ้องมองคำว่า "รักพ่อ"
น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อ แล้วไหลอาบแก้ม
เขาเอามือปิดหน้า
ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับใจจะขาด
รุ่งขึ้น...
ชายคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย
อารมณ์โกรธ มีโทษมหันต์
ปัญหาของโลกในทุกวันนี้
คือ
คนบางคน...
รักรถ หวงรถ หรือสิ่งของอื่น
ยิ่งกว่ารักและห่วงใยลูก
หรือ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
จำไว้เสมอว่า
สิ่งของมีไว้ ให้ใช้
และ
คนมีไว้ ให้รัก
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ช้าง กำแพงเพชร ใน ช้าง กำแพงเพชร
อ่านแล้วทำให้รักลูก.....เป็นห่วงลูก....และคิดถึงลูกมากขึ้น...ครับ