โบราณวัตถุพบใหม่... กับตำนานเมืองล่มแห่ง "บึงทุ่งกะโล่" : ตอนที่ ๓


บันทึกเอาไว้ ก่อนจะสูญหายไปกับกาลเวลา....

วันหนึ่ง

ในเช้าปลายเดือนพฤษภาคม ๕๓ ลุงผู้เลี้ยงวัวแห่งบ้านห้วยบง

ได้ต้อนกลุ่มวัวที่ครอบครัวของลุงเลี้ยงไว้ ไปหากินหญ้าในบึงเก่าที่พึ่งแตกใบ หลังถูกเพลิงผลาญไปไม่นาน

 

ลุงต้อนวัวไป ดูบึงเก่าไป ด้วยใจที่ไม่ปกติ

บึงน้ำได้หายไปแล้ว เหลือแต่ตมโคลนแห้งผาก  


"ทำอะไรดี ทำนา ทำไร่ เอาวัวมาปล่อยทิ้งแถวนี้เลยดีไหม เอ๊ะ! หรือจะมาสร้างเพิงทำบ้านแถวนี้ดี ไกลผู้คน วัวหากินสบาย ไม่ต้องแย่งกะวัวคนอื่น ฯลฯ"

http://lh6.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41K3TUE0I/AAAAAAAAHOo/hU8kBa-4LMI/s512/DSCF1673.jpg

ลุงคนนี้คิดสะระตะไปเรื่อย ทั้ง ๆ ที่บางอย่างมันเป็นไปไม่ได้ แต่ลุงก็คิด เพื่อไม่ให้ใจลุงกังวลและ "กลัว" เพราะกลางบึงกะโล่แห่งนี้ มัน คือที่สถิตย์แห่งตำนานอาถรรพ์

และลุงก็ได้ก้าวเข้ามาในดินแดนอาถรรพ์แห่งนั้นแล้ว

เพียงแต่ตอนนี้มันไม่มีกำแพงแห่งตำนาน คือกกอ้อที่ขวางกั้น

 

"มีแต่ทุ่ง กับทุ่ง ทุ่ง จริง ๆ ทุ่งกะโล่ ตอนนี้ไม่ควรเรียงบึง เรียกทุ่งดีกว่า"

 

กลุ่มวัวคงเดินต่อไป เดินไปสู่กลางใจบึงเก่า

วันนั้น ลุงไม่ได้ต้อน ไม่ได้นำ แค่เป็นผู้ตามวัวที่ดี

 

"รอบ ๆ บึงมันก็มีหญ้าใบอ่อนแตกขึ้น มันพาเข้ามาทำอะไรกลางบึง... มีแต่ซากต้นกกอ้อ"

 

ทันใดนั้น กลุ่มวัวได้หยุดลงและเดินวนไปมา

ลุงเลี้ยงวัีวตามมา และได้พบกับสิ่งนี้

http://lh6.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41Lm_tG1I/AAAAAAAAHOs/o69HHPUL-Ao/s512/DSCF1708.jpg

 

กลุ่มเสา เสาอะไร?

http://lh5.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41R5u7JVI/AAAAAAAAHPE/gI5eyOqpySc/s512/DSCF1695.jpg

http://lh4.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA56MV_MkUI/AAAAAAAAHPc/mVDakmRVt4w/s512/DSCF1705.jpg

(ข้าวของเครื่องใช้โบราณ ที่ลุงพบวางอยู่บนพื้นบ้าง จมอยู่บ้าง ปัจจุบันนำมาเก็บรักษาที่วัดทุ่งเศรษฐี)

 

http://lh4.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41BQUQOYI/AAAAAAAAHOA/UPKsyOQHYzE/DSCF1629.jpg

http://lh3.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41FETE23I/AAAAAAAAHOQ/iiHKfFkkZNY/DSCF1638.jpg

http://lh5.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41AMruZWI/AAAAAAAAHN4/KkP1RleNP-I/s512/DSCF1623.jpg

เรื่องพบของและสิ่งปลูกสร้างโบราณได้กระจายไปทั่วหมู่บ้าน

ต่างคนต่างพากันมาดู และขุดคุ้ยสถานที่แห่งนี้

 

บ้างเชื่อว่า เป็นเมืองโบราณในตำนาน บ้างก็ว่า เป็นวัดโบราณ
แต่ที่ ประหลาดก็คือ ทำไมข้าวของเหล่านี้จึงมาอยู่ในที่ ๆ เป็นกลางบึงโบราณ ที่ไม่น่าอยู่แห่งนี้ และทำไมต้องมาอยู่รอบ ๆ กลุ่มเสาไม้โบราณด้วย

http://lh3.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41JByIZGI/AAAAAAAAHOg/MERjOcNH-uw/DSCF1652.jpg

http://lh3.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41GNI05eI/AAAAAAAAHOU/JY-EPXOXeFs/s576/DSCF1643.jpg

ด้วยตำนาน เรื่องราวเล่าขาน บางคนบอกว่า นี่คือที่ตั้งเมืองโบราณที่สูญหาย ตำนานแห่งเมืองกะโล่ ที่ถูกค้นพบใหม่

 

http://lh3.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41HLisrEI/AAAAAAAAHOY/ZRn3ni3yO3I/s512/DSCF1644.jpg

 

แต่บางคนไม่สนใจ พบข้าวของก็นำกลับไปบ้านหวังเอาเป็นของตัว

เหลือแต่ของแตกหักไว้ที่วัดทุ่งเศรษฐี วัดน้อยริมบึง วัดประจำหมู่บ้านห้วยบง ตำบลป่าเซ่า

 

"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวรู้ดีกันเอง" เสียงบ่นของผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน ที่ไม่เห็นด้วยกับการนำวัตถุโบราณของชาติไปเป็นสมบัติส่วนตัว

ตกดึกคืนนั้น ทุกคนที่นำของเก่ากลับบ้าน ต่างเจอ "ของดี" กันทุกคน

 

และแล้ว วัดทุ่งเศรษฐี ก็เต็มไปด้วยของโบราณสภาพสมบูรณ์ที่ถูกนำมา "คืน" ให้ส่วนรวม นับพันชิ้น

ที่จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้า "..บางสิ่ง.." ไม่ไปบอกให้เห็นกับตัว

ขันพูดได้ กระบวยพูดเป็น

ผีหลอกยกหมู่บ้าน?

http://lh6.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41DifZ6XI/AAAAAAAAHOI/KspZirQwPoA/DSCF1634.jpg

สิ่งที่ชาวบ้านนำมาคืน มีทั้งถาด ถ้วย กระบวยโบราณ ตลับ หม้อดิน ภาชนะโลหะ และ "ทองคำ"

พร้อม ๆ กับ ความสามัคคีของชาวบ้านห้วยบง ที่พร้อมใจกันยกสมบัตินี้ให้แก่ส่วนรวม

ความต้องการของชาวบ้านที่จะมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงอย่างเป็นสัดส่วน และการพร้อมใจกันสร้างตู้จัดแสดงวัตถุโบราณ ด้วยฝีมือของคนในหมู่บ้านภายในเวลาเพียงวันเดียว

แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการปกปักษ์รักษาสมบัติของชาตินี้ให้คงอยู่ ตลอดไป

 

http://lh4.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41Eux7RdI/AAAAAAAAHOM/AExlQyTgdSU/s512/DSCF1637.jpg

http://lh4.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41AxYuQnI/AAAAAAAAHN8/24tQlAQenjc/DSCF1628.jpg


สิ่งของโบราณและความสามัคคีของชาวบ้าน จึงมาพร้อมกัน เพื่อต้อนรับผู้คนจากทั่วสารทิศ ที่ปรารถนามาดู มาชม มาดม มามอง ขอเลข ขอเบอร์ กับของโบราณพบใหม่เหล่านี้ไปตามประสา


รวมทั้งนักข่าว

และ

"เจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร"

ศัตรูตัวฉกาจในสำนึกของชาวอุตรดิตถ์รุ่นเก่า ที่ยังคงแค้นใจไม่หายที่นำพระฝางไปกรุงเทพ และยังไม่นำมาคืน

(จากหลักฐานในประวัติศาสตร์นั้น ในปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีการอัญเชิญพระฝางไปประดิษฐานไว้กรุงเทพ ไม่ใช่โดยกรมศิลปากร แต่ด้วยสำนึกของชาวบ้าน ก็โทษว่า "หลวง" เอาไป และในปัจจุบัน "หลวง" ที่ว่า ก็คือ "ศิลปากร" ศิลปากรจึงตกเป็นแพะรับบาปไปโดยปริยาย)

ด้วยเหตุนี้เองกระมัง ที่ทำให้ ชาวบ้านปิดกั้น ไม่ยอมเปิดเผยตำแหน่งที่ค้นพบวัตถุโบราณแก่เจ้าหน้าที่ อันจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการขุดค้นทางโบราณคดีที่ถูกต้อง และค้นพบ "ข้อเท็จจริง" ใหม่ ๆ ที่อาจเป็นคำตอบของตำนานเมืองล่มโบราณได้ชัดเจนกว่านี้

 

http://lh3.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41KBl8wKI/AAAAAAAAHOk/oAVX5isUekQ/s512/DSCF1667.jpg

ตำนานคือเรื่องในอดีต แต่สิ่งที่ปรากฎในวันนี้ มันคือปัจจุบัน และ ด้วย การปิดกั้นอันเกิดจากความเชื่ออีกนั่นเอง ที่อาจจะทำให้เมืองโบราณพบใหม่ จะยังคงกลายเป็นตำนานต่อไปในอนาคต

 

ตอบสนองความเชื่อด้วยความเชื่อ = ปิดกั้นความจริงด้วยความเชื่อ ?

สืบทอดเรื่องราวเล่าขานต่อไปอีกนานเท่านาน

http://lh4.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41IFd5eVI/AAAAAAAAHOc/f3Od4SV_pBE/s576/DSCF1650.jpg

 

แต่นั่นก็คุ้มไม่ใช่หรือ

ถ้าจะทำให้ชาวบ้าน ยังคงมีความ "เคารพ" และ "ยำเกรง"
ใน สิ่งที่ "มองไม่เห็น"

และไม่กล้า รวมทั้งไม่ยอมให้มีใคร
เข้าไปทำการ "ละเมิด" สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา


ที่เป็นทั้งแหล่งน้ำ แหล่งที่อยู่อาศัยทางธรรมชาติของสรรพชีวิต
ที่ไม่ปรารถนาการถูกรบกวนจากผู้คน
ผู้กระหายและทำลายทรัพยากรอย่างบ้าคลั่ง
...

 


 

 

 

หลังเพลิงพลาญและการค้นพบเมืองโบราณแห่งนี้


ความแตกตื่นตกใจ มงคลตื่นข่าว การเล่าืลือทั่วสารทิศ
ที่กำลังจะตามมาด้วย... ความเงียบหาย และความหลงลืมของผู้คนในเรื่องราวเหล่านี้ ในอีกไม่นาน...

 

เดือนมิถุนายน

ฝนแรก ได้ตั้งเค้าทะมึนขึ้น และตกลงยังเบื้องพสุธาภาคบึงทุ่งกะโล่ ตามธรรมชาติของมัน

http://lh3.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41P3rt4oI/AAAAAAAAHO8/2DHDWlu1zrM/DSCF1725.jpg

จุดเริ่มต้นนับหนึ่ง ของ "บึงทุ่งกะโล่" อีกครั้ง

เป็นจุดเริ่มต้น "ขอคืนพื้นที่" ของธรรมชาติ ให้แก่สัตว์ทั้งปวงในอนาคต ที่จะมาอาศัยสถานที่แห่งนี้ดำรงเผ่าพันธ์ของมันต่อไป

 

และฝนนั่น คงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการก่อรูปกำแพงธรรมชาติ กำแพงแห่งอาถรรพ์ ที่กำลังจะขึ้นมาบดบังเมืองโบราณแห่งนี้ ให้คงเป็นเมืองลี้ลับลึกลับ "ที่มีหลักฐานยืนยัน"... ให้ชาวบ้านเล่าขานสืบไป อีกชั่วกาลนาน...

http://lh6.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41PN8DNnI/AAAAAAAAHO0/91yEyv7xC54/DSCF1718.jpg

- โบราณวัตถุพบใหม่... กับตำนานเมืองล่มแห่ง "บึงทุ่งกะโล่" : ตอนที่ ๑

- โบราณวัตถุพบใหม่... กับตำนานเมืองล่มแห่ง "บึงทุ่งกะโล่" : ตอนที่ ๒

- โบราณวัตถุพบใหม่... กับตำนานเมืองล่มแห่ง "บึงทุ่งกะโล่" : ตอนที่ ๓


 

ผู้เขียน นับว่ามีโอกาสดี ที่เป็นคนใกล้เคียงหมู่บ้านแถบนั้น

จึง มี "สิทธิ์" ที่จะเดินเข้าไปดู "เมืองล่มในตำนาน" ได้ด้วยตาตนเอง

และนำภาพ พร้อมเรื่องเล่าเรื่องราว มาเล่าขานให้ฟัง...

จงอย่าพึ่งเชื่อ ถ้ายังไม่ได้ไปเห็นด้วยตาตนเองครับผม!

 


กิตติกรรมประกาศ
บุคคล

http://lh6.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41DEajGAI/AAAAAAAAHOE/GXBGP9v8sko/s512/DSCF1632.jpg  http://lh6.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41K3TUE0I/AAAAAAAAHOo/hU8kBa-4LMI/s512/DSCF1673.jpg
อาพ่อบอล    ลุงคนเลี้ยงวัว

เจ้าของเนื้อหาหลักและตัวละครในเรื่องเล่าครั้งนี้ครับ


กิตติกรรมประกาศ
ภาพประกอบ

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/88/Nan_river_in_Uttaradit.jpg/640px-Nan_river_in_Uttaradit.jpg 

(ภาพ: แม่น้ำน่าน จากวิกิคอมมอนส์ โดย ผู้ใช้:Tevaprapas)

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/a/aa/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%28%E0%B8%9A%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%88%292.JPG/640px-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%28%E0%B8%9A%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%88%292.JPG

http://lh3.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TA41Pjv2C0I/AAAAAAAAHO4/mQXlxXAyoRk/20090906_c2bbb2f54dcf4885a6af7H9Guwe9g06v.jpg

(ภาพ: บึงทุ่งกะโล่ยามเย็น จากเว็บไซต์มองผ่านเลนส์-ชมรมนักถ่ายภาพจังหวัดอุตรดิตถ์ โดย ผู้ ใช้:ป้อม)

http://www.bloggang.com/data/nok-sukhothai/picture/1215422811.jpghttp://www.bloggang.com/data/nok-sukhothai/picture/1215423360.jpg

(ภาพ: ชีวิตในบึงทุ่งกะโล่ยามน้ำท่วมกกอ้อทุ่ง จากเว็บไซต์ bloggang.com โดย ผู้ใช้:นกสุโขทัย)

 

(ภาพที่ ไม่ได้ระบุที่มาข้างต้น ผู้เขียนเป็นผู้ถ่ายด้วยตนเอง)

 


ดูแผนที่ และภาพถ่ายทางอากาศของที่ตั้งเมืองในตำนานบึงกะโล่ ชัดเจน ตรงจุด ด้วยพิกัด GPS ที่ผู้เขียนอุตสาห์แบกแหกพงอ้อไป ใน กู เกิลแมป

 

 


ข้อมูลรายละเอียดข่าว-

 

สำนักข่าวไทย. (2553). นักโบราณคดีพิสูจน์เครื่องปั้นดินเผาบึงกะโล่. [ออน-ไลน์]. แหล่งข้อมูล : http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/62967.html

โทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7. (2553). พบเครื่องสังคโลกโบราณโผล่กลางบึงทุ่งกะโล่. [ออน-ไลน์]. แหล่งข้อมูล : http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=86580

โทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7. (2553). พบเครื่องเครื่องสัมริด เพิ่มในบึงทุ่งกะโล่ จังหวัดอุตรดิตถ์. [ออน-ไลน์]. แหล่งข้อมูล : http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=86733

โทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7. (2553). ธนาคารน้ำ "บึงทุ่งกะโล่" แล้งหนัก. [ออน-ไลน์]. แหล่งข้อมูล : http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=87034


 

 

Webstats4U - Free web site statistics

หมายเลขบันทึก: 365106เขียนเมื่อ 8 มิถุนายน 2010 22:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 10:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เห็นในทีวีเลยตามมาดู ขอบคุณมากค่ะ

เสาวนีย์ แย้มกลิ่น

สวัสดีค่ะ

ได้อ่านเรื่องราวแล้วอยากกลับบ้านมากเลย เพราะบ้านอยู่ที่ ทับใหม่อยู่ในโรงเรียนเลยไม่รู้ว่าคนเขียนจะรู้จักหรือเปล่า คือว่าหนูเป็นลูกสาวภารโรง โรงเรียนบ้านทับใหม่ พ่อกับแม่ก็โทรมาเล่าให้ฟัง เพราะเมื่อตอนสงกรานย์ยังไปที่บึงทุ่งกะโล่อยู่ แม่ก็ชี้ให้ดูที่ดินของวัดที่อยู่ ในบึงบุ่งกะโล่ เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่า บึงมีขนาดถึง 8000 ไร่ อยากไปดู แต่ติดที่ว่าตอนนี้ทำงานอยู่ที่ สมุทรปราการ

ยังงัยถ้ามีรูปอีกส่งมาได้ตาม อีเมลย์ เลยนะคะ อยากเห็นเพราะเชื่อง่าเมืองโบราณมีอยู่จริง กว่าจะกลับบ้านน้ำคงท่วมหมดแล้ว..

สวัสดีครับ

น่าดูน่าติดตามมากเลยครับ

ได้ยินตำนานเมืองล่มมาบ้าง

แต่ที่อุตรดิตถ์เพิ่งได้ยินครับ

ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ เพราะว่าผมเกิดที่นั่น มีความครัวที่อบอุ่นอยู่ที่นั่น

ตั้งแต่เกิดมา ก้อเห็นคนในหมู่บ้านไม่เคยซื้อกับข้าวมาประกอบอาหารแม้แต่ครั้วเดียว เพราะแต่ก่อนอุดมสมบูรณ์มากครับ น่าฝน ไม่ต้องไปหาจับปลาไกลเลย เพราะน้ำจะใหลผ่านใต้ถุนบ้าน ปลา ก้อขึ้มมาให้จับ ชาวบ้านส่วนประกอบอาชีพ ต้มเหล้าเถื่อนขาย(เมื่อก่อนนะครับ) มอเตอร์ไซด์ยังเข้ามายากเลยครับ ไม่ใช่บ้านนอกนะครับ ห่างจากตัวเมืองไม่ถึงสิบกิโล แต่คล้ายๆเป็นที่ลับตาคนครับ

บึงกะโล่แต่ก่อนเรียกว่า ศาลาแดง เพราะผมยังเห็น ศาลา เก่าแก่ ที่เหลือแต่เสา อยู่กลางน้ำ ต้องใช้เรือ อย่างเดียว

แต่เมื่อตอนผมอยู่ประถมปีที่สอง สมเด็จพระเทพเสด็จมาที่หมู่บ้าน จากนั้นก้อมีคนรู้จักมากขึ้น อะรัยๆ ก้อเปลี่ยนไปมากขึ้น มีคนย้ายเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านเยอะขึ้น แต่การเป็นอยู่ก้อไม่ได้ดีขึ้นเลยนะครับ เปลี่ยนไปเยอะมาก เริ่มมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกันมาขึ้น

ขอบอกตรงๆนะครับรูปที่เห็นกันข้างบนนี้ถ้าเปรียบกับเมื่อ 15 ปี ที่แล้ว รับรองว่า คุณๆจะต้องถามว่า ที่ประเทศไทยยังมีอยู่เหรอ

l

สวัสดีค่ะ

หนูก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นลูกหลานปู่โล่ค่ะ

เกิดที่นั้นและก็โตที่นั้น

แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะต้องเรียนต่างจังหวัด

หนูได้อ่านแล้วคิดถึงบ้านจังเลยค่ะ

หนูอยากทราบชื่อผู้จัดทำ

เพราะว่าทำออกมาได้น่าสนใจและมีคุณภาพมากค่ะ

ถึงเวลาแล้ว....ที่กำแพงธรรมชาติ กำแพงแห่งอาถรรพ์ กำลังจะขึ้นมาบดบังเมืองโบราณแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง ให้คงเป็นเมืองลี้ลับลึกลับ ....แต่คงจะไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วเพราะว่าน้ำในบึงกะโล่จะต้องแห้งทุก ๆ ปี ...

ฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เกิดมาและโตมาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในบึงกะโล่ตลอดเวลา....และเชื่ออยู่ตลอดเวลาว่าในบึงกะโล่ของเราต้องมีสมบัติที่มีค่าอยู่จำนวนมาก เนื่องจากได้ฟังจากคนเฒ่าคนแก่ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟังมามากมาย....ว่าเมื่อก่อนเคยมีเรือสำเภาแล่นเข้ามาค้าขายและพักค้างแรมอยู่ในบึงแล้วเรือก็เกิดล่มขึ้นมา...

และในยามค่ำคืนที่ดึกสงัด...ฉันยังเคยได้ยินเสียงบรรเลงปี่ พาทย์ ระนาด คล้าย ๆ กับเสียงเครื่องดนตรีไทยที่อยู่ในวังหลวง.....ดังขึ้นมา....ดังบรรเลงลอยมากับสายลมเป็นระยะ ๆ

และในระยะเวลาวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็มักจะเห็นลูกไฟสีแดงขนาดใหญ่ ลอยปรากฎขึ้นบริเวณกลางบึงกะโล่ คนเฒ่าคนแก่บอกว่าเป็นดวงวิญญาณของสิ่งที่เรามองไม่เห็นในบึงกะโล่

เมื่อก่อนบรรดาพ่อแม่ ของฉันและชาวบ้านในหมู่บ้านยังเคยเข้าไปต้มเหล้าเถื่อนในบึงกะโล่กันอยู่...ได้เข้าไปโดยที่เท้าไม่เคยแตะถึงพื้นดินในบึงกะโล่เพราะว่าน้ำท่วมแล้วยังมีบรรดาหญ้าทั้งหลายขึ้นกันเป็นแพเต็มไปหมดบนพื้นน้ำ...ต้องอาศัยการแหวกหญ้าเป็นปล่อง ๆ เพื่อให้ถ่อเรือเข้าไปได้ถึงใจกลางบึงกะโล่....และน่าแปลกที่พบต้นโพธิ์ขึ้นอยู่กลางบึงกะโล่ ชาวบ้านเรียกว่าไดโพธิ์

ในวันที่พบวัตถุโบราณฉันก็ยังได้เห็นโพธิ์ต้นนี้อยู่...แต่เห็นเพียงแต่เหลือเป็นตอและรากเท่านั้น เนื่องจากย่อมเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา

ภูมิใจที่วัตถุโบราณได้ปรากฎขึ้นมาให้ลูกหลานของเราได้เห็นกัน...

พ.ต.ท.จิรพัฒน์ ศรีสุข

กระผมลูกพระยาพิชัยดาบหัก บ้านอยู่บุ่งวังงิ้ว ตรงข้ามตลาดอุจรดิตถ์ สมัยผมเด็กๆได้ไลงเบ็ดตกปลา เก็บฝักบัว รับจ้างเกี่ยวข้าวในท้องนาที่ติดกับทุ่งกะโล่ ทุกอย่างเป็นธรรมชาติมาก ในน้ำมีปลาในนามีข้าวตามที่เล่าขานจริงๆ เคยได้ยินผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่า อดีตทุ่งกะโล่คือเมืองหรือนคร ต่อมาเกิดปัญหาจึงทำให้เกิดน้ำท่วมเมืองหรืออย่างไรนี่แหละ ก็จไม่ค่อยได้แล้ว(ตั้งแต่เด็กมากๆครับ) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของทุ่งนี้ก็ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันดูแลให้เป็นสมบัติของชาติของลูกหลานชาวอุตรดิตถ์ชั่วกาลตลอดไปครับ

ไปดูมาแล้วค่ะ แปลกมากๆ ตระกล้าหมาก ปูนกินหมากที่จริงมันน่าจะแห้ง แต่กลับมีน้ำเหมือนเขาใช้กินอยู่ตลอด

แม่โทรบอกพี่สาวไปดู แต่ตอนที่ไปอ่ะ เขาเอาไปไว้ที่วัดแล้ว เหลือแต่บ่อ ที่มีน้ำขัง พอพี่สาวไปถึงปากบ่อ มีก้อนหินโยนมาที่กลางบึง ดังพอสมควร พอหันไปกลับไม่มีคัยเลย พี่สาวยกมือไหว้ รีบกลับเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท