Sakura Trip 2010: ตอนที่ ๗ ไปเมืองน้ำพุร้อนคูซัทสึ Kusatsu


๒ เมษายน ๒๕๕๓

คืนที่ผ่านมาพวกเรานอนฟังเสียงพายุฝนอื้ออึงทั้งคืนที่เมืองฟูจิซาว่า

เช้าขึ้นมาแผนวางไว้ว่าจะไปเยือน เมืองคูซัทสึ Kusatsu ซึ่งเป็นเมืองน้ำพุร้อนมีชื่อเสียงติดอันดับ ๑ ใน ๓ ของเมืองน้ำพุร้อนประเทศญี่ปุ่น แต่คนไทยอาจไม่คุ้นกับชื่อเมืองนี้ เพราะดูๆไปยาก บริษัททัวร์คงไม่คิดพาคณะไป

ผู้เขียนเป็นคนชอบค้นข้อมูลเตรียมตัวเที่ยวเลยไปเจอข้อมูลเมืองนี้เข้า จะว่าไปแล้วก็ต้องเดินทางไกลพอสมควร จากโตเกียวต้องเปลี่ยนรถไฟสองครั้ง จากนั่งชินคันเซ็น ๑ ชั่วโมง ไปนั่งรถไฟท้องถิ่นราว ๑ ชั่วโมงจนสุดทางที่สถานีชื่อยาว Naganohara-Kusatsuguchi และต่อรถบัสอีกราว ๓๐ นาทีไปให้ถึงเมือง Kusatsu Onsen รวมใช้เวลากว่าสองชั่วโมงครึ่ง นี่ยังไม่นับที่เราต้องนั่งรถไฟจากเมืองฟูจิซาว่าเข้าไปตั้งต้นเส้นทางที่โตเกียวอีกประมาณ ๑ ชั่วโมง

สรุปจากเมืองที่พักอยู่จะไปถึงคูซัทสึใช้เวลาร่วมสี่ชั่วโมง แต่ก็เป็นเส้นทางที่ตั๋ว JR Pass ครอบคลุมตลอดสาย

จุดเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีรถไฟโตเกียวที่ ๐ กิโลเมตร

(ขออภัยที่โชว์เท้าค่ะ)

ตอนวางแผนก็คิดว่าตื่นเช้าๆรีบออกเดินทางก็แล้วกัน จะเดินทางสี่ชั่วโมงก็ยังโอเคนะ เพราะระหว่างทางก็ถือเป็นการได้เห็นอะไรๆที่เบิกบานไปในตัว

ทว่าฝนที่ตกเอาจริงเอาจังทำให้พวกเราอ้อยอิ่งไม่อยากลุก ไม่อยากออกจากบ้าน ต้มข้าวต้มร้อนๆ ทำกับข้าว กินกาแฟ นั่งคุยไปเรื่อย จนฝนท่าทางแทบจะขาดเม็ดแล้ว ผู้เขียนจึงถามคณะว่ายังจะอยากไปตามแผนอยู่หรือเปล่า มันไกลนะ คณะบอกว่าไม่เป็นไรก็อยากไปเห็นอยู่เหมือนกันที่ๆทัวร์ไม่พาไป ถือว่านั่งรถไฟเที่ยวก็แล้วกัน ชักติดใจนั่งรถไฟชั้นหนึ่ง

ใจสู้มากเอาเป็นว่ากว่าจะถึงจุดหมาย Kusatsu Onsen ก็ปาเข้าไป ห้าโมงเย็น! แต่โชคดีไม่มีฝนเลย นั่งรถไฟยาวนาน กินอาหารกลางวัน-บ่าย กันในรถไฟ มีเสบียงขนมเพียบ ดูวิวบ้าง หลับบ้างสบายใจดี

 

ขนมในถุงพลาสติกเป็นพวกRice Snack เคลือบซีอิ๊วญี่ปุ่น ถุงสีเขียวผสมวาซาบิด้วย เป็นของกินเล่นราคาถูกที่ผู้เขียนชอบมาก

จากสถานีรถไฟจะต้องต่อรถบัสนั้นเป็นการนั่งรถบัสไต่ขึ้นเขา ภูมิประเทศแปลกตา เห็นเทือกเขาไกลๆมีหิมะปกคลุม และสองข้างทางก็ยังมีหิมะเป็นกองๆ ก็คูซัทสึนั้นตั้งอยู่สูงถึง ๑๒๐๐ เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในเทือกเขาของ จังหวัดกันมะ – Gunma Prefecture คนญี่ปุ่นมาที่นี่ไม่เพียงแค่มาเพลิดเพลินบำรุงสุขภาพกับน้ำพุร้อนเท่านั้น หากแต่ยังมาเล่นสกีในฤดูหนาวและไต่เขากันได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย

ลงรถบัสเราเช็คตารางรถบัสว่าขากลับออกมามีรถบัสเที่ยวไหนบ้าง และจะไปพอดีกับรถไฟเที่ยวไหนบ้าง หมายตารถบัสเที่ยว ๑๘.๒๐ น. และ รถไฟเที่ยว ๑๙.๑๒ น. ดังนั้นจึงมีเวลาเดินเที่ยวชมแบบนักท่องเที่ยวราวหนึ่งชั่วโมงเต็ม เผื่อเวลายี่สิบนาทีไว้เดินกลับมาที่สถานีรถบัส

สิ่งที่เราต้องชมให้ได้คือสัญญลักษณ์ของคูซัทสึ ที่เรียกว่า ยูบาตาเกะ – Yubatake เป็นลานน้ำพุร้อนอย่างในภาพ จากสถานีรถบัสเดินไปสบายๆชมร้านรวงราวสิบนาทีก็ถึงหากไม่แวะตามร้านรวงตลอดทาง

ยูบาตาเกะ

ภาพจาก  http://www.japan-guide.com/e/e7400.html

คูซัทสึเป็นเมืองตากอากาศด้านน้ำพุร้อนที่เก่าแก่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ติดอันดับหนึ่งในสาม เล่าลือกันว่าที่คูซัทสึมีปริมาณน้ำร้อนและน้ำแร่คุณภาพสูงที่เหมาะในการรักษาโรคทุกชนิด ยกเว้นโรครักไม่สมหวัง

ในปลายคริสตศตวรรษที่ ๑๘ นายแพทย์ Erwin von Baelz ชาวเยอรมันซึ่งได้เข้ามารับใช้กษัตริย์ญี่ปุ่นในยุคนั้นได้มาที่นี่และชอบอกชอบใจแนะนำให้ผู้คนมาใช้เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ ยิ่งทำให้น้ำพุร้อนที่คูซัทสึนี้โด่งดังเพิ่มเข้าไปอีก ทั้งๆที่ก็มีชื่อเสียงมาหลายร้อยปีก่อนที่หมอเยอรมันจะมาชมเสียอีก 

มาถึงเมืองน้ำพุร้อนนี้จึงเห็นโรงแรมมากมาย เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ทันสมัย คงมีที่พักแบบเรียวกังแต่เราไม่เห็น เห็นแต่คนญี่ปุ่นเป็นคู่ๆใส่เสื้อคลุมที่เรียกว่า ยูคาตะเดินเล่น พวกเราได้ชมร้านรวงที่อีกไม่นานก็จะปิดแล้ว

 

ได้ชิมซาละเปาร้อนๆพร้อมน้ำชาฟรีแล้ว เลยต้องเข้าไปอุดหนุนบ้าง

 

น้ำร้อนจากยูบาตาเกะมีปริมาณมาก เขาว่าที่พักทุกแห่งต่างก็ใช้น้ำจากที่นี่ส่งไปยังบ่อออนเซ็นของตน น้ำจากแหล่งธรรมชาติคงจะร้อนมากสมัยโบราณมีการทำให้น้ำแร่มีอุณหภูมิลดลงโดยใช้ไม้พายตีน้ำ เรียกว่า ยูโมมิ – Yumomi ปัจจุบันเขามีการแสดงพิธีการนี้ให้นักท่องเที่ยวชมด้วย เราไปเย็นเกินไปไม่ได้ชม

 

ยูโมมิ ภูมิปัญญาแต่ครั้งโบราณทำให้น้ำแร่ร้อนเย็นลง ตีน้ำไปร้องเพลงไปด้วย

ภาพจาก  http://www.japan-guide.com/e/e7405.html

 

ได้ถ่ายรูปกับสัญญลักษณ์ของเมือง ได้แช่ออนเซ็นเท้าหรือที่เรียกว่า อะชิยุ – Ashiyu ซึ่งปกติเป็นที่สาธารณะที่ใครๆจะมาใช้แช่เท้าได้ ได้ชิมขนมจากเมืองนี้สองสามอย่าง ได้ชมร้านรวงมีของสวยงามน่ารัก

 พวกเราก็พอใจแล้ว

ภาพจากสถานีรถไฟระหว่างรอรถไฟมา

เดินทางกลับย้อนทางเดิม ไปถึงโตเกียวเจอคนเลิกงานกลับบ้านใช้รถไฟกลับบ้านนอกเมืองโตเกียว รถไฟแน่นเชียว

กว่าจะถึงที่พักเมืองฟูจิซาว่าก็เลยห้าทุ่ม หนูเจี๊ยบเจ้าบ้านบอกว่าพวกป้าๆนี่อึดน่าดู

 

หมายเลขบันทึก: 371177เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2010 18:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

สวัสดีค่ะ คุณพี่นุช

อ่านเรื่องนี้แล้ว สบายใจจังเลยค่ะ  หากครูอ้อย  ได้ไปดูงาน ที่นี่  ครูอ้อยจะเรียนปรึกษา คุณพี่คนเดียวเลยค่ะ

คุณพี่สบายดีนะคะ  รักษาสุขภาพนะคะ

สวัสดีค่ะ

อิ่มตาอิ่มใจ กับประสบการณ์ท่องเที่ยวในดินแดนปลาดิบคุณนายดอกเตอร์ทีนำเล่าสู่กันฟัง  ชอบชมและอ่านเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นค่ะ  ปกติจะชอบดูรายการ Say Hi ทางช่อง 3 ของคุณติ๊ก กัญญรัตน์ ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ คนที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นเนี่ยโชคดีมากเลย..

ต้องขอบพระคุณคุณนายดอกเตอร์ที่ไปเยี่ยมและนำดอกไม้สีม่วงแสนสวยไปฝากครูใจดี  ช่วงนี้ครูใจดีมีภาระงานยุ่งมากๆ  ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมกัลยาณมิตร G2K เท่าไหร่.... ต้องขออภัยด้วยนะคะ 

ขอบคุณมากๆ ค่ะ

 

 

สวัสดีครับ

ภาพดี เรื่องสนุก มาก

วันหนึ่งคงได้ไปบ้างครับ

ว้าว ถูกใจมากมายค่ะพี่นุช สุดสวาทบาดใจ ... ที่ผ่านมาน้องปู ได้เพียงออนเซ็น รายการท่องแดนน้ำพุ จนหลงใหลได้ปลื้มกับบรรยากาศ ... เพิ่งนึกชื่อออก เมืองฟูจิซาว่า เมืองนี้เอง ชอบยูโมมิ จังค่ะพี่นุช ... ได้มาแช่น้ำ คลายหนาวยามฝนพรำ มีพลังทำงานต่อเลยค่ะ ;)

  • สวัสดีค่ะ
  • เห็นบรรยากาศแล้วอยากไปเที่ยว "แต่ตอนนี้ประเทศไทยยังไปเที่ยวไม่หมดทุกจังหวัดเลยค่ะ" .......
  • บุษรานำภาพสาวน้อยน่ารัก ๆ มาฝากกันค่ะ

             

ศุกร์หรรษาค่ะพี่นุชสุดสวาทบาดใจ ;)

คงยังไม่ได้ไปออนเซ็น แค่ได้ไปอาบน้ำ ณ ห้องน้ำเปิดรับธรรมชาติ ชมแมกไม้เขียวขจี ที่ศรีอยุธยา เรือนริมน้ำ ก็เหมือนอยู่ในวิมานชั้น ไหนดี ดีที่สุดแล้วค่ะ ...

ขอบคุณพี่หญิงใหญ่ ดอกเสน่หาม่วง เวลาบานสวยดึงดูดใจสุดๆเลยค่ะ สุขสันต์สุดสัปดาห์ค่ะ

มาชม

แวบมาชม

นิยมวิถีชีวิตคนเมืองญี่ปุ่นเพราะเขาจัดการวิถีชีวิตตนเองให้สอดคล้องกับธรรมชาติได้ดีแท้ ๆ ในความเย็นมีน้ำพุร้อน ๆ นะครับผม...

สวัสดีค่ะ เที่ยวสนุกมั๊ยค่ะพี่

น่าไปด้วยจังเลย  ที่ระนองก็มีสปาน่ะค่ะ แช่ได้ทั้งตัวเลยค่ะ 

ช่วงนี้งานยุ่งค่ะ เลยเข้ามาช้า

พี่สบายดีน่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ

มาท่องเที่ยวด้วยค่ะ

ระลึกถึงค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครูอ้อยครูอ้อย แซ่เฮ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ มีข่าวจะได้ไปดูงานที่ญี่ปุ่นหรือคะ เอาใจช่วยลุ้นขอให้ได้ไปดังใจปรารถนานะคะ ยินดีค่ะหากจะถามอะไรที่พอจะช่วยตอบ ช่วยค้นให้ได้ แหมเล่นบอกว่าจะถามจะปรึกษาพี่คนเดียวเลยนี่ออกจะเขินค่ะ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรหรอกค่ะ ที่ได้อ่านผ่านตานี่คือผลงานแห่งการเตรียมตัวเพราะเป็นสว.นี่ต้องเจียมตัวจะไปทำลุยๆเป๋อๆเอ๋อๆคงไม่น่าเอ็นดูน่ะค่ะ^___^

ดีใจค่ะที่คุณครูใจดี ชอบเรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่น คนเขียนจะได้มีแฟนติดตามอ่าน ^___^ 

เคยดูรายการ วะบิซะบิ แต่ก็ไม่ได้ดูประจำนานๆจึงจะเปิดเจอ เขาทำรายการได้ดีมากหากชอบเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่น ไม่น่าพลาดชมรายการนี้ค่ะทางไทยพีบีเอสค่ะ

ระยะนี้คงจะยุ่งๆกันแทบทุกคนมั้งคะ เข้าใจกัน ไม่เป็นไรหรอกค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพลเดช วรฉัตร ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและทักทายกันนะคะ อาจไม่ค่อยได้ทักทายกันแต่ก็ได้ติดตามข่าวคราวเป็นครั้งคราวค่ะ

มาชมเมืองอีกรอบค่ะพี่นุช สุดสวาทบาดใจ ไปถึงไหนต่อไหน ก็ให้ระลึกถึง ;)

ชอบภาพที่สถานีรถไฟ ... หมู่บ้านคูนิ คงจะแวดล้อมธรรมชาติสวยงาม นะคะ

สุขสันต์วันหยุด แล้วจะตามพี่นุชท่องล่องไปทริปหน้าอีกค่ะ อิ่มอร่อยมื้อเที่ยงนะคะ

น้องปูจ๋าpoo สุขสันต์สุดสัปดาห์เช่นกันค่ะ เวลาเห็นน้องปูไม่ว่าจะเป็นที่บล็อกพี่หรือท่านอื่นๆ พี่นึกถึงภาพน้องปูเหมือนนกน้อยรื่นเริงที่บินท่องเที่ยวแวะเวียนตรงนั้น ตรงนี้จำนรรจาเสียงหวาน สำราญใจ ^___^

สวัสดีค่ะคุณบุษรา   ขอบคุณสำหรับภาพสาวน้อยสดใสที่นำมาฝากค่ะ

เมืองไทยนั้นก็มีที่เที่ยวมากมาย พี่ยังเที่ยวไม่ครบทุกจังหวัดหรอกค่ะ แปลกแต่จริงว่าเที่ยวเมืองไทยนั้นสำหรับพี่รู้สึกว่าไม่ใช่ทุกที่ที่เราสามารถเที่ยวได้สะดวกสบาย และบางที่ก็เน้นเรื่องการท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจมากซะจนขาดเสน่ห์ค่ะ บางที่ก็น่าไปเที่ยวแต่การเดินทางยังไม่ค่อยปลอดภัยหรือสะดวกสำหรับคนทุกวัย พี่ชอบไปญี่ปุ่นเพราะเขาวางโครงสร้างการบริการการท่องเที่ยวไว้ดีมาก เราไปไหนๆเองได้แบบรู้สึกปลอดภัยพอ ที่สำคัญตอนนี้ยังพอมีแรงไปเที่ยวไกลๆ อีกสองสามปีคงวนเวียนเที่ยวอยู่ในเมืองไทยค่ะ


 

ขอบคุณน้องปูจ๋าpoo ที่ระลึกถึงกันเสมอๆมิสร่างซา วันทำงาน วันหยุด ก่อนอาหาร หลังอาหาร ^___^

พี่ชอบภาพเดียวกับน้องปูจึงนำมาฝากกัน การท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ผู้คนท้องถิ่นเขาภูมิใจให้คุณค่ากับธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณีของตนเองมาก เวลาเราได้ไปเยือนจึงเหมือนได้รับรู้ความละเอียดละเมียดละไมแห่งจิตใจเขาค่ะ โดยเฉพาะในเมืองชนบท

ตอนหน้า(ไม่รู้เมื่อไหร่จะเขียนเสร็จ อิ อิ ) จะพาไปเยือน ฮาโกเน่ รับรองถูกใจค่ะ

ขอบคุณนะคะท่านอาจารย์umi ที่แวบมา เสน่ห์ของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ตรงที่อาจารย์กล่าว ค่ะ

นิยมวิถีชีวิตคนเมืองญี่ปุ่นเพราะเขาจัดการวิถีชีวิตตนเองให้สอดคล้องกับธรรมชาติได้ดีแท้ ๆ ในความเย็นมีน้ำพุร้อน ๆ นะครับผม...

คงมีโอกาสไปเที่ยวระนอง ลองสปาน้ำแร่ร้อนของแท้ ให้คุณNew.ครูบันเทิง เป็นคนพาเที่ยวนะคะ

สวัสดีค่ะคุณสุนันทา ขอบคุณที่ไปท่องเที่ยวด้วยกันค่ะ มาแวะอีกนะคะยังมีตอนต่อไป อีกหลายตอนค่ะ ^___^

คุณนายด๊อกเตอร์ครับ ผมชอบ ยูโมมิ มาก ทั้งอนุรักษ์ลักษณะเดิมไว้ ทั้งน่ารักและเป็นประโยชน์

ผมไปญี่ปุ่นมา 3 หน ไม่เคยได้เห็นเลยครับ

รอ รอ ได้ค่ะพี่นุช นานแค่ไหนก็รอได้ แหม รอกันมาตั้งหลายปีแล้วนะคะ ;)

 

ปูก็รู้สึกผิดว่า ไม่ได้ไปนั่งเรือนริมน้ำ อโยธยา สักที พี่รอหน่อยเช่นกันนะคะ ;)

สวัสดีค่ะคุณครูหยุยนาย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ (ครูหยุย) รู้สึกเป็นเกียรติที่คนทำงานเพื่อสังคมอย่างจริงจังมายาวนาน มาทักทายค่ะ

ตัวเองก็ไปญี่ปุ่นมาสามรอบแล้วยังชอบอยู่เลยค่ะ การที่แต่ละเมืองแต่ละภูมิภาคเขาดำรงความเป็นท้องถิ่นของตนไว้ชัดเจนทำให้มีเสน่ห์มาก ไม่ดูซ้ำซากว่าเห็นที่เดียวก็เหมือนเห็นทั้งหมดนะคะ เพื่อนรักมาขอให้ไปกันอีกรอบช่วงกลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็ยังรู้สึกดีใจที่จะได้ไปอีกครั้งค่ะ

น้องปูจ๋าpoo ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกค่ะ พี่ว่ารู้สึกถูกแล้วที่คิดว่าเราต้องได้เจอกัน ได้มีสุนทรียสนทนากันท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ที่อยุธยาพี่ก็ไปเยี่ยมหาน้องไปชมทะเลงามก็ได้นี่คะ ^___^

อ่านและชมภาพไปด้วยความชื่นชม กับเมืองเล็ก ๆ

มาขำ ๆ ตรงที่พี่นุชบอกว่า น้ำพุรักษาได้ทุกโรค ยกเว้นโรครักไม่สมหวัง

แล้วมาเจอประโยคข้าง ๆ ภาพว่า "แค่นี้เราก็พอใจแล้ว"

 

ถ้าใครไม่สมหวัง(แห้ว)ในรัก มาเที่ยวเมืองนี้ ได้ความรู้สึกนี้ คือ แค่นี้ก็พอใจแล้ว...

อาจถือว่า น้ำพุร้อนรักษาโรคนี้ได้ นะคะ

 

โยงมาเกี่ยวกันจนได้...อิ อิ

หวังว่าน้องหมอเล็กภูสุภา คงได้ผ่อนคลายจากการงานบ้างเมื่อได้มาขำๆกับแง่มุมเล็กๆในบันทึกการเดินทางนี้นะคะ

การแช่น้ำร้อนนี่ผ่อนคลาย สบายใจ โปร่งเบาทั้งกายและใจจริงๆค่ะ ยิ่งเวลาเที่ยวซะเหนื่อยมาทั้งวันได้แช่น้ำร้อนสักสิบนาทีจะรู้สึกได้ชัดเลยล่ะค่ะว่าความหนักตัวหรือความหงุดหงิดรำคาญใจมันหายไปหมด หลับสบาย ชักติดใจค่ะ แต่เรามักต้องเล็งว่าเวลาไปใช้จะมีแต่พวกเรา

การเที่ยวในวัยขนาดพวกพี่นั้นมันอาจเป็นว่าเราคงได้เห็นมาเยอะพอสมควร ดังนั้นตอนนี้การเที่ยวคือการได้เห็นชีวิตคน ศิลปวัฒนธรรมตามความเหมาะแก่แรงและเวลาของตนเอง จึงไม่ได้ไปตั้งความหวังไว้มาก ได้แค่ไหนก็คือแค่นั้นมีความพอใจ สุขใจที่เพียงพอแก่กาลแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณนายด๊อกเตอร์

เห็นภาพแรก คิดว่าไปแช่เท้าทั้งรองเท้าในน้ำพุร้อน ดูอีกครั้ง

อ้อ...บอกว่าเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางทีจากสถานีรถไฟโตเกียว ที่ 0 กิโลเมตร

ภาพนี้...ช่างภาพสุดยอด

ขอบคุณค่ะที่นำประสบการณ์ และภาพสวยๆมาฝาก

ขอบคุณค่ะคุณKRUDALA ที่มาทักทายและท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปกับภาพและตัวอักษรจากใจที่อยากแบ่งความสุขค่ะ^___^

อะชิยุ หรือ บ่อน้ำร้อนแช่เท้านั้น ต้องถอดถุงเท้าออกด้วยนะคะ คือเปลือยเท้า เหมือนแช่บ่อแบบทั้งตัวก็ต้องเปลือยกาย ป้าๆยังไม่เคยทำตามร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ ต้องเล็งว่าไม่มีคนอื่นแล้วเรานุ่งผ้าเช็ดตัวกันลงแช่ อิ อิ ใจไม่ถึง

  • ตั้งใจจะเอาภาพน้ำพุร้อนแม่ขะจานของเมืองไทยมาฝาก
  • แต่ลืมไปว่าเก็บภาพไว้ในเครื่องคอม ฯ ที่บ้าน
  • เครื่องนี้เป็นโน้ตบุ๊ค ไม่มีภาพน้ำพุร้อน
  • จึงเปลี่ยนเป็นดอกบัวสวย ๆ ละกันนะครับ
  • เข้ากับเทศกาลเข้าพรรษาพอดี
  • ขอบคุณที่บันทึกนี้เป็นสารคดีนำเที่ยวได้ดีเยี่ยมครับ

เมื่อวานเพื่อนจากอยุธยามาเยี่ยม...ได้คุยกันถึงหน้าน้ำที่อยุธยาและทำให้นึกถึงภาพที่พี่นุชเคย post ไว้ใน blog ทำให้มีข้อมูลอ้างอิงเกิดอาการเม้าท์แตกกระจาย วันนี้...ตามพี่นุชไปแช่ออนเซ็นเท้า...แค่เห็นภาพก็นึกถึงความสบาย ผ่อนคลายแล้วค่ะ

 

พี่นุชสบายดีนะคะ

ขออภัยนะคะ หายไปนานๆอีกแล้ว

  • ขอบคุณคุณกิตติพัฒน์ ค่ะ ภาพดอกบัวสวยงามกระจ่างใจจริงๆค่ะ วันหลังเอาภาพน้ำพุร้อนแม่ขะจานมาฝากนะคะจะได้ชมกันว่าบ้านเราก็มีทรัพยากรธรรมชาติแบบนี้เหมือนกัน
  • น้องตุ่นสิริพร ทิวะสิงห์ tuk-a-toon พี่ยังเขียนเล่าไปได้ไม่กี่เมือง ตอนนี้เดาว่าน้องตุ่นต้องมีบันทึกไปเที่ยวไหนๆอีกหลายที่แล้ว อิ อิ อายจัง พี่สบายดีค่ะแต่งานภายนอกเยอะไปหน่อย เดือนกันยายนนี้ตั้งใจว่าจะพยายามไม่เดินทางนักแล้วค่ะ สว.ชักแรงถดถอยน่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท