จารุวัจน์ شافعى
ผศ.ดร. จารุวัจน์ ชาฟีอีย์ สองเมือง

แด่ ดร.ดลวานะ ผู้จากไป


วันนี้ตลอดช่วงเช้า บรรยากาศการทำงานของผมคลุกเคล้ากันครับระหว่างเครียดๆ กับผ่อนคลายครับ งานรอบนี้มันสร้างความเคลียดให้ักับผมอันเนื่องจากเวลาที่เร่งรัดมากๆ ครับ กับข้อมูลที่มากมายก่ายกอง (จริงๆ) ที่สำคัญเส้นตายมาถึงแล้ว แต่มันยังไม่เสร็จ ดังนั้นเลยต้องเร่งกับเร่งจริงๆ ฮือ สุดๆ จริงครับ อันนี้คือที่มาของการหายหน้าไปหลายวันจากการเขียนบันทึกครับ แต่ในระหว่างความวุ่นของวันนี้ มีคำถามดังผ่านมาจากหน้าห้องทำงานครับ อาจารย์อีย์ ทราบข่าว ดร.ดลวานะ แล้วยัง? เลยต้องถามกลับครับว่า ข่าวอะไร? คำตอบคือ ท่าน ดร.กลับสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์แล้ว พอทราบข่าวเบื้องต้นเท่านี้ ผมเลยลุกจากที่นั่งไปถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทีมงานครับ โดยเฉพาะประเด็นว่า จะมีการละหมาดญานาซะห์ (ละหมาดให้กับผู้เสียชีวิต) ที่ไหน เมื่อไร

ช่วงบ่ายเลยทำงานได้ประมาณชั่วโมงครึ่งครับ ทีมงานก็มาเคาะประตูว่า ถ้าช้ากว่านี้ผมจะไปไม่ทันละหมาดแน่ๆ เลยต้องปิดการสนทนางานกับทีมงานแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางไป อ.บาเจาะ บ้านเกิดของ ดร.ดลวานะ เพื่อร่วมละหมาดให้กับท่านครับ เดิมทีผมตั้งใจจะไปกับทีมงานในสำนักครับ แต่พอมีสายเข้ามาจาก อ.อับดุลกอนี (อัสสะกอมี) ถามรายละเอียด เลยเปลี่ยนใจว่า ขับรถไปเองก็ได้ จะได้รับเพื่อนอาจารย์อีกหลายท่านไปพร้อมๆ กัน สรุปว่า ขับรถเองครับ มีสมาชิกร่วมไปด้วยอีก 3 ท่าน งานนี้ต้องเลือกใช้เส้นทาง ยะลา รามัน ตะโละหาลอ กะพ้อ ต้นไทร ถึงบาเจาะครับ เส้นทางนี้ไกลกว่าไปทางสายบุรีแน่ๆ ครับ แต่เพราะไปรับเพื่อนอาจารย์ระหว่างทางเลยไปทางนี้ครับ 

งานนี้เลยต้องเร่งแข่งกับเวลาอีกครับ (ฮือ อะไรช่วงนี้เป็นรีบไปทุกเรื่องจริงๆ) ไปถึงบาเจาะก็มุ่งไปที่มัสยิดบ้านเกิดของ ดร.ดลวานะทันทีครับ เพื่อรอละหมาดเลย ชุมชนเล็กๆ ใกล้ๆ เทือกเขาบูโดครับ เมื่อต้องรับแขกจากทุกทิศเลยกลายเป็นชุมชนเล็กไปถนัดตาเลยครับ เฉพาะที่จะจอดรถก็แน่นขนัดจริงๆ มัสยิดก็เต็มไปด้วยคนที่จะมาร่วมละหมาดให้กับท่านอาจารย์

การละหมาดให้กับศพของอาจารย์นำโดยท่านอธิการบดีครับ เราละหมาดอัสรีก่อน จากนั้นจึงละหมาดให้กับศพ เสร็จจากละหมาด ฝนก็เทลงมาอย่างค่อนข้างหนักครับ ส่วนใหญ่เลยต้องนั่งคุยกันต่อในมัสยิดครับ ผมเองทำใจครับต้องรอให้ฝนซาก่อน เพราะเจ็บขา เดินรีบๆ ไปที่รถไม่ได้ ตอนนี้ต้องค่อยๆ เดินอย่างเดียว เลยรอก่อนดีกว่า สุดท้าย อ.อัสสะกอมี เสนอว่าจะไปขับรถมาเอง แต่พอรถมาถึงที่มัสยิด เส้นทางออกรถติดหนืบเลยครับ ก็เลยต้องหันหัวรถกลับแล้วไปออกเส้นทางน้ำตกบาโจแทน

ผมมีความประทับใจมีความรู้สึกดีๆ กับ ดร.ดลวานะมากจริงๆ ครับ ตั้งแต่สมัยพักที่หอพักอาจารย์ที่ปารามีแตแล้วครับ ท่านโดดเด่นเรื่องการดูแลสุขภาพจริงๆ ครับ เพราะทุกๆ เช้าท่านจะออกจ๊อกกิงครับ ด้วยอัธยาศัยของท่านครับ ผมเลยสนิทกับท่านเร็วมาก ท่านเลยใช้ผมเป็นเครื่องมือในการฝึกพูดภาษาไทยไปเลยครับ จำได้ว่า การประชุมวิชาการของคณะครั้งที่สาม ผมเชิญท่านมานำเสนอผลงานด้วย พร้อมกับเงื่อนไขว่า ต้องนำเสนอเป็นภาษาไทย ฮิฮิ ท่านทำตามเงื่อนไขครับ เกริ่นนำด้วยภาษาไทย แต่พอเนื้อหาขอใช้ภาษามลายูแทน เหตุผลว่า มันไม่สะใจ ฮิฮิ

ตอนท่านได้บ้านพักที่วิทยาเขตโสร่ง ท่านก็มาเป็นเพื่อนบ้านกับผมอีกครั้งครับ จนกระทั่งผมย้ายออกมาอยู่นอกมหาวิทยาลัย ความหวังเดิมของท่านก็เหมือนเดิมครับ คือ อยากเป็นเพื่อนบ้านกับผมเหมือนเดิม อันนี้คือสิ่งที่ท่านคุยย้ำกับผมไว้เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาครับว่า ที่ดินข้างบ้านผมท่านก็เจรจาจนเจ้าของเขายอมขายให้แล้ว เหลือแค่จะไปสร้างบ้านเท่านั้นเอง ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ไปสร้างบ้านอยู่ข้างบ้านกับผมหรือเปล่า ท่านบอกว่า ถ้าอัลลอฮ์ให้ท่านหายจากโรคนี้ เราคงได้เป็นเพื่อนบ้านกันอีกครั้ง 

ผมประทับใจแนวคิดท่านในเรื่องวิชาการมากๆ ครับ เนื่องจากประสบการณ์ท่านในประเทศมาเลเซียทางด้านวิชาการในระดับอุดมศึกษา พอทำอะไรแล้วมันจะผ่านเกณฑ์ในประเทศไทยไปด้วยเหมือนกัน หลายปีโน้น ท่านตั้งประเด็นคำถามให้ผมว่า ถ้าประเด็นที่คุณจะทำวิจัยเป็นประเด็นสำคัญ มีประโยชน์ ทำไมต้องรอให้มีคนมาให้ทุนก่อนจึงจะค่อยทำ ทำไมไม่ทำไปก่อนแล้วค่อยหาทุน ฮือ ได้ผลครับ ท่านทำเป็นแบบให้ผมเลย แถมเป็นโครงการที่ใหญ่มากด้วย ไม่ใช้งบสนับสนุนจากแหล่งใดๆ เลย

ท่านเป็นนักเขียนครับ ผลงานส่วนใหญ่จะปรากฏในวารสารต่างๆ ในประเทศมาเลเซียครับ ผลงานมีอย่างต่อเนื่องครับ แต่ด้วยชื่อเจ้าของผลงานที่มีเอกลักษณ์ครับ ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเห็นผลงานของท่านในลักษณะของบทกวีด้วย (ฮือ ไม่แน่ใจว่าผลงานท่านหรืออาจารย์ท่านอื่น)

ผมได้มีโอกาสทำงานวิจัยร่วมกับท่านสองโครงการครับ โครงการแรกท่านเป็นหัวหน้าโครงการ เป็นการวิจัยเกี่ยวกับการอนุรักษ์อาหารละศิลอดภายในหมู่บ้าน โครงการนี้เสร็จไปหลายปีแล้วครับ แต่บทความส่งไปตีพิมพ์วารสาร จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ตีพิมพ์ เหตุผลเพราะหาผู้ทรงคุณวุฒิให้ความเห็นเรื่องนี้ไม่ได้ ฮือ ผมรอจนคิดว่าจะเปลี่ยนไปลงวารสารอื่นแล้ว แต่วุ่นๆ เลยยังไม่ได้ทำอะไรต่อ

โครงการวิจัยต่อมาเป็นการวิจัยเกี่ยวกับนโยบายรัฐกลันตันด้านวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยมี อ.อับดุรรอห์มาน จะปะกิยา เป็นหัวหน้าทีม โครงการนี้ก่อนเริ่มต้น ดร.ดลวานะ เป็นคนให้ความมั่นใจว่า เราทำได้ดีแน่ๆ เพราะท่านสามารถนำเราเข้าถึงแหล่งข้อมูลสำคัญๆ ได้ เพราะสมาชิกแกนนำของพรรคบาสหลายท่านเป็นเพื่อนของท่านเอง ซึ่งสุดท้ายงานวิจัยนี้ได้รับคำชื่นชมมากทีเดียวครับ 

S7300068 Kl09

(ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์มุขมนตรีของรัฐกลันตัน แถมได้อยู่บ้านพักรับรองแขกของรัฐ ตอนวิจัยที่กลันตันครับ)

ช่วงทำวิจัยที่กลันตันนี่แหละครับ อาการของโรคมะเร็งเริ่มแสดงอาการให้เห็น เพียงแต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าท่านเป็นอะไรครับ การลงพื้นที่ครั้งสุดท้าย ท่านเดินแทบไม่ไหวครับ แต่ก็ยังไม่ยอมหยุดทำงานร่วมกับทีมวิจัยครับ หลังจากกลับมาที่มหาวิทยาลัย ท่านก็เข้ารับการตรวจเช็ค ซึ่งตอนนั้นหมอวินิจฉัยว่า เป็นวัณโรค ผ่านไปสามเดือนครับ ถึงได้ข้อวินิจฉัยใหม่ว่าเป็นมะเร็ง แต่ถึงแม้จะโดนโรคร้ายรังแก ผ่านคีโมครั้งที่สาม ท่านก็สู้ต่อครับ ด้วยความมุ่งมั่นว่าจะต้องสร้างคุณค่าของตนเองเพื่อประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยและสังคม ท่านใช้เวลาในการรวบรวมงานของท่านแล้วก็เสนอขอรับการพิจารณาตำแหน่งวิชาการครับ เพียงแต่ด้วยผลงานที่นำเสนอครับ ทำให้ผมในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ กพว. ทำงานเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่งครับ เพราะต้องใช้ผู้ประเมินจากต่างประเทศเท่านั้น หาจากประเทศไทยที่สามารถอ่านงานวิชาการที่เขียนด้วยภาษาอาหรับและมลายูในด้านนี้ยากครับ (จะว่าไม่มีเลยก็ได้ครับ เพราะถ้าอ่านงานภาษาอาหรับได้ก็อ่านภาษามลายูไม่ได้อีก อ่านมลายูได้ก็อ่านภาษาอาหรับไม่ได้อีก) กระบวนการจึงยังไม่ได้แต่งตั้งผู้ประเมินฯ 

 

Edscf1132

 

บันทึกนี้ด้วยความอาลัยกับการจากไปของ ดร.ดลวานะ ตาเยะครับ ขออัลลอฮ์ทรงอภัยโทษให้กับท่าน และประทานความเมตตาให้กับท่านตลอดไป

คำสำคัญ (Tags): #ดร.ดลวานะ ตาเยะ
หมายเลขบันทึก: 368820เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2010 01:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

มาร่วมคารวะครูที่ทำดีเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ครับ

ขอบคุณครับอาจารย์ JJ 

ดร.ดลวานะ เป็นครูเพื่อศิษย์ที่ดีมากท่านหนึ่งครับ

ข่าวเศร้าของพวกเราจริงๆ... หวังว่าอัลลอฮฺจะทดแทนคนดีๆแบบนี้ให้แก่เรา

ผมไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน .. จำได้ว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ท่านรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการมาบอกผมว่าจะมี ดร.จากมาเลเซีย มาประจำที่วิทยาลัยเรา ผมก็ถามท่านต่อว่า ท่านจะมาจริงหรือ.. ท่านรองตอบว่า ท่านมาแน่.. พอได้เจอตัวจริง คลุกคลีกับท่าน ท่านเป็นคนเสียสละจริงๆ แม้ความสุข ความสะดวกสบายหรือความร่ำรวยรอท่านที่มาเลเซีย แต่ท่านจะเลือกมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา เพื่อมุสลิมในประเทศไทย

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับอาจารย์

ขอบคุณครับอาจารย์ Ibm ครูปอเนาะ ڬوروفوندق 

ตอนไปเยี่ยมครั้งก่อน ท่านเคยคุยว่า เป็นคนมาเลย์ ชีวิตมันสุขสบาย แต่มาเป็นคนไทยด้วยหน้าที่ครับ

ขอบคุณครับ ดร.ขจิต ฝอยทอง

เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องต่อสู้ทำหน้าที่ต่อไปครับ

  • ขออัลลอฮฺได้ทรงเมตตาและตอบแทนคุณความดีอย่างล้นเหลือของท่านอาจารย์ครับ นึกเอะใจแปลกๆครับเที่ยงระหว่างพักเบรกประชุมวิจัยที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรเลยหามุมเปิดเน็ตก็เลยทราบการจากไปของท่านอาจารย์ผ่านเว็บมหาวิทยาลัย (ทุกชีวิตเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์...)
  • แม้ไม่เคยได้พูดคุยกับท่าน แต่ก็พอทราบความเคลื่อนไหวของท่านและเจอท่านในบางงานที่มีประชุม เห้นด้วยกับอาจารย์ทุกอย่างกับความตั้งใจและความมุ่งมั่นของท่าน ผมว่าจะมีสักกี่คนที่ใช้ใจขับเคลื่อนสังคมในหน้าที่
  • ขออัลลอฮฺประทานคนดีๆมาทดแทนเสมือนดั่งท่านให้แก่มหาวิทยาลัยรับ
  • ขออัลลอฮฺคุ้มครองและประทานความเมตตาให้แก่เราทุกคนด้วยครับ
  • หากพอจะมีอะไรที่ช่วยได้เพื่อแบ่งเบาภาระได้บ้างผมยินดีนะครับกับการได้ช่วยอะไรบ้าง ณ ตอนนี้
  • ดูแลสุขภาพด้วยครับอาจารย์

ขอบคุณครับอาจารย์ เสียงเล็กๆ فؤاد 

อาจารย์ยังอยู่ กทม.หรือครับ รอบนี้ไปนานนะครับ

เราคงต้องทำตัวให้พร้อมเสมอสำหรับการกลับไปสู่อัลลอฮ์ครับ พร้อมหนึ่งคือ พร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบจากความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายไว้

เรียนท่านอาจารย์จารุวัจน์

    ขอแสดงความเสียใจด้วยคนนะคะ

อินนาลิ้ลลาห์

ผมพึ่งเข้าเวบอาจารและได้ทราบข่าววันนี้ ผมตกใจมากๆ ที่ไม่ทราบข่าวการจากไปของอ.ดลมานะ ผมมีความรู้สึกเคารพนับถือท่านมากๆ ในขณะที่ผมได้ศึกษาที่มหาลัยอิสลามยะลา รหัส สี่แปด ผมไม่เคยเรียนกับท่านครับ แต่ผมมีความรู้สึกที่ภูมิใจในอ.คนนี้ คือ ผมมีปัญหาเกียวกับการตัดสินใจ แล้ว อัลฮัมดูลิ้ลลาห์ท่านตักสินใจให้ผม นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเดนคือ หลังจากวันนั้น จนกระทั่งผมได้จบจากมหาลัย ท่านพบผมจะเข้ามาทักและเรียกชื่อผมได้ถูกต้องมาก ซึ่งทำให้ผมมีความรู้สึกดีๆกับท่านที่ได้เสวนากับท่านแค่ครั้งเดียว ท่านสามารถที่จะจำผมได้และเข้ามาทักผม ทุกครั้งที่พบผม

การจากไปของท่าน ทำให้ผมตกใจมากๆ ครับ กับการจากไปของอ.ดลมานะ

ขอบคุณครับ คุณยาย 

ขอบคุณครับคุณเกษม ปัตตานี

ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาและให้อภัยแด่อาจารย์ดลวานะ ครับ

إنا لله وإنا إليه راجعون ،،ـ

ขออัลลอฮฺเมตตาและประทานอภัยแด่ท่านอาจารย์ ดร.ดลวานะ ผู้จากไป ... ขอพระองค์ตอบแทนในความดีงามที่ท่านได้มอบให้ลูกหลานและสังคมมุสลิม

ข้าพเจ้าเองได้อานิสงค์จากความรู้และความช่วยเหลือของท่านอาจารย์อยู่หลายประการ ซาบซึ้งในน้ำใจ นิสัยเป็นกันเอง ความถ่อมตน และประทับใจในความรอบรู้ของท่าน โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับปัตตานี ปอเนาะ อุละมาอ์ในอดีตของท้องที่

อ่านงานเขียนเรื่อง ศาสนาของชาวพื้นถิ่นปัตตานี(ภาษามลายู) และ บทบาทของเชควันอะห์มัด บิน มุหัมมัด ซัยน์ ทีท่านเขียนแล้ว ทำให้ข้าพเจ้าปลาบปลื้มที่ได้เป็นลูกหลานปัตตานี และปลุกกำลังใจลึกๆ ให้อยากเรียนรู้เกี่ยวกับรากเหง้าแห่งอัตลักษณ์ของมลายูได้มากมายทีเดียว ทำให้อยากใช้ภาษามลายูให้เก่งมากขึ้น เพราะในความรู้สึกส่วนตัว ทั้งๆ ที่เป็นลูกหลานมลายูแต่กลับใช้ภาษามลายูได้ไม่ดีเลย ทุกวันนี้ ใช้ภาษาอื่น คุยภาษาอื่น เขียนภาษาอื่น ได้ดีกว่าภาษาของพ่อแม่ปู่ย่าตายาย จนละอายต่อตัวเองยิ่งนัก ...

แม้จะรู้และเข้าใจว่าภาษาทุกภาษานั้นไม่ได้ประเสริฐกว่าหรือเหลื่อมล้ำกว่า และไม่ควรจะเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะแต่ละชาติพันธุ์ก็มีความงดงามและอัตลักษณ์ที่น่าอนุรักษ์ไว้ด้วยกันทั้งสิ้น แต่การไม่สามารถเข้าถึงภาษาและวัฒนธรรมของตัวเองได้อย่างถ่องแท้ ทำให้เกิดปมในใจว่าเรานี่หนอช่างลืมกำพืดของตัวเองเสียเหลือเกิน ...

ไม่มีท่านแล้ว คงหาอ่านเขียนแนวนี้ได้ยากเป็นแน่แท้ ...

ขอกล่าวคำอาลัยแด่อาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยจิตใจที่น่านับถือ ... และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ญาิติพี่น้อง เพื่อนพ้อง และครอบครัว มอย. ที่ต้องสูญเสียบุคคลที่ทรงคุณค่าอย่างอาจารย์ ดร.ดลวานะ ตาเยะ ไปอีกท่านหนึ่ง

ด้วยศานติแห่งเอกองค์พระผู้อภิบาลสากลจักรวาล ...

สลามครับ

ตอนนี้ผมกำลังเรียนป.บันฑิต อยู่ครับ ในบรรยากาศที่แตกต่างจาก มอย มากๆ (ผมไม่เคยเรีบนปะปนกับชนต่างศาสนิก) ทำให่อิดอัดกับด้านวิชาการ

เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับปรัชญาการศึกษาเกี่ยวกับอิสลาม ที่เป็นแนวความคิดของนักปราชน์อิสลาม เช่นอิบนุซินาและท่านอื่นๆที่ชนต่างศาสนิกพอจะรู้จัก เพื่อเป็นการประกอบพรีเซ็นในสัปดาหน้านี้ จึงขอความกรุณาอ.พอที่จะมีข้อมูลทำให้ผมและพี่น้องที่รอคอยข้อมูลได้เข้าใจ พร้อมกับดาอีย์ไปในตัวใหมครับ

หรือใครมีข้อมูลนี้ช่วยส่งเข้าในเมลผมนะครับ เพื่ออิสลามที่ถูกต้องและมีมูลที่เท็จจริงไว้ประกอบ เป็นแหล่งที่มายอมรับของสากล

ส่งมาที่ [email protected] ขอบคุณครับ

ผมก็รู้สึกผิดครับที่ครั้งสุดท้ายท่านได้โทรมาหาผมว่า ว่างรึเปล่า จะชวนไปรพ.ยะลา ไปหาหมอ...ผมก็มีฮาลาเกาะห์ที่มัสยิด ก็ตอบว่ามีฮาลาเกาะห์..ก็เลยไม่ได้คิดมัตให้ท่าน..

ผมก็ถือว่าเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่งของท่าน ซึ่งสมัยที่อยู่ปารามีแตก็ได้ร่วมกินข้าวด้วยกัน เล่นกีฬาด้วยกัน ท่านรักษาสุขภาพมากครับ  ท่านยังสละเวลาขับรถจยย.ไปวิ่งที่ศูนย์เยาวชน ยะลา เวลามีงานฉลองอรัยก็ไม่ผลาด(ซุปเป็ด) พอมาอยู่ที่โสร่ง ยังซื้อที่ดินใกล้ๆกัน ก็ที่ดินบริหารจัดการโดยดร.อันนาน ว่าจะสร้างบ้านด้วยกันเลย ท่านเป็นคนธรรมดาๆดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย เป็นแบบอย่างที่ดีครับ ก็ ขออัลลอฮฺทรงเมตตาและให้อภัยแด่ท่านด้วย  อามีน..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท