เข้าวัดทำไม


สืบเนื่องจากวันวิสาขบูชา  ผู้คนจำนวนมากต่างเข้าวัดทำบุญ เช้าทำบุญตักบาตร  เย็นไปเวียนเทียน  หลายคนตั้งคำถาม เข้าวัดทำไม

บางคนที่มาวัด เข้ามากราบพระในศาลา ชมว่าที่นี่ร่มรื่นดี น่าอยู่ เสร็จแล้วก็กราบลากลับบ้าน เขาได้บุญไหม คงได้เหมือนกัน แต่เสียดายว่าไม่ได้มากกว่านั้น

                ประโยชน์ประการแรกที่เกิดจากการเข้าวัดป่า คือ การสัมผัสกับธรรมชาติ มองไปทางไหนไม่มีป้ายโฆษณา ไม่มีสิ่งใดบาดตา หรือกระตุ้นกิเลส กายกับใจรู้สึกเย็นลงทันที แค่นี้ก็เป็นบุญแล้ว แต่ในระยะยาวคงจะมีผลต่อชีวิตน้อย ดังนั้น ถวายทานแล้ว หลวงพ่อประธานสงฆ์ให้ไปสนทนาธรรมกับท่านบ้างก็ดี สนทนาไม่เป็นขอท่านเมตตาให้ธรระสักข้อหนึ่งก็ได้ ท่านไม่ว่างหรือเราไม่กล้าจริงๆ ก็ไปหาที่เงียบแล้วนั่งสมาธิสักเล็กน้อยก่อนกลับ เข้าวัดอย่างนี้ ครูบาอาจารย์ท่านชื่นใจ

                เข้ามาในวัดคือเข้าในแดนอภัยทาน เป็นที่ปลอดจากการเอารัดเอาเปรียบกัน เป็นที่ๆ ไม่ต้องมีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน อยู่วัดไม่ต้องแข่งขันกับใคร ไม่ต้องระแวงใคร ไม่ต้องยุ่ง  สังคมไทยโชคดีที่มีที่ประเสริฐอย่างนี้  เป็นที่ที่สนับสนุนส่วนที่ดีของมนุษย์ และเป็นที่ชุมนุมของคนดีและผู้ที่ต้องการเพิ่มความดีของตน

                ถึงจะมีเวลาจำกัด เข้าวัดแล้วไม่ต้องรีบ วันหนึ่งอย่ามีรายการแน่นเกินไป คนบางคน ไปทำบุญถึงสิบวัดก็มี

                บุญ คือ ชื่อของความสุข  และอย่าลืมว่าการเดินทางแสวงบุญไม่ใช่การไปหาสิ่งนอกตัวเรา ที่แท้เป็นการแสวงหาโอกาสบำรุงบุญซึ่งอยู่ในใจเราตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทาง

                วัดเป็นที่อยู่ของสงฆ์ เข้าวัดแล้วให้สังเกตความเรียบร้อย ความสะอาดสะอ้าน ดูความสำรวมของพระภิกษุสามเณร ระลึกว่ายังมีผู้มุ่งมั่นในชีวิตพรหมจรรย์เพื่อประโยชน์ตนและผู้อื่นเหมือนสมัยก่อน ยังไม่เสื่อม น่าเลื่อมใส  พิจารณาว่าท่านกำลังสืบต่ออายุของบรมพระพุทธศาสนา  แล้วเราทำบุญกับท่าน เราก็มีส่วนในการบำรุงพระศาสนาเหมือนกัน  คิดถูกทางแล้วจะเกิดปิติ ได้ธรรมะข้อใดก็ตั้งใจฟัง และพยายามจำไว้ เพื่อเป็นของดีติดตัวกลับบ้าน

                ในพระพุทะศาสนา  เราทุกคนต้องเป็นนักศึกษา การศึกษาคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น  ก็คือการตั้งใจศึกษาเรื่องของเราเอง เพราะพระธรรมของพระองค์ทั้งหมด ทั้งสิ้นมีความมุ่งมั่นอยู่แต่ในเรื่อง คือ หนึ่งการเปิดเผยธรรมชาติของมนุษย์ และสอง การชี้แนะแนวทางปฏิบัติต่อธรรมชาตินั้นให้ถูกต้อง เพื่อการพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง ......สองเรื่องเท่านั้น

                เราเกิดเป็นมนุษย์และเป็นพุทธมามกะแล้ว เราค้นคว้าเรื่องความเป็นมนุษย์ของเราบ้างน่าจะดี เหตุผลก็คือ เราไม่อยากเป็นทุกข์ ก็ต้องฝึกการปฏิบัติธรรมชาติทั้งภายนอกและภายในด้วยปัญญา เพื่อไม่ให้เป็นทุกข์ เพราะชีวิตเราจะปลอดทุกข์เองโดยไม่ต้องปฏิบัติ เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เราต้องสนใจศึกษาธรรมะ

                ธรรมะไม่ได้เกิดอยู่ที่อื่นไกล หากเกิดที่กาย ที่วาจา ที่ใจของเราแตะละคน แต่เราจะน้อมธรรมะเข้ามาสู่ใจเพื่อประโยชน์สุขของตัวเรา ครอบครัว และสังคมที่เราอยู่อาศัย ไม่ใช่ของง่ายเลย ต้องฝืนความเคยชินและนิสัยเก่าพอสมควร ในเบื้องต้น เรายังอ่อน ต้องการกำลังใจจากข้างนอกค่อนข้างมาก และเพื่อให้ความมั่นใจว่าการปฏิบัติมีผลจริงไม่เหลือวิสัย ส่วนมากผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันมักเป็นนักบวช  ท่านจึงให้เราเข้าวัด

คำสำคัญ (Tags): #บุรีรัมย์6
หมายเลขบันทึก: 365099เขียนเมื่อ 8 มิถุนายน 2010 21:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เต้ยสว่างทางธรรมะ พบพระพบทางสร้างสรรค์ อิติปิโสพลัน รู้เท่าทันใจตนเอง

คนใจบุญย่อมได้บุญบารมีเพิ่มทุกๆวัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท