การเข้าร่วมประชุม 2010 Joint World Conference on Social Work and Social Development: The Agenda ที่ฮ่องกงครั้งนี้นอกจากมีกิจกรรมอภิปราย นำเสนอผลงานทางวิชาการและการปฏิบัติงานที่เป็นต้นแบบดีๆแล้วยังมีการศึกษาดูงานด้วยเห็นว่าสังคมไทยกำลังกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุตามติดฮ่องกงไปอย่างรวดเร็วจึงเลือกไปดูบริการสำหรับผู้สูงอายุ
องค์กรที่ได้รับโอกาสให้เข้าไปศึกษาดูงานชื่อว่าสมาคมเพื่อผู้สูงอายุอยู่บ้านอย่างปลอดภัยซึ่งแปลเอาเองจากภาษาอังกฤษที่ว่า Senior Citizen Home Safety Association ( SCHSA )ของฮ่องกงนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี คศ.1996 เนื่องจากมีผู้สูงอายุเสียชีวิตอยู่ที่บ้านเป็น100 ศพโดยที่ไม่มีญาติพี่น้องหรือเพื่อนบ้านรับรู้จนกระทั่งมีกลิ่นซากศพโชยมาจากที่พักอาศัย เหตการณ์ครั้งนั้นจึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้ก่อตั้งองค์กรคิดถึงบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพัง
ในการเริ่มต้นก่อตั้งSCHSAได้มีการวิเคราะห์ความต้องการของผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพัง ดังนี้
1.ความต้องการทางกายภาพ เช่นเสื้อผ้า หรือผ้าห่มยามอากาศหนาวเย็น
2.การดูแลสุขภาพอนามัยและการสงเคราะห์ด้านการรักษา
3.การอยู่ในบ้านที่ปลอดภัย
4.การมีคนช่วยเหลือดูแลภายในบ้าน
5.การช่วยเหลือฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ
6.การช่วยเหลือด้านการเงิน
7.การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว
8.การมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมและมีกิจกรรมทางสังคม
9.การได้รับข้อมูลข่าวสารในชีวิตประจำวัน
10.ความห่วงใยเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
องค์กรจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ขององค์กร : เป็นองค์กรช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพังได้โดยปราศจากความหวาดกลัวอันตราย ให้บริการแบบรับแจ้งเหตุฉุกเฉินด้วยเครื่องส่งสัญญาณประจำตัวของสมาชิกผ่านระบบโทรศัพท์บ้าน
สถิติการให้บริการ : ตั้งแต่เปิด- 30 เมษายน 2009
ผู้ใช้บริการปัจจุบัน 65,155 คน
ผู้ใช้บริการสะสม 126,389 คน
ได้รับแจ้งเหตุ 3,272,206 ครั้ง
165,213 ครั้งต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนฉุกเฉิน
มีนักสังคมสงเคราะห์วิชาชีพ 14 คน บุคลากรทั้งหมด 185คน อาสาสมัครที่ผ่านการฝึกอบรมกว่า 1000 คน (อาสาสมัครได้ค่าตอบแทนในการทำงานแต่ไม่มาก)
บริการสนับสนุนสำหรับผู้ใช้บริการ Personal Emergency Link หลังจาก 12 ปีของการเปิดให้บริการมีบริการสนับสนุนที่เกิดขึ้นมาเพิ่มเติมดังนี้
1.โทรศัพท์/โทร-สุขภาพ : สนับสนุนให้กำลังใจ ให้ข่าวสารในชีวิตประจำวัน เตือนให้ไปใช้บริการอื่นที่จำเป็นตามนัด
2.เครือข่ายอาสาสมัคร : เยี่ยมบ้าน และโทรศัพท์เยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอ
3.เชื่อมโยงผู้สูงอายุกับสินค้า:ซื้อสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ
4.จัดประเมินรายกรณี:เพื่อการสงเคราะห์กรณีที่มีความยากลำบากในด้านเศรษฐกิจ
5.นิตยสารวัยทอง:ให้ข้อมูลข่าวสาร บริการ และประชาสัมพันธ์สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ
6.การจัดบริการรายกรณีด้านการเงินส่วนบุคคลสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลที่บ้าน
7.เป็นหุ้นส่วนกับผู้ให้บริการอื่นๆในการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
การช่วยเหลือเกื้อหนุนอย่างครบวงจร การช่วยเหลือฉุกเฉินส่วนบุคคลเป็นการได้รับบริการหนุนเสริมจากเครือข่ายการให้บริการเพื่อความปลอดภัยดังนี้
1.โรงพยาบาล
2.เครือข่ายโทรศัพท์
3.องค์กรการไฟฟ้า
4.หน่วยรถกู้ชีพ
5.การเคหะแห่งชาติ
6.สำนักงานสวัสดิการสังคม
7.สื่อสารมวลชน
8.สมาคมเครือข่ายอาสาสมัครการช่วยเหลือฉุกเฉินส่วนบุคคล
9.สาธารณะชนทั่วไป
บริการหลักของการช่วยเหลือส่วนบุคคล ( P E Link )
1.การช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
2.บริการจัดการรายกรณีอย่างง่ายไม่ซับซ้อน เช่นการเตือนให้ไปรับบริการตามนัด
3.บริการส่งต่อไปโรงพยาบาล
4.การสนับสนุนให้กำลังใจหลังจากออกจากโรงพยาบาล
เพื่อการอยู่อย่างอิสระตามลำพังของผู้สูงอายุ
ตัวอย่างการให้บริการความช่วยเหลือฉุกเฉินของ PE Link เมื่อสมาชิกได้รับอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยกระทันหันให้กดปุ่มอุปกรณ์เชื่อมต่อ ( อาจเป็นสร้อยคอ หรือนาฬิกาที่มีอุปกรณ์สัณญาณ หรือมือถือ) สู่ศูนย์ช่วยเหลือก็จะมีโทรศัพท์เข้ามาสอบถามอาการเบื้องตนเพื่อประเมินและดำเนิการช่วยเหลือต่อไป เช่น ดำเนินการช่วยเหลือทันที
แจ้งญาติพี่น้องให้ทราบ ส่งสำเนาประวัติการรักษาพยาบาลให้โรงพยาบาลที่สมาชิกไปใช้บริการฉุกเฉิน เข้าสู่บริการช่วยเหลือย่างต่อเนื่อง
ถ้าเป็นกรณีเชื่อมต่อสัญญาณด้วยโทรศัพท์มือถือซึ่งเริ่มเปิดบริการเมื่อปี2008เป็นการขยายต่อการช่วยเหลือยามฉุกเฉินเมื่อผู้ใช้บริการออกไปนอกบ้าน เมื่อสมาชิกส่งสัญญาณความช่วยเหลือทางศูนย์บริการจะจับสัญญาณที่เกิดเหตุและแจ้งให้ญาติทราบหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าผู้ใช้บริการมีอาการหนักไม่สามารถช่วยตัวเองได้มือถือจะส่งเสียงร้องเรียกความสนใจจากคนรอบข้างใกล้เคียงให้เข้ามาช่วยเหลือ หรือให้บริการเป็นแบบเลขานุการส่งต่อไปยังบุคลที่เป็นผู้ประสานบริการอื่นๆ
ตัวอย่างสมาชิกที่ได้รับความช่วยเหลือ นายก.ผู้สูงอายุที่พักอาศัยอยู่ตามลำพังมีโรคหอบหืดประจำตัวและมีอาการบ่อยมากทำให้มีความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยจึงสมัครเป็นสมาชิกและใช้บริการเรียกฉุกเฉิน 20 กว่าครั้งแล้วและรู้สึกขอบคุณบริการที่ช่วยเหลือได้ทุกครั้ง
องค์กรนี้ดำเนินงานอย่างที่เขาเรียกกันว่า social enterprise ซึ่งต้องมีพันธกิจทั้งด้านสังคมและธุรกิจโดยพันธะทางสังคมนั้นองค์กรได้วางตำแหน่งไว้ว่าเป็นแม่ข่ายของการบริการช่วยเหลือผู้สูงอายุในยามฉุกเฉิน เป็นองค์กรที่เลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ
เพื่อนร่วมกลุ่มที่ไปดูงานยิ่งเป็นแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เหมือนเราจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้บ้านเรามีบริการแบบนี้บ้างผู้สูงอายุจะได้มีความสุขและมั่นใจว่าเมื่อยามฉุกเฉินจะมีคนคอยช่วยเหลือได้ทัน
สร้อยคอ และนาฬิกาเป็นเครื่องมือในการส่งสัญญาณ ส่วนเครื่องโทรศัพท์บ้านก็ทำให้การติดต่อสื่อสารได้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อประเมินสถานการณ์ปัญหาและความต้องการบริการในการช่วยเหลือต่อไป
อุปกรณ์ของใช้ในครัวเรือนก็ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ปลอดของผู้สูงอายุ
สินค้าเพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุก็มีจำหน่ายที่มุมหนึ่งของหน่วยงานด้วยค่ะ
คุณTimothy ผู้อำนวยการของสมาคมบรรยายให้พวกเราเข้าใจเกี่ยวกับหน่วยงาน
เมื่อพาไปดู call center ที่มีคนรับโทรศัพท์ 24 ชั่วโมงโดยแบ่งออกเป็น 5 กะ เห็นภาพแล้วแต่ละคนมืออาชีพจริงๆทั้งพูดคุยและกรอกข้อมูลทันทีและประสานส่งต่ออีกแต่ละคนมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 2 หน้าจอ แค่เห็นเรายังตาลาย พวกเราก็ตามมาถามผู้อำนวยการกันต่ออีก ห้ามถ่ายภาพในcall center จึงไม่ได้ภาพมาให้ดูนะ
สมาคมตั้งอยู่ภายในกลุ่มที่พักอาศัยแบบตึกสูงๆของชาวฮ่องกง
ขอบคุณค่ะ..เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผู้สูงวัยที่ต้องอยู่ตามลำพังนะคะ..