ฤาถึงวันเปลี่ยนฤดู


ความแปรปรวนของอากาศ...

ตอนเย็นวันที่ 21 มิถุนายน 2553  ขณะที่กำลังจะเลิกงาน  ที่ตัวเมืองพิษณุโลกมีเมฆฝนตั้งเค้ามาแทบทุกทิศทาง  พร้อม ๆ ลมกรรโชก  รอได้สักครู่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่ความเงียบสงบ  และอากาศดูเหมือนจะเย็นสบายขึ้นบ้าง

ท่ามกลางความแปรปรวนของอากาศเช่นนี้  เมื่อเพ่งพิศธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้า สายน้ำ ต้นไม้ ฯลฯ  ต่างมีความสวยงามที่ซ่อนเร้น  แล้วแต่ผู้คนจะมีโอกาสเลือกชม ลองดูภาพแม่น้ำน่านในวันนั้นซิครับ

สายน้ำยังคงไหลเรื่อย บางครั้งมีกลุ่มผักตบชวาจำนวนมากลอยละล่องบนผิวน้ำ บางเวลาผู้คนที่ต้องทำมาหากินกับการจับปลาจะพายเรือมาตามเวลาที่พวกเขากำหนด มีเรื่องราวอีกมากมากครับบนสายน้ำแห่งนี้  ความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติหากเปรียบเทียบกับจิตใจผู้คนแล้ว  คงจะใช้คำพูดที่เรารู้กันมานานว่า "จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง"

ความต่อเนื่องของสภาพอากาศที่มีลมมรสุมบางชนิดพัดผ่านเข้ามาระยะ 2 - 3  วันนี้  ทำให้ช่วงดึกเวลาประมาณ 23.00 น. มีฝนตกเกือบตลอดคืน และช่วงเช้าเมื่อวานนี้ (22 มิถุนายน 2553)  ก่อนเข้าทำงานมีฝนตกเทกระหน่ำ  แถมซ้ำอีกครั้งหนึ่งก่อนเวลาเลิกงาน (ฝนตกครั้งนี้ ตกตามวิถีของกรมอุตุนิยมวิทยาที่มักจะบอกว่า ฝนตกเป็นหย่อม ๆครับ)

เนื้อหาสาระของบล๊อกวันนี้อาจมีไม่มาก  เพราะมีข้อจำกัดหลายเรื่อง  แต่อยากสื่อสารถึงสมาชิก g2k ทุกท่านครับ  ที่มีความยากลำบากในการใช้งานช่วงที่กำลังพัฒนาเวบไซด์ระยะนี้  ฝากรูปบรรยากาศเมืองพิษณุโลกช่วงสี่แยกวัดคูหาสวรรค์ถึงริมที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลกยามเย็น ให้ชมอีก 1 ภาพ ครับ

หมายเลขบันทึก: 368702เขียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2010 16:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะ

 เห็นสายน้ำแล้วสดชื่น ส่วนคำกล่าวที่ว่า จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง เห็นด้วยค่ะ บรรยากาศยามเย็นที่นั่น ดูมีชีวิตชีวา นะคะ

สามภาพให้อารมณ์ต่างกันมากเลยนะครับ

ขอบคุณ คุณ nop และ P เบดูอิน ที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ

สวัสดีค่ะ เห็นเมฆฝนตั้งเค้า แล้วดูวุ่นวาย เปรียบเหมือนจิตใจของคน ที่กำลังเผชิญปัญหา ร้อนรุ่ม ไม่สงบ พอมาดูภาพสายน้ำ จิตใจกลับ สงบ นิ่ง มีพลังที่จะต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ และพร้อมจะกลับไปใช้ชีวิตในเมือง ตามภาพสุดท้าย ได้อย่างมีความสุข ขอบคุณค่ะ  สำหรับภาพที่แฝงไว้ด้วยปรัชญาในการดำเนินชีวิต

P  krudara ครับ

 ระยะที่ผ่านมาคงเพราะหนักมากกับงานที่ต้องทำ  วันที่ 2,5,6 กรกฎาคม 2553 จึงขอใช้สิทธิลาพักผ่อน 3 วัน ครับ  กะเอาว่าวันที่ 5 จะไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วย  เผื่อเป็นอะไรจะได้รีบรักษาได้ทันท่วงที 

วันศุกร์ที่ 2 กค. 53 ไปใช้บริการนวดแผนไทย ผู้ที่นวดให้ซึ่งมีอายุน้อยกว่าผม เมื่อพูดคุยกันระหว่างดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ หลังการนวด  เธอให้ข้อคิดว่า เกี่ยวกับสมาธิจะต้องค่อยทำสะสมไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่รอให้หมดภาระ หรือสูงอายุแล้วค่อยทำ  มันจะสายเกินไป  พอได้รับฟังเช่นนั้น  ความคิดของตัวเองถูกกระชากทันทีครับ  ว่าหากมัวแต่รอช้าในการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา ตัวเราอาจจะสายเกินไปที่จะใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิต

ยินดีครับที่มาเยี่ยมชม 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท