เย็นวันนี้ได้คุยกับคุณครูท่านหนึ่งซึ่งผมรู้จักท่านมานานและผมสามารถรับประกันได้ว่าท่านเป็นครูเก่งครูดีที่รักงานสอนจริงๆคนหนึ่ง ท่านบ่นให้ฟังถึงบรรยากาศในโรงเรียนว่า
"รู้สึกเบื่อการทำงานที่โรงเรียนเข้าไปทุกวัน วันวันมีแต่งานอื่นนอกเหนืองานสอนจิปาถะให้ทำ ฝ่ายบริหารก็ขยันออกคำสั่งมอบหมายนั่นมอบหมายนี่ให้ทำมากมาย และคอยเร่งรัดติดตามตลอดเวลา ทีเรื่องการเรียนการสอนไม่เห็นจะเอาใจใส่..."
ผมได้ทีก็เลยแหย่ไปว่า
"ถ้าผมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ละปีผมจะให้ผู้มีส่วนได้เสียคือนักเรียนกับผู้ปกครองนักเรียนโหวตว่าครูคนใดที่อยู่ในหัวใจของเขาในเรื่องการสอนและการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ใครมีคะแนนเข้าเกณฑ์ นอกจากจะยกย่องเชิดชูเกียรติแล้วก็จะให้ยกเว้นไม่ต้องทำงานอื่นนอกจากงานสอน งานดูแลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และการเป็นครูที่ปรึกษา...แล้วผมก็จะตั้งสำนักอำนวยการคล้ายๆกับในมหาวิทยาลัย คอยสนับสนุนช่วยเหลือทรัพยากรด้านการจัดการเรียนการสอนแก่ครู โดยทยอยจ้างบุคลากรอื่นๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนครูที่ไม่ผ่านเกณฑ์ก็ต้องช่วยงานนอกเหนือการสอนด้วย ทำอย่างนี้จะดีไหม "
คุณครูท่านนี้ก็ตอบทันทีว่า
"ดี..ดีมากๆเลย แต่เอ..ถ้าทำอย่างนี้แล้วครูคนอื่นๆที่ไม่ค่อยเข้าเกณฑ์จะไม่รู้สึกว่าเป็นปมด้อย พาลพาโล เพราะคิดว่าห้องเรียนข้าใครอย่าแตะ หรือเวลาเขาโหวตกันก็อาจจะพากันหาเสียงกับเด็กกับผู้ปกครองด้วยวิชามารต่างๆ เช่น ปล่อยเกรด บอกข้อสอบให้ฯลฯ"
ผมก็ลองเสนอวิธีการแก้ปัญหาว่า
"ก่อนอื่นเราต้องมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายตรงกันก่อนว่า เรื่องงานสอนเป็นงานหลักของโรงเรียน พร้อมทั้งสร้างความตระหนักในจิตสำนึกความเป็นครู โดยพูดกันดีดี หาวิธีจูงใจให้ยอมรับกันก่อน ส่วนพวกที่ใช้วิชามารก็ต้องมีระบบประเมินเพื่ออุดช่องว่างอีกทางหนึ่งด้วย เพราะงานสอนคืองานบริการก็ต้องฟังเสียงผู้รับบริการด้วย ซึ่งผมว่าถ้าผู้บริหารให้ความสนใจเรื่องนี้จริงๆ ครูส่วนใหญ่จะพอใจและเกิดขวัญกำลังใจมากขึ้นด้วยซ้ำ และเป็นการพัฒนาคุณภาพครูไปในตัวด้วย"
คุณครูก็ยังไม่วายตระหนกว่า
"จะทำได้เหร้อ..ไม่เคยเห็นผู้บริหารคนไหนจะกล้าทำแบบนี้เลย..."
เห็นด้วยครับ !! กรณีที่โรงเรียนที่นักเรียนเห็นครูที่เอาใจใส่ดูแลนักเรียน อย่างดี ผมมองว่า
กรณีโรงเรียนที่นักเรียนสนใจเรียนก็น่าจะดีนะครับ และนักเรียนที่มีความคิด
สำหรับ โรงเรียนที่นักเรียนไม่ค่อยสนใจเรียน ชอบครูคนที่ไม่ชอบคอยดุ บ่น หรือว่า
แล้วเวลาให้นักเรียนโวตให้คะแนน แล้วจะได้ไหมละครับ คงหมดสิทธิ์
ยังมีนะครับโรงเรียนแบบนี้ มันก็ 2 มุมมอง
เป็นกำลังใจให้ครูทุกท่านครับ สู้ๆ ต่อไป กับการเปลี่ยนแปลง
สวัสดีครับ
บุคลากรในโรงเรียนน่าจะแยกกันให้ชัดเจนนะครับ
ครูผู้สอน..กับบุคลากรฝ่ายสนับสนุนการสอน
ครูมีหน้าที่สอน..เหมือนแพทย์ทำการรักษาอย่างเดียว
บุคลากรสนับสนุนการสอน..เหมือนพยายาล..และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ
แนวคิดแบบนี้..สงวนลิขสิทธิ์ สำหรับสยามเมธีสิกขาลัย..แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
ขอบคุณสำหรับการ ลปรร.ครับ