การใช้ยาในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนแบบเมือง


ยาในชุมชนเมือง

การใช้ยาในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนแบบเมือง
                                                       


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
                       



เราเภสัชกร ค่อนข้างจะคุ้นเคยและมีความเข้าใจกับระบบยาที่อยู่ในชุมชนค่อนข้าง ทั้งการรับรู้ เรียนรู้ และได้สัมผัสโดยตรงจากการทำงานในชุมชนและเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันอย่างกว้าง ขวางว่า  " งานชุมชน = งานปฐมภูมิ = ลงพื้นที่ = ชนบท = ต่างอำเภอ  " ดังจะเห็นได้จากงานวิจัยและการศึกษาเกี่ยวกับปัญหายาในชุใชนจำนวนมากตั้งแต่ อดีต ยุคเฟื่องฟูของการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบยาในชุมชน จนถึงยุคปัจจุบันที่ปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยายังคงมีอยู่ แต่กระบวนการแก้ไขปัญหาย่ำอยู่กับที่

หลายครั้งการพยายามแก้ไขปัญหาถูกเบือนหน้าหนีด้วยเหตุผลว่า  " งานนี้ไม่รุ่ง ทำไปไม่เกิดประโยชน์ แก้ปัญหาแล้วก็แก้ได้ป๊อปแป๊บ แล้วก็กลับมาอีก เหนื่อย และมีงานอื่นที่สำคัญในห้องยาสำคัญกว่า " ประกอบกับยุคนี้คือยุคเฟื่องฟูของการบริบาลเภสัชกรรม การดูแลผู้ป่วยในหอผู้ป่วยถูกเทน้ำหนักให้ภาระงานของเภสัชกรเข้มมากยิ่งขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งในโรงพยาบาลชุมชนที่เป็นโรงพยาบาลในระดับปฐมภูมิ

กระนั้นก็ดี งานเภสัชกรรมปฐมภูมิก็ยังสามารถดำรงอยู่คู่กับโรงพยาบาลชุมชนมารอย่างต่อ เนื่องแม้ว่าจะไม่เกิดภาพที่ชัดเจนมากนัก จนกลายเป้นจุดเด่นของการทำงานในระดับปฐมภูมิเมื่อเทียบกับเพื่อนสหสาขา วิชาชีพ  อย่างไรก็ตามมีการศึกษาและพบบทสรุปที่ชัดเจนว่า " ชุมชนต้องการเภสัชกร " ร่วมกับแพทย์และพยาบาลอย่างมาก ทั้งจากมุมมองของผู่ป่วย และมุมมองของเพื่อนร่วมสหวิชาชีพ

นั่นคือภาพในชุมชนที่อยู่ต่างอำเภอซึ่งมีภาพที่ค่อนข้างชัด ( ในระดับหนึ่ง ) ว่ากำลังทำอะไรกับงานระดับปฐมภูมิแม้จะยังต้องพัฒากันต่อไป แต่ในชุมชนแบบเมืองจริงๆ โดยเฉพาะเมืองในต่างจังหวัดทั้งจังหวัด เล็กและจังหวัดใหญ่ ที่มีโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลเอกชนและ/หรือโรงพยาบาลโรคเฉพาะทางตั้งอยู่ กลับพบว่างานเภสัชกรรปฐมภูมิได้ถูกทำความเข้าใจโดยเภสัชกรในโรงพยาบาลขนาด ดังกล่าวน้อยมาก ด้วยเหตุผล " ไม่ใช่งานในระดับทุติยภูมิ ไม่ใช่งานตติยภูมิ ไม่ใช่งานเฉพาะทางที่เภสัชกรจังหวัดต้องทำ และไม่มีเวลามาก ลำพังในห้องจ่ายยา หอผู้ป่วยก็ล้นแล้ว หรือ แม้กระทะ่งผู้บริหารหรือหัวหน้าห้องยาไม่มีความเข้าใจและไม่รับรู้ถึงความจำ เป้นของงานเภสัชกรรมปฐมภูมิในแบบชุมชนเมือง "

ในการศึกษาปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยาในชุมชนของนักวิชาชีพต่างๆ  แทบจะไม่พบว่ามีงานการศึกษาใดเลยที่ให้ความสนใจกับการใช้ยาในชุมชนแบบเมือง และงานบางชิ้นที่มีอยู่กลับเป็นงานเฉพาะด้านที่เจาะลึกถึงแนวทาง วิธีใช้และผลข้างเคียง( side effect )ชองยาแต่ละตัวมากกว่า  การปฏิเสธว่า " ปัญหาการใช้ยาในชุมชนเมือง " ไม่มีปัญหานั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ความจริงสักเท่าไหร่ และการจะยกเอารูปแบบ พฤติกรรมและแนวทางการแก้ไขปัญหายาในชุมชนของภาคชนบทมาใช้กับชุมชนในเมือง นั้นก็ดูเหมือนว่าน่าจะเพียงแค่พอดูเป็นแนวทางได้เท่านั้น เพราะความซับซ้อนและรูปแบบของปัญหายาในชุมชนเมืองมีความแตกต่างอย่างชัดเจน กับปัญหายาในชุมชนแบบชนบท


กระนั้นก็ดีจากการทบทวนการศึกษาต่างๆจะพบว่ามีการพยายามทำความเข้าใจและการ ลงมือในภาคปฏิบัติอย่างจริงจังนั้นได้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปร่างที่ชัดเจน บ้างแล้วในโรงพยาบาลระดับจังหวัดของ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี พิษณุโลก แพร่ เป็นต้น แต่ก้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเรียนรู้และพัฒฯาระบบงานซึ่งยังคงมีความหลาก หลายในรูปแบบการดำเนินงาน

การได้มีข้อมูลและรับรู้ถึงรูปแบบของปัญหายาในชุมชนแบบเมืองนั้น          น่าจะช่วยให้รูปแบบการดำเนินงาน เพื่อแก้ไขปัญหายาในชุมชนนั้นมีความชัดเจนและตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น   อย่างน้อยที่สุดการได้รับรู้เบื้องหลังวิธีคิดของคนในชุมชนแบบเมืองว่ามีแรง จูงใจในการใช้ยาและการดูแลสุขภาพอย่างไรนั้น  ก้น่าจะพอที่จะช่วยให้เภสัชกรปฐมภูมิที่กำลังริรเิ่มดำเนินงานในส่าวนที่รับ ผิดชอบเห็นภาพของชุมชนเมืองได้ชัดเจนมากกว่าเดิม มากกว่าการลงพื้นที่ ออกศูนย์บริการสุขภาพชุมชน-PCU  เพียงเพื่อไปนั่งจ่ายยา จัดสต๊อคยาเพียงเท่านั้น

หมายเลขบันทึก: 366898เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2010 13:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2012 13:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท