สรรพคุณของมะรุม…...เป็นเพียงกระแสหรือความจริง
ศุภฤกษ์ ภมรรัตนปัญญา
มะรุม พืชสมุนไพรที่กำลังมาแรงในกระแสนิยมของสมุนไพรไทย ซึ่งมีสรรพคุณอันดียิ่งนั้นตามการโฆษณาของการแพทย์ทางเลือกด้านต่างๆ ที่เลือกที่จะเอามะรุมมาเป็นตัวชูโรงในการใช้เป็นยาขนานเอกในการรักษาโรค แต่อีกด้านของวงการแพทย์สมัยใหม่นั้นก็มีข้อ วิจารณ์ออกมาในต่างๆ มากมายซึ่งมีทั้งด้านสนับสนุนและต่อต้านว่าเป็นเพียงกระแสนิยมเพียงเท่านั้น
มะรุมเป็นพืชที่มีกล่าวในเรื่องของสรรพคุณของสมุนไทยอยู่ในตำราหลายๆตำราของไทย ทั้งในด้านการเป็นยาอายุวัฒนะ ยาบำรุงร่างกาย ยากระตุ้นการทำงานของการสืบพันธุ์ และใช้ในการรักษาโรคอื่นๆ อีกมากมาย แต่นั้นก็เป็นเพียงตำราที่กล่าวไว้ในตำราแล้วมีการส่งต่อมาโดยบรรพบุรุษ ซึ่งยังขาดการทดสอบสรรพคุณว่ามีผลจริงดังที่กล่าวไว้หรือไม่ ในปัจจุบันจึงมีนักวิจัยหลายๆสาขาวิชามาให้ความสนใจในเรื่องของมะรุม เข้ามาทำการทดลองทดสอบสรรพคุณเพื่อใช้ในการรับรองของเอกสารตำรายาเหล่านั้น และเพื่อให้เกิดประสิทธิผลต่อวงการสมุนไพรของไทย
แต่ก็ยังไม่มีการรับรองทางวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอนว่ามะรุมนั้นมีสรรพคุณดังกล่าวมานั้นหรือไม่ตามที่โฆษณา แต่ตามหลักสรรพคุณสมุนไพรของทางการแพทย์แผนไทยมะรุมมีสรรพคุณในการรักษาโรคในตำราแพทย์แผนไทยมาโดยช้านานแล้ว
มะรุม มีสรรพคุณตามตำราการแพทย์แผนไทย คือ ใบ มีสรรพคุณ เป็นยาระบายอ่อนๆ เบาเทาอาการท้องผูก ล้างลำไส้ แก้ฝีทั้งปวง เม็ดแห้ง มีสรรพคุณ รักษาอาการของโรคภูมิแพ้ บำบัดเลือดเสีย น้ำเหลืองเสีย ยาอายุวัฒนะ เปลือกต้น มีสรรพคุณ ต้มน้ำอาบช่วยบรรเทาอาการผดฝืนคัน แผลติดเชื้อตามผิวหนัง แก่นต้น มีสรรพคุณ แก้ไข้ ทำมะลา ใช้ฝนกับน้ำมะนาวกัดเสมหะ ใช้ฝนกันแก่นต้นชิงชันบรรเทาอาการฝีในกระดูก เป็นสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนไทยที่มีการสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น แต่อาจจะมีหมอพื้นบ้านหรือหมอแผนไทยท่านอื่น ใช้ผสมในสูตรตำรับนาอื่นทำให้มีสรรพคุณแตกต่างกันไป
มะรุมจึงเป็นพืชสมุนไพรที่มีการยืนยันจริง ว่ามีการใช้ในการรักษาโรคต่างๆ มาอย่างช้านานจึงเป็นที่แน่ใจได้ในระดับหนึ่งว่า มะรุมเป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้รักษาโรคต่างๆ ได้จริงแต่ทั้งนี้มะรุมก็มีข้ออันตรายอีกเช่นกันในการรับประทาน เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้อาจจะมีอาการของผื่นขึ้นทั่วตัว ตามหลักแพทย์แผนไทยเชื่อว่า เป็นการขับโรคออกด้านนอกแต่จะขึ้นอยู่เพียงสามวันนั้น ถ้ามีอาการของผื่นเกินกว่าสามวันแสดงว่าเป็นอาการแพ้สมุนไพรให้หยุดรับประทานในทันที แล้วปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป มะรุมจึงมีทั่งข้อดีข้อเสียฉะนั้นแล้วก่อนที่จะเลือกที่จะนำเอามะรุมมาใช้ในการบำบัดรักษาอาการของท่านจึงควรจะศึกษาหาข้อมูลที่จะอาจจะเกิดต่อโรคที่ท่านเป็นอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ ไม่เช่นนั้นอาการของท่านอาจจะมีเพิ่มมากขึ้นกว่าโรคเดิมได้หากท่านละเลยที่ทำการศึกษา เสียก่อนว่ามีผลกระทบหรือไม่
สรรพคุณที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงสรรพคุณที่ได้บันทึกไว้ในตำราแพทย์แผนไทยแต่ยังไม่มีการรับรองทั่งวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่ามะรุมมีสรรพคุณดังกล่าว ผู้ที่สนใจจะทดลองใช้มะรุมในการรักษาจึงควรคิดวิเคราะห์เละปรึกษาผู้เชียวชาญเพื่อให้เกินประสิทธิผลในการรักษามากที่สุด
ไม่มีความเห็น