โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

14. ทำงานไม่คั่งค้าง


ท่านตั้งใจทำกิจวัตรแห่งสงฆ์อย่างเต็มที่ 04.00 น. ลุกขึ้นสวดมนต์ไหว้พระ เดินจงกรม นั่งสมาธิ 06.00 น. ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์โลก 8.00 น. ฉันภัตตาหารเช้า 9.00 น. เดินจงกรมนั่งสมาธิ ไปเรื่อยๆ

ทำงานไม่คั่งค้าง

โสภณ เปียสนิท

...........................    

                        บ่ายวันนั้น หลวงพ่อแดง เจ้าอาวาสวัดดงดินดำนั่งอยู่ใต้ต้นพิกุลใหญ่ข้างกุฏิหลังเล็ก ที่ท่านอยู่อาศัยมาตั้งแต่บวชเณรเมื่ออายุ 18 ปี ปัจจุบันหลวงพ่ออายุยืนมาถึง 80 ปีแล้ว นึกย้อนกลับไปวัยหนุ่มน้อย ท่านถูกขอร้องให้บวชเณรหน้าไฟ เพื่ออุทิศส่วนกุศลกับคุณย่า โดยยังไม่รู้ว่าบวชแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะไม่เคยคิดจะบวชมาก่อน บวชแล้วจึงได้รู้ความจริงว่าการบวชไม่ใช่เรื่องง่าย โชคดีที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสองค์เก่าเอาใจใส่แนะนำพร่ำสอนไตรสิกขามิได้ขาด จึงได้เรียนรู้เรื่องของศีล สมาธิ และปัญญาตามแนวทางแห่งสงฆ์ในพระศาสนานี้

                        ท่านตั้งใจทำกิจวัตรแห่งสงฆ์อย่างเต็มที่ 04.00 น. ลุกขึ้นสวดมนต์ไหว้พระ เดินจงกรม นั่งสมาธิ 06.00 น. ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์โลก 8.00 น. ฉันภัตตาหารเช้า 9.00 น. เดินจงกรมนั่งสมาธิ ไปเรื่อยๆ แบบสบายๆ ไปจนถึง 18.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น พักผ่อนเล็กน้อยแล้วปฏิบัติธรรมไปจนถึงเที่ยงคืน จึงจำวัด วนเวียนอยู่อย่างนี้ 7 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงความรู้สึกส่วนลึกว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างที่น่าสนใจ ท่านจึงตัดสินใจบวชต่อไปอีกสักหนึ่งพรรษา เมื่อหนึ่งพรรษาผ่านไป ความคิดที่จะสึกหาลาเพศออกไปใช้ชีวิตฆราวาสผู้ครองเรือนค่อย ๆ ลดลง จนท่านดำรงชีวิตสมณเพศมาถึงปัจจุบัน

                         ชายวัยกลางคน 2 คนพากันเข้ามาหาพระชราด้วยกิริยาสุภาพ กราบเบญจางคประดิษฐ์ครบสามครั้ง ชายคนหนึ่งพนมมือเหมือนจะถามคำถาม หลวงพ่อยิ้มเย็นทักขึ้นก่อน “อ้าว ไอ้สม ไอ้ทรง มาเมื่อไร” ชายทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม “หลวงพ่อยังจำเราได้เหมือนเดิม” ทั้งสองคนเป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อสมัยท่านยังหนุ่ม ต่างสร้างวีรกรรมไว้กับหลวงพ่อจนท่านจำได้ไม่รู้ลืม “สมบูรณ์” และ “ทรงศักดิ์” ใช้วัยเด็กอยู่กับหลวงพ่อนับสิบปี “เพิ่งกลับมาถึงบ้านเมื่อเช้าครับ หลวงพ่อ” สมบูรณ์พนมมือตอบ “งานเป็นอย่างไรบ้าง” ท่านถามด้วยน้ำเสียงเมตตา “ดีครับ ก้าวหน้าไปเรื่อย” “เออ ก็ดีแล้ว รักษาความดีไว้นะ” “ครับหลวงพ่อ” “เอ็งมันขยัน ทำงานเร็ว อ่านหนังสือมาก จึงประสบความสำเร็จมาก ส่วนไอ้ทรง ขยันน้อยกว่า ทำงานช้า อ่านหนังสือน้อยกว่า ก็มีความสำเร็จน้อยกว่า พระสอนไว้ไม่ผิดเลย”

                          หลวงพ่อย้อนอดีตให้ศิษย์สองคนทบทวน ทรงศักดิ์ พนมมือยิ้มรับคำสอน “จริงครับหลวงพ่อ รู้อย่างนี้ ผมขยันให้มากกว่าไอ้สม ป่านนี้ผมก็ได้ดิบได้ดีกว่ามันนะ ใช่ไหมหลวงพ่อ” “ก็แน่ละวะ ข้าเคยสอนแล้วทั้งนั้น” “ใช่ครับ ผมจำได้ เรื่องดินพอกหางหมู ที่เพิ่มมากขึ้น ถ่วงหมูให้กินอยู่หลับนอนไม่เป็นสุขยิ่งๆ ขึ้นไปฉันใด การงานที่ปล่อยทิ้งไว้คั่งค้าง ก็มีแต่จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น และถ่วงความเจริญก้าวหน้าทั้งแก่ตนเอง และหมู่คณะ” “เก่งเว้ย ยังจำได้ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน หากปล่อยการงานให้คั่งค้างก็เท่ากับกำลังทำลายค่าของตนเอง” หลวงพ่อยิ้มน่ารักแล้วแนะนำให้คิดว่า “เอ็งสองคนลองคิดดูซิว่า เหตุใดคนเราไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จึงปล่อยให้การงานคั่งค้าง” สมตอบฉับไวว่า “เพราะขี้เกียจนั่นแหละครับ” “เออ มันก็ถูก แต่พระท่าแยกแยะไว้ชัดว่า “เพราะทำงานไม่ถูกกาล ทำงานไม่ถูกวิธี ไม่ยอมทำงาน ผัดวันประกันพรุ่ง” คือมันทั้งขี้เกียจและโง่นั่นเอง”

                         นายทรงมองหลวงพ่ออย่างรักและศรัทธา กล่าวว่า “หลวงพ่อเทศน์ได้สะใจ” พระท่านสอนไว้ละเอียดว่า “ประโยชน์ย่อมล่วงเลย ขณะที่คนโง่มัวรอฤกษ์ยามอยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวไม่เกี่ยว” นายทรงถามด้วยความสงสัย “อ้าวหลวงพ่อครับ อย่างนี้หมอดูก็ไม่เกี่ยวด้วยสิ” “ก็ใช่สิวะ” นายสมถามบ้างว่า “คนเราจะประสบความสำเร็จเพราะเหตุใดเล่าครับ” “พวกเอ็งรู้กันอยู่แล้ว ก็อิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา” นายสมนึกขึ้นได้ “จริงครับ ผมจำได้แล้วว่า ต้องรัก ต้องเพียร ต้องจดจ่อ ต้องหมั่นใคร่ครวญเสมอ ทำอะไรก็สำเร็จ”

                         ทรงศักดิ์มีสีหน้าครุ่นคิด “งั้นคนเราไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่ทำตามอิทธิบาทนะสิครับ” “พระสอนว่า ทางแห่งความเสื่อม มาจากฐานะ 5 อย่าง ชอบนอน ชอบคุย ไม่ชอบความขยัน ชอบขี้เกียจ โกรธง่าย” ทรงศักดิ์กลั้นหัวเราะไม่อยู่ “แหมหลวงพ่อครับ ผมมีครบทุกข้อเลยครับ” “รู้ตัวอย่างนี้ ถือว่ายังดีนะ พอแก้ไขได้” ทรงศักดิ์สงสัย “รักงาน และขยันทำงานก็น่าจะพอแล้วนี่ครับ” “ต้องไม่โง่ด้วยนา รักงานขยันทำงานอาจทำงานแบบลิงแก้แหก็มี ทำงานไม่ใช้ปัญญา แบบเปรตจัดหัวจัดตีนก็มี” สมบูรณ์ถามบ้างว่า “หลวงพ่อต้องอธิบายเพิ่มเติมครับ “ลิงแก้แห” และ “เปรตจัดหัวจัดตีน” หมายความว่าอย่างไร”

                        “ลิงแก้แห ก็คือยิ่งทำยิ่งทำยิ่งยุ่ง แหติดมือติดตีนสลับกันไปมา แก้ทั้งวันก็ไม่เสร็จ เรียกว่าขยันแต่โง่ไง” หลวงพ่ออธิบายไปยิ้มไป ท่านคงนึกภาพลิงแก้แหไปด้วย “นึกภาพออกไหมเล่าไอ้ทรง ลิงแก้แห” “ครับ นึกออกแล้ว แต่เปรตนี่มันจัดยังไงครับ” หลวงพ่อยกนิทานธรรมมาเล่าอย่างน่าสนใจ “มันมีที่มาเว้ย ในพระสุตันตปิฏกเล่าไว้ว่า ครั้งหนึ่งมีเปรตตนหนึ่ง เดินผ่านศาลาพักคนเดินทางยามค่ำคืน บนศาลามีคนนอนหลับอยู่สองสามคน เปรตมองทางเท้าไม่เท่ากัน จึงจับเท้าคนเหล่านั้นดึงมาเรียงให้เท่ากัน จัดเสร็จก็เดินไปทางหัว เห็นทางหัวไม่เท่ากันอีก ก็จับหัวดึงให้เท่ากันอีก จัดเสร็จก็เดินไปทางเท้าอีก ไม่เท่ากันก็จัดอีก เป็นอันว่าจัดจนสว่างก็ยังไม่เสร็จ เอ็งสองคนว่า ลิงกับเปรตใครฉลาดกว่ากัน”

                         “โง่เท่ากันครับหลวงพ่อ” สมบูรณ์ตอบ หลวงพ่อสอนไปหัวเราะไป “การทำงานให้เสร็จต้อง ทำให้ถูกกาล ถูกลักษณะของงาน ด้วยความเต็มใจ แข็งใจ ตั้งใจ เข้าใจ” ทรงศักดิ์ถามบ้างว่า “เวลาทำงานปัญหามันเยอะครับหลวงพ่อ” “มันต้องเอาชนะปัญหาเหล่านั้นก่อนซิ ปัญหามีให้แก้ไม่ใช่ให้กลุ้ม” “เอ๊ะ หลวงพ่อสอนด้วยคำคมเลยนะครับ” “ปลาเป็นมันว่ายทวนน้ำทุกตัว ปลาตายเท่านั้นที่ลอยตามน้ำ” หลวงพ่อได้ทีสอนให้คิด สมบูรณ์กล่าวชม “เห็นภาพชัดเจนครับหลวงพ่อ” หลวงพ่อจึงว่า “เรื่องปัญหาในการทำงาน พระท่านสอนว่า มีอยู่ 6 อย่าง คือ ชอบดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่นเป็นนิจ เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านในการทำงาน”

                         ทรงศักดิ์หาทางเอาตัวรอด “โอ้โห หลวงพ่อ โชคดีที่ผมมีปัญหาอยู่ข้อท้ายข้อเดียว” “เอ็งเนี๊ยะนะข้อเดียว ข้าเห็นครบทุกข้อเลย” “หลวงพ่อว่าถูกต้องแล้ว” สมบูรณ์เห็นด้วย “เฮ้ย ไอ้สม เข้าข้างข้าหน่อยซิวะ” เขาดุเพื่อนหน้ายิ้ม ๆ และกล่าวต่อ “สังคมทุกวันนี้มันหนักทุกข้อเลยครับหลวงพ่อ เหล้าก็ขายดี สถานที่เกี่ยวก็มาก การละเล่นก็เยอะ การพนันก็มี คบคนชั่วเป็นมิตรก็แยะ ขี้เกียจก็หนัก ผมเลยติดกับเขาไปด้วย” “ก็หยุดซิวะหักดิบเลยหมดเรื่องกัน” หลวงพ่อแนะ “ลดลงได้มากแล้วครับ” “เออดี ขอให้จริงเป็นบุญของเอ็ง”

                      ภิกษุชราครุ่นคำนึงถึงศิษย์รักสองคน ที่มีพื้นฐานครอบครัวเกษตรกรเหมือนกัน แต่มีอุปนิสัยต่างกัน ต่างก้าวเดินไปสู่เป้าหมายที่ต่างกัน สามสิบกว่าปีเส้นทางของทั้งสองห่างกันอย่างเด่นชัด สมบูรณ์ ก้าวสู่ความสำเร็จ เป็นเจ้าคนนายคนมีทรัพย์สินมั่นคง เพราะมีนิสัยขยันอดทนสำคัญที่สุดคือ การงานไม่คั่งค้าง คิดเร็วทำเร็ว มีงานใดไม่ว่าจะเป็นงานส่วนตัวหรืองานส่วนรวม เขาทำเสร็จโดยเร็ว ด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย กิจวัตรตั้งไว้อย่างไร เขาทำตามอย่างเคร่งครัด และหลวงพ่อเห็นแววเจริญในตัว เพราะรู้ว่าเขาแบ่งเวลาสวดมนต์ไหว้พระเสมอไม่เคยขาด หลวงพ่อเคยพยากรณ์ไว้ใจใจว่า “ไอ้เด็กคนนี้ไม่ตกต่ำ”

                       ส่วน ทรงศักดิ์ มีนิสัยตรงกันข้ามกับเพื่อนรัก หลวงพ่อคอยเอาใจช่วย หมั่นอบรมแนะนำบ่อยๆ โชคดีที่เขาเป็นคนว่าง่าย แม้จะดุด่าว่ากล่าวอย่างไรก็ไม่โกรธแถมบางครั้งยังยอมรับว่า “รู้ตามที่หลวงพ่อสอน แต่มันมักจะลืม” หลวงพ่อมองเห็นเป็นคนดีของเขาอยู่ จึงมักสอนด้วยความเมตตาอยู่บ่อยๆ หวังว่าแม้จะพัฒนานิสัยได้ช้า แต่ต่อไปภายภาคหน้าเขาต้องปรับตัวได้แน่ อาจใช้เวลามากสักหน่อย ซึ่งก็เป็นจริงตามที่หลวงพ่อคิด ชีวิตวัยกลางคนของเขาดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น ตามที่หลวงพ่อพยากรณ์ไว้

                     หลวงพ่อมองหน้าศิษย์รักทั้งคู่ด้วยสายตากระจ่างใสเหมือนแววตาของเด็กน้อย แล้วกล่าวเบาๆ “บุคคลใดไม่คำนึงถึงหนาวร้อน อดทนให้เหมือนหญ้า กระทำกิจที่ควรทำด้วยเรี่ยวแรงของลูกผู้ชายบุคคลนั้นย่อมไม่เสื่อมจากสุข” ทรงศักดิ์ยังมีความสงสัย “อดทนเหมือนหญ้าอย่างไรครับ” “คือวางตัวให้ติดดินยามแล้งอาจเหี่ยวเฉา ฝนมาก็กลับงอกงามอีกครั้ง”

หมายเลขบันทึก: 368942เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2010 12:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 01:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เรื่องน่าสนใจมาก ได้ครบเลย (อิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา” นายสมนึกขึ้นได้ “จริงครับ ผมจำได้แล้วว่า ต้องรัก ต้องเพียร ต้องจดจ่อ ต้องหมั่นใคร่ครวญเสมอ ทำอะไรก็สำเร็จ”)สงสัยต้องหาคนช่วยภาพวาดประกอบครับ เย้ๆๆ

  • พบแฟนพันธุ์แท้ร่วมทางเดิน อีกหนึ่งท่าน ไปต่อไม่มีท้อแน่นอนค่ะท่าน เขียนต่อนะคะจะติดตาม
  • ✿อุ้มบุญ✿ ขอสะสางงานก่อน เมื่อเช้าประชุมหน่วยงาน จะได้ไม่คั่งค้าง

อาจารย์Ico32มาให้กำลังใจก่อนใครอื่นเลย หวังว่าคงสบายดีนะครับ ท่านอาจารย์ ออกพรรษาแล้ว เดินสายจัดกิจกรรมได้ไกลอีกหน่อยแล้วนะครับ

คุณอุ้มบุญอ่านมาใกล้ครึ่ง

ถือว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ แถมย้ำว่าติดตามต่อแน่นอน โปรดติดตามความมั่นคงในตอนต่อไป อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท