หลังจากที่ผมเดินทางกลับจาก สคส. วันนั้นผมก็พอทราบได้ว่า "ชีวิตต้องเปลี่ยนไป"
พอกลับมาถึงจังหวัดกำแพงเพชรก็เริ่มปรึกษากับพ่อและแม่ว่าจะต้องไปเรียนต่อที่อุบลฯ หลายปี ก็คุยกันว่าของที่บ้านอุตรดิตถ์จะทำอย่างไร จะเอาอะไรไปใช้ได้บ้าง
พ่อก็บอกว่า ยังวางแผนอะไรไม่ได้มาก ต้องลองไปดูก่อนแล้วค่อยขยับขยาย
ตอนนั้นผมก็เลยได้แต่เตรียมสิ่งของที่จะต้องใช้ในชีวิตประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะครับ พอดีที่บ้านผมเปิดร้านขายอุปกรณ์เสริมสวย เครื่องสำอางค์และวัสดุอุปกรณ์จิปาถะ
จากนั้นพอมาถึงอุตรดิตถ์ ก็ได้เคลียร์งานให้เสร็จเรียบร้อย เก็บกระเป๋าแล้วก็เตรียมเดินทางไปอุบลราชธานี
รถออกเดินทาง 22.20 น. ของคืนวันที่ 2 มิถุนายน เริ่มต้นจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ผ่านจังหวัดพิษณุโลก ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี
รถถึงเวลาประมาณ 11.45 น.ของวันที่ 3 มิถุนายน รวมเวลาเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมงครับ
ระหว่างการเดินทาง 13 ชั่วโมงกว่านั้น เต็มไปด้วยความตื่นเต้นผสมกับความกังวลใจ เพราะนี่เป็นการเดินทางมายังอุบลฯ เป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อนสนิท มีแต่ชื่อบุคคลต่าง ๆ ที่ทาง สคส. ให้ไว้เพื่อติดต่อคราวเมื่อมาถึง
ในระหว่างนั้นผมก็นึกขึ้นได้ถึงเบอร์โทรศัพท์ที่ท่าน ดร.สุทธิดา ได้ให้ไว้ว่า ถ้ามาถึงให้ติดต่อเบอร์นี้ชื่อว่า คุณบุญทวี
ผมก็เลยได้โทรศัพท์ไปถึงกับคุณบุญทวี สิ่งแรกที่แปลกใจมากก็คือ เป็นเสียงผู้หญิงรับสาย (ตอนแรกนึกว่าชื่อผู้ชายครับ) และก็ได้ถามทางที่จะเข้าไปยัง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
คุณบุญทวีก็ได้แนะนำว่าให้นั่งรถแดงเข้ามาครับ แต่ก็ติดท้ายประโยคด้วยว่า "ให้ไปรับไหมคะ"
ตอนนั้นในใจลึก ๆ คิดว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเลยครับ แต่ก็เกรงใจเธอน่ะครับ เพราะได้ข่าวว่าไกลมาก แต่ด้วยความที่ไม่รู้จักเส้นทางและสัมภาระเยอะมาก ก็เลยต้องรบกวนให้คุณบุญทวีมารับ เธอก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มใจว่า "ไปรับได้ค่ะ รอที่ท่ารถนครชัยนะคะ"
เมื่อมาถึงสักพักก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับคุณบุญทวี
เธอขับรถกระบะคันโตมารับ เหมาะกับสัมภาระผมมากเลยครับ
ก่อนที่จะไปถึงมหาวิทยาลัยก็ได้แวะทานข้าวที่ร้านค้าแห่งหนึ่งครับ นั่นเป็นอาหารมื้อแรกของผมที่อุบลฯครับ "ข้าวผัดกระเพราหมู" ตอนนั้นคิดเมนูไม่ออกครับ เพราะหิวมาก
จากนั้นเธอก็จัดการเรื่องต่าง ๆ ให้ผมจนเสร็จเรียบร้อยโดยเฉพาะเรื่องหอพัก ตอนนั้นผมเกรงใจเธอมาก ๆ เลยครับ แต่เธอก็บอกว่า เป็นหน้าที่อยู่แล้วค่ะ มี Service mind ดีมาก ๆ เลยครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอยังให้ผมยืมจักรยานไว้ให้ซื้อาหารประทังชีวิตและเดินทางภายในมหาวิทยาลัยด้วยครับ เย็นวันนั้นผมก็เลยได้ปั่นจักรยานคันนี้ไปซื้อข้าวเย็นที่หน้ามหาวิทยาลัย ไม่งั้นต้องอดข้าวเย็นแน่ ๆ เลยครับ ลมหายใจแรกที่อุบลฯวันนี้ เป็นลมหายใจแห่งความประทับใจที่คนต่างถิ่นอย่างผมประทับใจอย่างไม่มีวันลืมครับ
แสดงความยินดีกับความก้าวหน้าของอาจารย์ด้วยครับ
เมื่ออาจารย์เรียนจบ แล้วจะกลับมาทำงานที่อุตรดิตถ์อีกหรือเปล่าครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
น้องนิว ก็ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์เช่นกันคะ แม้อยู่คนละมหาวิทยาลัยฯ แต่ก็ขอให้กำลังใจน้อย ๆ นี้ส่งไปถึงอาจารย์และขอให้อาจารย์เรียนจบและกลับมาสอนเร็ว ๆ นะคะ...เพื่อช่วยกันพัฒนาศักยภาพนักศึกษาต่อไปคะ..ขอบพระคุณคะ