การนำเสนอกระบวนการผลิตบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
สวัสดีทุกท่านที่ได้แวะเข้ามาชมในบันทึกนี้ ก่อนอื่นขอแนะนำว่าบันทึกนี้เป็นการนำเสนอขั้นตอนต่างในการผลิตบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องเศษส่วน ซึ่งกระบวนการผลิตเริ่มจากการเขียนโครงการ (สำหรับการเขียนโครงการสามารถชมได้ที่บันทึกโครงการสื่อนวัตกรรมค่ะ) ซึ่งหลังจากเขียนโครงการเรียบร้อยแล้วก็ได้เริ่มลงมือทำบทเรียนสำเร็จรูป โดยเริ่มจากการศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ และหลักสูตร 2551 เพื่อจะได้เนื้อหาที่ถูกต้อง ตรงมาตรฐาน และตัวชี้วัด ค่ะ
หลังจากศึกษาค้นคว้าเรียบร้อยแล้วก็เริ่มลงมือทำ เมื่อทำเสร็จและตรวจดูความเรียบร้อยแล้วก็ได้นำบทเรียนสำเร็จรูปไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและประเมิน ซึ่งผลการประเมินระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ก่อนจะนำไปทดลองใช้ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูปสำหรับการพัฒนาทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน พบว่า ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เฉลี่ยรวมเท่ากับ 0.81 คิดเป็นร้อยละ 81 ซึ่งหมายความว่า ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ยอมรับได้
หลังจากนั้นก็ทำการปรับปรุงตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ และได้ทำการแก้ไขและนำบทเรียนสำเร็จรูปนี้ไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านใหม่ 3 คน โดยแต่ละคนมีความแตกต่างกัน คือ เก่ง ปานกลาง อ่อน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบ กำหนดเกณฑ์ประสิทธิภาพ E1/E2 จะต้องมีค่า 80/80
ซึ่งผลการประเมินบทเรียนสำเร็จรูปมีค่าเท่ากับ 95.93 / 93.33 ซึ่งหมายความว่าประสิทธิภาพของสื่อนวัตกรรมนี้สูงกว่าเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ แสดงว่าสื่อนวัตกรรมนี้สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้จริง
สรุปผล
ผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป สำหรับการพัฒนาทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เฉลี่ยรวมเท่ากับ 0.81 คิดเป็นร้อยละ 81 ซึ่งหมายความว่า ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ยอมรับได้ และประสิทธิภาพของสื่อนวัตกรรม E1 / E2 เท่ากับ 95.93 / 93.33 ซึ่งหมายความว่าประสิทธิภาพของสื่อนวัตกรรมนี้สูงกว่าเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ แสดงว่าสื่อนวัตกรรมนี้สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้จริง
ข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาในครั้งนี้ ผู้จัดทำขอเสนอแนวคิดในการนำบทเรียนสำเร็จรูปไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการสอนซ่อมเสริม ดังนี้
1.จากผลการศึกษาพบว่า บทเรียนสำเร็จรูปนี้สามารถช่วยเพิ่มการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ ดังนั้นก่อนการนำไปใช้ครูผู้สอนควรมีการแนะนำให้กับนักเรียนอย่างละเอียด
2.ครูผู้สอนสามารถนำบทเรียนสำเร็จรูปนี้ไปใช้กับนักเรียนได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น นักเรียนที่การเรียนรู้ช้า นักเรียนที่มีความบกพร่องในเนื้อหาการเรียน สามารถกระตุ้นนักเรียนที่เรียนรู้ดีให้มีความแม่นยำในเนื้อหามากขึ้น
แนวทางการพัฒนาในอนาคต
สำหรับแนวทางในการพัฒนาในอนาคตนั้น จะนำบทเรียนสำเร็จรูปนี้พัฒนาเป็น สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เพราะเป็นสื่อที่มีความหลากหลายผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ดีมากยิ่งขึ้นและทำให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้เทคโนโลยีด้วย
สวัสดี คุณสุวลี เป็นงายบ้าง เข้ามาทักทายบ่ดาย ว่างก็โชว์เบอร์มาเด้อ