วราภรณ์
นางสาว วราภรณ์ (ดอกไผ่) ธรรมทิพย์สกุล

อย่ากินอาหารในงานศพ


         


             ทุกครั้งที่เราไปงานศพ   หลังจากพระสวดพระอภิธรรมเสร็จแล้ว เจ้าภาพมักจะนำอาหารประเภทข้าวต้ม   เกี๊ยว    กระเพาะปลา   หรือหากเป็นในเมืองก็เปลี่ยนเป็นนมกล่อง  กาแฟ  ขนมปัง  หรือซาลาเปา  แล้วแต่เจ้าภาพจะสะดวก

           ผู้ที่ไปร่วมงานส่วนใหญ่มักจะให้ความร่วมมือในการรับประทานอาหารที่เจ้าภาพต้อนรับเป็นอย่างดี   แต่บ่อยครั้งเราอาจเคยได้ยินหรือได้พบใครบางคนที่กล่าวว่า  "ไม่กินอาหารในงานศพ"   หลายคนอาจมีเหตุผลในใจ... ผู้เขียนเคยคิดสงสัยเช่นกันว่าทำไมจึงกินไม่ได้

           จนในที่สุดก็ได้คำตอบจากน้องชายคนเล็กที่เล่าให้ฟังว่าเป็นความเชื่อที่บรรดาซินแสได้เตือนไว้ก็คือ   ใครก็ตามที่ดวงชะตาไม่ดี  ห้ามดื่มน้ำหรืออาหารในงานศพเป็นอันขาด   เพราะหากเราดวงตกแล้ว...สิ่งอัปมงคลต่าง ๆ จะเข้ามาทำร้ายเราได้โดยผ่านทางอาหารและน้ำดื่มที่อยู่ในงาน     ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันตนเองจึงไม่ควรแตะต้องอาหารใด ๆ ทั้งสิ้นแม้แต่น้ำดื่ม....

           ท่านผู้อ่านละคะ? มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้...
                        ..............................

ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต

 

 

                 

คำสำคัญ (Tags): #ความเชื่อ
หมายเลขบันทึก: 361915เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2010 21:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (90)

แต่ก่อนก็คิดอย่างนี้ วันเกิดตนเองจะไม่ไปร่วมงานศพ

แต่ทุกวันนี้ต้องเข้าร่วมงานศพชาวบ้านเกือบทุกศพ

อาหารก็จัดแบบโต๊ะจีน ไม่เหมือนแต่ก่อนที่จัดให้กินข้างหีบศพ

สวัสดีค่ะ  ครูบันเทิงกินแทบทุกครั้งเลยค่ะ

บางครั้งไม่ได้กินเพราะ  ไปไม่ทันค่ะ

ไม่ถือค่ะ..ไม่คิดมากค่ะ..

  • สวัสดีค่ะ  ผอ.พรชัย
  • ขอบพระคุณที่มาทักทาย  และแสดงความคิดเห็นค่ะ
    คนของสังคมต้องไปทุกงานค่ะ  ถือเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพ 
    ยิ่งอยู่ต่างจังหวัดยิ่งสำคัญมากนะคะ
  • เรื่องอาหารการกินพัฒนาเป็นโต๊ะจีน...พัฒนาไปไกลเลยนะคะ
  • ทางนครปฐม  ส่วนใหญ่ถ้าเป็นงานของคนจีนถ้ามีฐานะเวลา
    ออกศพจึงมีเลี้ยงโต๊ะจีนค่ะ  

ถ้าเห็นความตั้งอกตั้งใจของเจ้าภาพแล้ว

ก็กินไปเถอะ... ดวงตก คงแก้ไม่ได้

แม้ไม่ได้กินอาหารในงานศพ

  • สวัสดีค่ะ  คุณครูบันเทิงP
  • เป็นความคิดเห็นที่ตรงมากค่ะ อิอิ  น่ารักดี
  • ธรรมทิพย์ก็ไม่ถือค่ะ   ไม่มีปัญหาอะไรกินได้กินหมดเช่นกันค่ะ...
  • สวัสดีค่ะ คุณครู ป.๑P
  • นั่นซีคะ  "ดวงตกคงแก้ไม่ได้แม้ไม่ได้กินอาหารในงานศพ"
  • น่าคิดจริง ๆ ค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะที่เข้ามาทักทาย  ร่วมแสดงความคิดเห็น

สวัสดีค่ะ

ยังไม่หายไปนะคะ เคยดูรายการทาง VIP ก็ได้ยินมาบ้างค่ะ

เชื่อไว้ไม่เสียหายนะคะ...

  • สวัสดีค่ะ พี่แดงP
  • ดีใจจังค่ะที่มาทักทายพร้อมดอกไม้สวย ๆ
  • สบายดีนะคะ...
  • ขอให้มีความสุขมาก ๆ  รักษาสุขภาพนะคะ

สวัสดีค่ะ

เคยได้ยินดังที่ว่าเช่นกัน คนเชื้อสายจีนบางทีมีข้อห้ามมากมาย บางปีดูดวงแล้ว ซินแสจะห้ามไม่ให้ไปงานศพเลยทั้งปี... ซึ่งทำได้ยากมากกกกก

ส่วนตัวแล้วแต่ว่าหิวหรือไม่ค่ะ หากหิวก็ทาน หากไม่หิวก็เว้นไป แล้วก็ตั้งใจ ตั้งสติดี ๆ เราไปงานศพเพื่อน้อมนำให้ตระหนักถึงความตาย ให้เกิดมรณานุสติ ไม่น่าจะมีเหตุไม่ดีค่ะ

(^___^)

อาหารกินเป็นยา

และกินเมื่อหิว ดีที่สุดแล้วค่ะ

ปล. ไปงานศพ ถ้าไม่หิวก็ไม่ต้องกิน, แต่ถ้าหิวก็หม่ำไปเถอะ ^_^

เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ มีคนเค้าบอกว่าเค้าไม่กินอาหารในงานศพ

อธิบายเหมือนที่คุณธรรมทิพย์บอกในบันทึกเลยค่ะ

แต่เวลากอไปงานศพต่างจังหวัด กอก็กินน่ะค่ะ

เพราะหิว แต่กอไม่เชื่อตามที่เค้าบอก ไม่เชื่อตามที่น้องชายคุณธรรมทิพย์เล่าด้วยค่ะ

แต่กอเชื่อว่า เวลามีงานศพ ไม่น่าจะต้องเลี้ยงข้าวปลาอาหาร อิอิ

  • สวัสดีค่ะ คุณคนไม่มีรากP
  • ขอบพระคุณสำหรับความคิดเห็นดี ๆ ค่ะ...
  • เห็นด้วยค่ะ...ปกติจะชอบไปงานศพแม้บางคร้้งจะมีปัญหาเรื่องปีชง
    ก็ไม่กลัวเพราะถือว่าเป็นงานที่สำคัญกว่างานอื่น ๆ เราควรไปให้กำลังใจเจ้าภาพ
    และมีสติดังว่า "ธรรมย่อมคุ้มครองรักษาผู้ประพฤติธรรมเสมอ" นะคะ
  • มีความสุขในเทศกาลบุญนะคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณwijittaP
  • "..อาหารเป็นยา  กินเมื่อหิว..."
  • เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายค่ะ 
  • สวัสดีค่ะ  คุณไผ่ไม่มีกอP
  • ขอบคุณที่ร่วมแบ่งปันความคิดเห็นค่ะ... คิดเหมือนกันค่ะ หิวก็กิน  ไม่ถือเช่นกันค่ะ
  • เรื่องความเชื่อเป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่ะ   ถ้าทำแล้วสบายใจก็ทำนะคะ
    ส่วนเรื่องอาหารในงานศพ  เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ  จริง ๆ แล้วไม่ควรเลี้ยงอาหาร
    เพราะเจ้าภาพโศกเศร้าอยู่  ควรฟังพระสวดอภิธรรมเสร็จก็กลับบ้านได้เลย...
  • เรื่องของการสืบต่อค่านิยม  หากใครฝืนไม่ทำก็จะถูกครหา   หากมีใครกล้าทำบ้าง
    บางทีอาจกลายเป็นแบบอย่างในอนาคตที่ดีนะคะ
     

สวัสดีค่ะ

 

* ทานทุกครั้งค่ะ ไม่คิดอะไรมาก... เจ้าภาพเขาอุตส่าห์มีน้ำใจ และก็หิวด้วย เหมือนน้องกอ...

เมื่อเช้าไปวัดมาค่ะ... เอาบุญมาเผื่อค่ะ

 ส่งบุญ ส่งความสุข ในวันวิสาขบูชา และวันสันติภาพโลก

 ขอให้ประเทศร่มเย็นเป็นสุข คนไทยรักกัน

 ค่ำๆ  ชวนครอบครัวไปเวียนเทียนกันนะคะ

 

 

P
ธรรมทิพย์ ขอบคุณค่ะที่ไปเยี่ยม ถ้าตามด้วยมังคุด..คงจุกมากขึ้นนะคะ..อิอิ..ไม่ถือมากก็จะดี..เพื่อสุขภาพกาย..หิวก็กินได้ค่ะ..อร่อยทั้งนั้นค่ะ..จากร้านชื่อดังนิ..อดได้ไง..อิอิ..
  • สวัสดีค่ะ คุณครูใจดีP
  • อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
  • เรื่องอาหารงานศพเห็นด้วยค่ะ..เจ้าภาพตั้งใจทำให้แขกรับประทาน
    หากไม่ใครกล้ารับประทานของก็คงจะเหลือและเสียหายนะคะ
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายค่ะ  ทางนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอากาศทางโน้นเป็นอย่างไรบ้างคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณrindaP
  • ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมค่ะ ...ถ้ากลัวจุกต้องลดทุเรียนเพิ่มมังคุดแทนค่ะ
    สำหรับคนเป็นเบาหวานถ้าอยากกินจริง ๆ เขาบอกว่าให้กินใบมะยมรองพื้น
    เอ๊ยรองท้องก่อนกินทุเรียนสักสี่ห้าก้าน  (กินแต่ใบไม่ต้องกินก้านนะคะ)
    เพราะใบมะยมจะไปดูดซับน้ำตาล เบาหวานก็ไม่ขึ้น แต่อย่ากินมากนะคะ 
    ไม่รับรองความปลอดภัย ..
  • อากาศเย็นชุมฉ่ำค่ะคุณธรรมทิพย์ คิดถึงมากมายค่ะ
  • ช่วงนี้Nina(หนุ่ย)หายไปบ้างนะค่ะ แต่ความคิดถึงเท่าเดิม
  • แถมห่วงใยคุณธรรมทิพย์มากๆนะค่ะ มาส่งกำลังใจให้
  • สุขใจและสุขภาพดีนะค่ะ รักมากมายค่ะ...
  •                      
  • </ul>

ในตัวเมืองนครปฐมมีน้องที่โรงเรียนบอกว่าถ้าไปงานศพแล้วต้องกินให้อิ่ม...แล้วจะรุ่งเรือง...น้องเขาบอกว่าแม่สั่งไว้....

ณัฐกานต์ หกทับหนึ่ง ปีห้าสองค่ะ

สวัสดีคะ อาจารย์วราภรณ์ ณัฐกานต์ หกทับหนึ่งปีที่เเล้วน่ะคะ อาจารย์สบายดีหรือป่าว? ตอนนี้หนูก็กำลังจะเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยเเล้ว พบเื่พื่อนใหม่ๆ วันไปรับนอ้ง ก็เจอรุ่นพีโหดๆ เขาทำโทดซะปวดขาเลยค่ะ

ก็หวังว่าอาจารย์จะมีสุขภาพเเข็งเเรงนะค่ะ ดูเเลตัวเองด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • ก็เคยแปลกใจที่เพื่อนและพี่บางคนเขาไม่ทาน
  • ก็ได้แต่ฉงนอยู่ในใจว่าเพราะอะไร..เพราะไม่น่าจะใช่เหตุผล
  • ได้ทราบว่าเป็นเรื่องความเชื่อ..ก็น่าคิด...แต่ในทางสังคมกลับมองว่าเป็นการให้เกียรติเจ้าภาพนะคะ..ทานสักนิดน่าจะดีค่ะ
  • วันนี้ไปทำบุญวันวิสาขบูชามา..ขอรับบุญกุศลร่วมกันนะคะ

เคยได้ยินเรื่องทานอาหารในงานศพ บางคนเขาถือ คงจะถือแบบที่น้องครูวราภรณ์ ธรรมทิพย์ว่ามาแหละคะ สำหรับพี่สุไม่ถือคะ ถ้าเราไม่กิน เจ้าของงานเขาจะเป็นห่วงเรา และจะเสียกำลังใจ ที่เราไม่กิน เขาอุตส่าทำอย่างดี เพื่อตอบแทนที่เรามาร่วมงานเขา เขาก็ทำดีแล้ว เราก็ควร ตอบสนองเขาบ้าง ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง  ยิ่งตอนหิวอยู่แล้ว ไม่คิดมากคะ

มีความสุขในวันดีดี นะคะ คิดถึงเสมอคะ ไปนอนก่อนคะ ดึกอีกแล้วคะ

  • สวัสดีค่ะ คุณNinaP
  • มาด้วยความอ่อนโยนและเปี่ยมล้นด้วยน้ำใจเสมอ
  • ขอบพระคุณจริง ๆ ที่ห่วงใยค่ะ ยังเข้มแข็งเหมือนเดิมค่ะ
  • ระลึกถึงเช่นกันค่ะ
  • สวัสดีค่ะ คุณครูอ้อยเล็กP
  • ในตัวเมืองนครปฐมน้องบอกว่า...ต้องกินให้อิ่มแล้วจะรุ่งเรือง... อิอิ  เข้าใจคิดดีค่ะ
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายค่ะ
  • สวัสดีค่ะ  หนูณัฐกานต์
  • คงรีบเขียนมากเลยนะคะ  เขียนผิดตั้งหลายคำ  เมื่อก่อนหนู
    ไม่เขียนหนังสือผิดอย่างนี้นี่คะ ?  ต่อไประวังหน่อยนะคะไม่ต้องรีบร้อนค่ะ
  • ขอบใจที่มาทักทายและให้กำลังใจ
  • โลกใหม่ในชีวิตหนูยังมีเรื่องราวให้ต้องเรียนรู้อีกมากมาย  สู้ต่อไปนะคะ...
    ทุกสิ่งล้วนท้าทายให้เราก้าวข้ามเสมอค่ะ  ครูเป็นกำลังใจให้ลูกศิษย์ทุกคนนะคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณปรีดาP
  • เรื่องความคิด ความเชื่อเป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่ะ
  • เรื่องสังคมก็เช่นกันนะคะ  บางทีเราก็เกรงใจเจ้าภาพ
    เดินสายกลางดีที่สุดค่ะ  ปกติก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ค่ะ ได้แต่รับฟัง
    ประดับความรู้
  • ขอบพระคุณที่ร่วมแบ่งปันความคิดและประสบการณ์ค่ะ
  • อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
  • สวัสดีค่ะ พี่สุP
  • ภาพสวยงามมากค่ะ
  • "ตอนหิวไม่ต้องคิดมาก"  คิดเหมือนกันเลยค่ะ
  • หนูหน่อยก็กินทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้ากินได้...เหมือนกันค่ะ 
  • ขอบพระคุณที่มาทักทาย  
  • มีความสุขในทุกวันของชีวิตนะคะ
  • สวัสดีค่ะ
  • เห็นหลายคนเหมือนกันที่ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำในงาน
  • แต่ก็เห็นหลายคนที่กิน เดี๋ยวนี้แถวบ้าน ไม่รอฟังพระสวดด้วยซ้ำ กินข้าวก่อนเลย ห่อกลับไปบ้านด้วย
  • ส่วนตัวก็กินค่ะ เวลาไปงานศพแถวบ้านจะมีอาหารอิสานที่ไม่ค่อยได้กินน่ะค่ะ เลยกินใหญ่เลย ไม่ได้คิดอะไร แล้วก็ไม่มีใครบอกด้วย
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

พี่คิมเคยได้ยินค่ะ บางคนก็บอกว่าดวงตกต้องงดไปร่วมงานอวมงคล แต่พี่คิมไม่ได้คิดตามเขาค่ะ   ส่วนพี่คิมเมื่อเขานำมาแจกก็ทานค่ะ หิวก็ทานมาก ไม่หิวก็ขอน้อย ๆ

การเลี้ยงอาหารเป็นวัฒธรรมไทยนะคะ
แขกไปใครมาก็เลี้ยงน้ำเลี้ยงอาหารกันทุกโอกาส
งานศพแต่ละถิ่นที่ก็ไม่เหมือนกัน มีการเลี้ยงที่แตกต่างกันไป
แต่ก็เป็นไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นๆ ไม่มีใครถือกันตามที่กล่าวเลยนะคะ
ขอบคุณคะ

 

  • สวัสดีค่ะ ป้าแดงP
  • ขอบพระคุณที่มาทักทาย  พร้อมประสบการณ์แถวบ้าน อิอิ...
    ไม่ต้องรอพระสวดเลยนะคะ  คงจะหิวมา...
  • อาหารอีสานรสชาติแซบอีหลี  ใคร ๆ ก็ชอบค่ะ  เต็มที่เลยค่ะ...
    เจ้าภาพจะได้ดีใจ...
  • สวัสดีค่ะ คุณครูบันเทิง
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายพร้อมนางแบบสวย ๆ ท่าทางมีชีวิตชีวา
  • สวัสดีค่ะ พี่คิมP
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายพร้อมแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ
  • บางคนจะถือเรื่องนี้มากค่ะ  แล้วก็ไม่ไปงานศพ
  • คิดเหมือนพี่คิมค่ะ  นิยมไปงานศพมากกว่างานอื่น ๆ ค่ะ
    เพราะเป็นการให้กำลังใจเจ้าภาพที่โศกเศร้าเสียใจนะคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณปาริชาติP
  • ขอบพระคุณที่ให้เกียรติมาทักทาย  พร้อมแบ่งปันวัฒนธรรมทางบ้านนะคะ
    แต่ละท้องถิ่นต่างก็มีความเชื่อที่ต่างกันนะคะ..
  • การเรียนรู้ความเชื่อ วัฒนธรรมของผู้อื่นทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันค่ะ

สวัสดีครับคุณ ธรรมทิพย์

พวกเราชาวมุสลิมก็ไม่กินอาหารในงานศพ

เพราะว่าคนเขามีทุกข์ เรามีหน้าที่นำของไปให้

ไม่ใช่ไปรบกวนให้เขาต้องมาดูแลเรื่องอาหารการกินของผู้ที่มาทำบุญ

  • สวัสดีค่ะ  คุณวอญ่า
    ...พวกเราชาวมุสลิมก็ไม่กินอาหารในงานศพ
    เพราะว่าคนเขามีทุกข์ เรามีหน้าที่นำของไปให้
    ไม่ใช่ไปรบกวนให้เขาต้องมาดูแลเรื่องอาหารการกินของผู้ที่มาทำบุญ...
  • ขอบพระคุณที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้...
  • นับเป็นมุมมองทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทั้งต่อเจ้าภาพและผู้ไปร่วมงาน
  • เท่าที่ทราบชาวมุสลิมจะจัดงานศพด้วยเวลาสั้น ๆ ๑ - ๒ วันเท่านั้นเพื่อมิให้
    รบกวนผู้อื่น   แล้วก็ใช้วิธีการฝังศพเท่านั้นโดยไม่เผา....จริงหรือเปล่าคะ
  • ...สวัสดีครับ...   P  คุณครูวราภรณ์...
  • ...เจ้าภาพมีความหวังดีมากกว่า อย่าไปถืออะไรมากนัก ดวงตกเป็นเรื่องดวงครับ...
  • ...แต่ว่า ตอนนี้ มันหิวแล้วกินไว้ก่อนพ่อสอนไว้... 

สวัสดีค่ะคุรครู

 

มาหย่อนความคิดถึงไว้ให้  ช่วงพักกลางวันค่ะ

งานยุ่งหรือเปล่าคะ?....

ขอให้มีความสุขในการทำงานนะคะ

ระลึกถึงค่ะ

 

 

 

  • สวัสดีค่ะ  ผอ.udomranP
  • ขอบพระคุณสำหรับความคิดเห็นและการเยี่ยมเยียนค่ะ
  • "กินไว้ก่อนพ่อสอนไว้"  สโลแกนนี้น่าสนใจดีค่ะ 
  • สวัสดีค่ะ  คุณครูใจดีP
  • วันนี้ดูเหมือนงานจะยุ่ง  และรู้สึกอ่อนล้าทั้งกายและใจ...
  • ชีวิตไม่กระตือรือร้นเหมือนก่อน  คงต้องปรับตัวปรับใจมากขึ้นค่ะ
  • ไปอบรมดีเจเล่าเรื่อง ๓ วันคงได้มุมมองดี ๆ มาฝาก
  • ระลึกถึงเสมอเช่นกันค่ะ

ครูปริมปรางไปร่วมงานศพทานทุกงานค่ะ แต่ก็เห็นเพื่อนร่วมงานบางคนเขาไม่ยอมทานเลยค่ะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน...ทีนี้ก็รู้เหตุผลแล้วค่ะ

  • สวัสดีค่ะคุณธรรมทิพย์
  • เมื่อก่อนไม่ทานเหมือนกันค่ะเพราะความรู้สึกและบรรยากาศที่เศร้าๆอึมครึม เพิ่งมาเริ่มทานตอนหลังนี้เองค่ะ ก็ยังไม่อยากทานอยู่ดีแต่เกรงใจความมีน้ำใจของเจ้าภาพ
  • ขอบคุณคุณธรรมทิพย์อย่างยิ่งค่ะที่ให้กำลังใจ

การเลี้ยงอาหารในงานศพเป็นความตั้งใจดีของเจ้าภาพ และปฏิบัติเป็นสืบต่อกันมาประเพณี..ปัจจุบันเจ้าภาพมักแจกกล่องของอาหารให้แขกนำกลับไป..น่าจะตัดปัญหาสำหรับผู้ที่ถือเรื่องโชคลางไปได้นะคะ..

                 

สวัสดีค่ะครูพี่

เคยได้ยินมาเหมือนกันค่ะ และถ้าใครป่วย ไข้ ก็จะไม่ไปงานศพ มาทายทักพี่ครู ด้วยคิดถึงค่ะ

  • สวัสดีค่ะ  คุณครูปริมปรางP
  • เหตุผลในใจบางคน...บางครั้งเราก็ไม่รู้หากเขาไม่บอก
    และบ่อยครั้งที่เราอาจคาดไม่ถึงก็มีนะคะ
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายค่ะ

ถ้าใครไม่สบายก็ห้ามไปงานศพครับ

ถ้าเราคิดว่าดวงหรือโชคไม่ดี งดทานก็ดีครับ

บางสิ่งพิสูจน์ไม่ได้ ใช่ว่าจะไม่จริงนะครับ

ขอบคุณครับ

วัฒนธรรมแถวบ้านถือเป็นการให้เกียรติเจ้าภาพ 

คือเห็นอกเห็นใจ  ไม่รังเกียจ 

สมัยเด็กก็เคยได้ยินแต่เป็นข้อห้าม(คะลำ)ของคนที่เล่นของ  ประมาณนี้ล่ะคะ

  มาส่งยิ้มและความคิดถึงไว้ให้เจ้าของบ้านค่ะ

พรุ่งนี้วันหยุด พักผ่อนให้สบาย แล้วสู้กันใหม่สัปดาห์หน้านะคะ

คุณครูสบายดีนะคะ

คืนนี้ฝันดีๆๆๆ ค่ะ

 

 

  • สวัสดีค่ะ คุณKanchanaP
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายพร้อมความคิดเห็นอีกแง่มุมหนึ่งค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ 

ก๊อกๆๆๆ แวะมาเยี่ยมอีกรอบค่ะ

สบายดีน่ะค่ะ วันหยุดไปไหนป่ะค่ะ

ครูบันเทิงงานบ้านตรึมค่ะ รีดผ้าเป็นกองเลย

นี่ก็หนีมาเล่นคอมพ์แป๊บนึงค่ะ  คิดถึงจ้า

..รู้มั๊ย-ใครเอ่ย..

  • มหา อ่านหมดแล้วไม่คิด เพราะกินมาหลายงาน และเป็นวัฒธรรม
  • ไม่กินก็เกรงใจเจ้าภาพ
  • ถ้ากินดวงไม่ดี
  • เอาเป็นว่าให้เกียรติทายาทผู้เสียชีวิตกินไว้ก่อน แฮ่ ๆๆ ไม่ได้เห็นแก่กิน
  • สวัสดีค่ะ พี่มหาเหรียญชัย
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายพร้อมความคิดเห็นค่ะ
  • สรุปว่า "กินไว้ก่อนเพื่อกันหิว"  เห็นด้วยค่ะ
    ธรรมทิพย์ก็กินทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหิวนะคะ...

เพิ่งรู้นะเนี่ย...นับว่าเป็นความรู้ใหม่ค่ะ

คิดถึงนะ

  • อืม..เป็นอีกมุมมองที่เพิ่งทราบค่ะ
  • ส่วนตัวครูแป๋มไม่ค่อยได้ทานค่ะ
  • ด้วยเป็นห้วงอารมณ์เศร้าระลึกถึงผู้เสียชีวิต
  • โดยมากจะพูดคุยเป็นเพื่อนลูกหลานเจ้าภาพวัยเดียวกันค่ะ.

 

  • สวัสดีค่ะ พี่ใหญ่P
  • ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมเยือนพร้อมดอกไม้สวย ๆ เสมอค่ะ
  • เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ  แจกเป็นขนมนมกล่องสะดวกดีไม่ต้องตามเก็บล้างอีกนะคะ
  • สวัสดีค่ะ น้องปูP
  • ความเชื่อบางอย่างเป็นเรื่องสืบทอด  ทำแล้วสบายใจ
    ก็ทำไปเถอะนะคะ
  • ขอบพระคุณที่มาทักทายค่ะ  คิดถึงเสมอเช่นกันค่ะ
  • สวัสดีค่ะ คุณPhornphonP
  • "บางสิ่งพิสูจน์ไม่ได้ใช่ว่าจะไม่มีจริง"  นั่นซีคะ
    "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"
  • ขอบพระคุณที่มาทักทาย พร้อมมุมมองที่น่าคิดค่ะ
  • สวัสดีค่ะ คุณวิไลP
  • ขอบพระคุณค่ะที่มาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
    ความเชื่อของแต่ละภาคก็มีมุมมองที่น่าศึกษาค้นคว้าต่อไปนะคะ

เป็นความรู้ใหม่นะครับ เพราะตัวผมเองไม่เคยทราบมาก่อน แต่คุณพ่อก็ห้ามว่าดวงไม่ดี ก้ไม่ควรไป แต่เรื่องอาหารงานไหนงานนั้นครับไม่พลาด 5555 แต่ก็ดีครับจะได้มีมุมมองใหม่ให้คิด ขอบคุณครับ สำหรับมุมมองใหม่

ตามครูวิไลมาค่ะ

-เรื่องอาหารในงานศพ มองในแง่สุขาภิบาลอาหาร อาจไม่สะอาดพอ

ตัวดิฉันเองไม่จำเป็นก็ไม่แตะต้อง อาจบอกเขาว่าอิ่มอยู่

วันก่อนมีน้องที่ทำงานเลี้ยงข้าวเหนียวลาบในงานศพ ท้องเสียกันเป็นแถวค่ะ

ปัจจุบันเจ้าภาพแจกขนมเป็นกล่อง เหมือนที่พี่ใหญ่บอก เจ้าภาพเดินแจกก็ต้องรับไว้ค่ะ

-ถ้ามองในแง่วัฒนธรรมของท้องถิ่น ถ้าเจ้าภาพเลี้ยงก็มักจะกินนิดหน่อย สักคำสองคำ

เดี๋ยวเขาจะเสียน้ำใจ จะหาว่ารังเกียจ

ถ้าดวงตก อยู่ที่ไหนก็โดนค่ะ

และเชื่อว่าคนที่ปฏิบัติธรรมอยู่ตลอด สร้างบุญสร้างกุศลอยู่เสมอคงรอดพ้นจากอัปมงคล

  • เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก สำหรับความเชื่อนี้นะครับ
  • พยายามหาคำอธิบาย อาจจะจัดอยู่กลุ่มเดียวกับ คนไม่สบาย เป็นแผล ห้ามไปงานศพ
  • เมื่อก่อน การจัดการศพต่างๆ ยังไม่มีสุขอนามัย และคนเสียชีวิตด้วยโรคติดต่อ โรคติดเชื้อเป็นส่วนใหญ่ ในร่างของศพก็คือ แหล่งรวบรวมเชื้อโรคสารพัดชนิด การไปงานศพในสภาพที่สุขภาพไม่แข็งแรง หรือไปรับประทานอาหารในงานศพที่ยังสุขอนามัยไม่ดี จึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายมาก
  • ปัจจุบัน เปลี่ยนไปมากนะครับ ผมเพิ่งไปงานศพสุดท้ายที่ผ่านมา มีแต่คนแนะนำให้ลองอาหารที่เจ้าภาพจัดเตรียมมาให้ อะไรๆก็อร่อยไปหมด อิ่มแปล้..
  • สวัสดีค่ะ คุณกระเป๋าตังค์P
  • ขอบพระคุณที่มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ
  • อย่างไรเสีย "กินไว้ก่อนพ่อสอนไว้"  ยังใช้ได้
    กับทุกชีวิตที่กำลังหิวนะคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณnana งาน พสว.ศอ.8P
  • ขอบพระคุณสำหรับมุมมองของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
    ที่นำเสนอให้เห็นหลายแง่มุม
    คงมีส่วนจริงเรื่องของความรีบร้อน  อาจมีปัญหาเรื่องความสะอาด
  • โลกเปลี่ยนอะไร ๆ ก็เปลี่ยนนะคะ แม้แต่อาหารในงานศพ
  • เห็นด้วยค่ะ "ธรรมย่อมคุ้มครองรักษาผู้ประพฤติธรรม" ค่ะ
  • สวัสดีค่ะ  อาจารย์หมอเต็มศักดิ์P
  • ขอบพระคุณสำหรับมุมมองของอาจารย์แพทย์
    ที่วิเคราะห์ได้อย่างลึกซึ้งและชัดเจนค่ะ
  • ความเชื่อแต่ละท้องถิ่นล้วนมีความแตกต่างกันไปนะคะ
  • ชอบใจประโยคสุดท้ายค่ะ
    "...ปัจจุบัน เปลี่ยนไปมากนะครับ ผมเพิ่งไปงานศพสุดท้ายที่ผ่านมา มีแต่คนแนะนำให้ลองอาหารที่เจ้าภาพจัดเตรียมมาให้ อะไรๆก็อร่อยไปหมด อิ่มแปล้.. "
  • อ่านแล้วเห็นภาพ  พลอยอิ่มไปด้วยค่ะ

ธรรมะสวัสดีครับ คุณโยมธรรมทิพย์

วันนี้มาบรรยายธรรมที่ อ.อรัญประเทศ

แวะเข้ามาแบ่งปัน.....เติมเต็ม แลกเปลี่ยน

เรื่องความเชื่อ เป็นปัญหามากนะครับ ในหมู่ชาวพุทธ

ที่อดีตเคยนับถือผีและพรามณ์มา

คงไม่มีความสัมพันธ์กันมั่งครับ ระหว่างความซวย (ดวงไม่ดี) กับการทานอาหาร

เคยเจอกับตัว งานศพคุณย่า เมื่อ ๘ ปีที่แล้ว ตอนนั้นเป็นสามเณร

ชาวบ้านบอกว่า ห้ามเอาเส้นหมี่ ขนมจีน มาทำกับข้างเลี้ยงแขก

โดยให้เหตุผลว่า "คนจะตายกันยืดยาว" เราก็เป็เณรที่อยากลองของ

บอกญาติๆๆว่าทำไปเถอะ สรุปก็ไม่มีใครตายยืดยาวเลย (โดนชาวบ้านด่ากันทั้งหมู่บ้านว่า เณรไม่เชื่อก็ลองดู)

ลองแล้วครับ ลองแล้ว (หลักกาลามสูตรก็มีให้ศึกษา ในเรื่องความเชื่อ)

พิธีกรรมจุกจิกไปหมด....งมงายแต่ไม่เกิดปัญญา (แรงครับ แรง)

ในความเห็นอาตมานะ ไม่อยากให้เลี้ยงอาหารเลย แจกขนมเป็นกล่องก็พอ

ไม่ใช่เพราะกลัวนะ แต่ไม่เหมาะ พระก็สวด คนก็กิน ให้พระท่านรออีก

ต้องทำแบบวัดชลประทานครับ หลวงพ่อปัญญา

ต้องปฏิรูปกันอีกเยอะงานศพเนีย

แต่จะต้องใครเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปงานศพกันดีนะ

พูดมาซะยืดยาว เดี่ยวคนตายกันยืดยาว

พอแค่นี้ดีกว่า

ธรรมะสวัสดี

  • สวัสดีค่ะ  พี่มหาเหรียญชัยP
  • สบายดีหรือเปล่าคะ   ขอบพระคุณที่มาทักทายค่ะ
  • บุญรักษา  พระคุ้มครองนะคะ
  • กราบนมัสการ  ท่านบัณฑิตเมธี
  • กราบขอบพระคุณสำหรับความเมตตาที่ให้แสงสว่างทางปัญญา
    แก่ผู้อ่าน   โดยเฉพาะมุมมองและประสบการณ์ดี ๆ ที่เป็นประโยชน์
  • อ่านแล้วทำให้เห็นวีรกรรมของสามเณรน้อย  เพิ่งเคยได้ยินค่ะว่า
    เส้นหมี่ขนมจีน  นำมาเลี้ยงแขกจะมีคนตายกันยืดยาว....(ในวันเกิดของ
    คนจีนนิยมผัดหมี่ซั่วหรือหมี่เตี๊ยวเลี้ยงแขกเพราะเชื่อว่าอายุจะยืนยาว)
  • เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับวัดชลประทาน ฯ  หากทุกวัดทำเช่นนี้หมดก็คง
    จะดีไม่น้อยนะคะ...
  • หลักกาลามสูตรนับเป็นหลักธรรมที่ชาวพุทธควรน้อมนำมาใช้ในทุกสถานการณ์
    และทุกเรื่อง   นับเป็นพระปัญญาญานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้..
  • พุทธศาสนิกชนไทยยังมีความคิด  ความเชื่อเรื่องพิธีกรรมบางอย่าง
    ที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธที่ต้องรีบปฏิรูปนะคะ   โดยเฉพาะแยกไม่ออก
    ระหว่างพุทธกับพราหมณ์สับสนกันไปหมดทั้งพระทั้งฆราวาส

 

สวัสดีค่ะ คุณธรรมทิพย์

ภาคเหนือมีหลายจังหวัดนะคะ คนที่ไม่กินอาหารในงานศพชาวบ้านจะรู้กันว่าเป็นคนถือครู หมายถึงครูที่ถ่ายทอดวิชาคาถา อาคมให้ คนที่ลงยันต์ไว้ตามตัว หรือคนที่เป็นร่างทรงของเทพต่างๆ

  • สวัสดีค่ะ KRUDALAP
  • ขอบพระคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ค่ะ
    ทำให้เข้าใจความเชื่อของผู้คนต่างภาคมากขึ้น
  • อนึ่งคนที่มีองค์หรือร่างทรงโดยทั่วไปจะไม่รับประทาน
    อาหารที่ไหว้หรือเซ่นวิญญาณค่ะ 

เจริญธรรมคะ

เรื่องความชื่อของมนุษย์มีหลากหลาย เพราะเข้าใจธรรมะยังไม่ลึกซึ้ง

ที่บ้านหนองบัว อ.อู่ทอง งานศพห้ามเลี้ยงขนมจีนเด็ดขาด พี่ยังไม่เคยลองพิสุจน์

กลัวตายกันยืดยาว บางคนแม้ไม่มีองค์ประทับก็ทานอาหารในงานไม่ได้ แม้แต่น้ำ

เพราะพอทานเข้าไปจะมีอาการคล้าย ๆ เป็นลม น่าสงสารนะ

แต่ถ้าจะให้ดีรับประทานเพราะหิว หรือยังไม่ได้รับประทานน่าจะเป็นเหตุผลที่เหมาะที่สุด

และเห็นด้วยกับท่านบัณฑิตเมธีทุกประการ สาธุ สาธุ สาธุ

  • เจริญธรรมค่ะ  พี่วิบูลย์
  • ขอบพระคุณที่แวะมาทักทาย  และแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ
    เรื่องความเชื่อบางอย่างมักฝังใจคน  บางครั้งขาดเหตุผล
    กลายเป็นความเชื่อที่งมงายจากรุ่นสู่รุ่น  น่าเป็นห่วงนะคะ

 

สวัสดีค่ะคุณธรรมทิพย์

  • ทราบอยู่เหมือนกันค่ะว่าบางคนไม่กินอาหารงานศพแต่ไม่ทราบเหตุผล
  • ส่วนตัวครูปอทานบ้างไม่ทานบ้างแล้วแต่โอกาส  ไม่ได้มีข้อจำกัดอะไรเนื่องจากครูปอดวงดีตลอดค่ะ.....(ฮา.....)

ผมไม่กินมานานแล้ว เขียนเล่าไว้นานแล้วด้วย เพราะว่ามันฟุ่มเฟือย และมันจะอ้วก ไปงานศพเพื่อคำนับศพ ดันไปกินสนองตัณหาตนเองซะเนี่ย จัดให้โดยเจ้าภาพอีกตะหาก ...ผมตายสั่งไว้เลยว่า สวดวันเดียวแล้วห้ามเลี้ยงอาหาร

อย่าเอาความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ มาเป็นประเด็นที่ทำให้ลำบากใจ ไม่สบายใจ เราไปร่วมงานศพด้วยเจตนาดี จิตเป็นกุศล ผลบุญได้กลับมาแน่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสิ่งที่มนุษย์หลีกหนีไม่พ้น วัดเป็นพุทธสถานครับ อย่าได้กังวล ผมไปร่วมงานศพมาเป็นร้อยๆครั้ง ชีวิตผมก็ยังสุข สบาย การเผชิญปัญหาต่างๆในชีวิตเป็นเรื่องปกติ ทำใจให้สบายเถิดครับ เจ้าภาพต้องการแสดงความขอบคุณแขก และเกรงจะหิว กระหาย จึงจัดไว้เลี้ยงพอสมควรตามฐานะแต่ละท่านเจ้าภาพ ปัจจัยสี่ของมนุษย์คืออาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโลก เราทานพอสมควร มิใช่ทานแบบสวาปาม. สรุปคือ ผมไม่กังวลใจแต่ประการใดครับ

ขออภัย ถ้าความเห็นผมอาจไม่ถูกใจท่านครับ

สวัสดีครับ ประเด็นนี้มีผู้คนสนใจมากนะครับ อ่านแล้วก็ทำให้ทราบว่า ประเด็นที่พิสูจน์ได้ยากเช่นนี้เหมาะสำหรับการบริหารสมอง แตพอถึงจุดหนึ่งก็ไปถึงจุดของความไม่รู้จริงนะครับ ... หมอสุข

ถ้าของไม่เป็นมงคลเข่้าทางปากได้ก็ดี วันๆก็หาของมงคลกินเข้าไปไมาต้องทำอะไรชีวิตมรแต่มงคล พูดตั้งนานมงคลที่ว่าคืออะไร ทำกรรมดี น่าจะดีกว่าไหมวจีกายใจบริสุทธิ์น่าจะดีกว่าไหม

ผมจะตอบพวกคุณจะว่าผมล้างหลังไหม มันเป็นวัฒนธรรมประจำตระกูล ที่นับถือ.... ถ้าไปกินจะผิดของ

ส่วนใหญ่จะกินข้าวก่อน..ถึงไปงานค่ะ...ก็ไม่ได้ถืออะไรนะคะ บางทีก็กิน บางทีก็ไม่กินค่ะ

ไม่ไช่ไม่เชื่อ แฅ่ก็ไม่สิ่งพิสูด คนที่ไม่กินก็มีเจ็บมีฅายเหมือนคนที่กิน ก็ไม่รู้จะพูดยังไง

เจอมาหมด เทศกาลงานมงคล งานพิธี งานขาวดำ ห้ามกินโน่น นี่ นั่น ห้ามไปนั่น นี่ โน่น ก็ตามนำ้บ้าง เลี่ยงบ้าง แกล้งลืมบ้าง เพราะไม่รู้จะเชื่อใครดี จะถามกลับผู้ที่บอกเตือน บางทีเกรงใจ เดี๋ยวจะเคืองกันเปล่าๆ เพราะงั้น ก็แค่"อ๋อ"หรือ"ครับ" พอ ทำตามที่เราเห็นสมคว

พ.ต.ต.ดร.พัสกร หรือ โหรพัสกร จิตตรัตน์
  1. ขออภัยนะครับ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนผมนั้น เชื่อเรื่องของโลกวิญญาณและไสยศาสตร์ เมื่อไปงานศพจะรับประทานอาหาร ต่อเมื่อรู้สึกหิวเต็มที่ ในฐานะที่ร่ำเรียนมาทางฝ่ายพราหมณ์ และเป็นเจ้าพิธีพราหมณ์มาหลายปี จึงอยากขอแนะนำท่านที่เชื่อในเรื่องเหล่านี้ ไว้ประดับสติปัญญาหรือไว้สอนลูกสอหลาน อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันตัวและไม่ประมาท. ก่อนจะรับประทานอาหารในงานศพ ควรกราบพระพุทธรูปหรือพระเครื่องที่เราอาราธนาติดตัวไป แล้วตั้งนะโม ๓ จบ บูชาพระรัตนตรัย แล้วท่องพระคาถา ๑ บารมี ๓๐ ทัศ ๒ มงกุฏพระพุทธเจ้า ๓ อิติปิโสถอยหลัง ๔ นะโมถอยหลัง และ ว่า "พุทธังกันนะ กันนะพุทธัง ธัมมังกันนะ กันนะ ธัมมัง สังฆังกันนะ กันนะสังฆัง" และ "พุทธังปัดสะ ธัมมังปัดสะ สังฆังปัดสะ ปัดสะ ด้วยนะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ" แล้วกลั้นใจเป่าพรวดลงไปที่อาหารนั้น จากนั้น เวลาทานให้ภาวนาว่า "นะปิด นะป้อง นะล้อม นะกัน พุทธัง ภาวนา ปะรายันติ ธัมมังฯ สังฆังฯ พุทธะสังมิ ทุสะมะนิ อิกะวิติ จิเจรุนิ กะระมะทะ" ครับผม..089-583 5866

ไม่ลบหลู่นะ. เป็นความเชื่อส่วนตัว ส่วนบุคคล ใครเชื่อก้อเชื่อไป. แต่สำหรับผมผ่านมาหมดแล้ว. งานทุกๆงาน. งานดำ งานขาว งานชมพู งานเหลือง. งานเเดง. ตามบ้างไม่ตามบ้าง.

แล้วแต่ความสะดวก ความเชื่อนะ มันเป็นสิทธิ์จะเชื่อ. แต่สำหรับ. ผม. ณ. ตอนนี้. ผมว่า. มันไร้สาระ. โดยเฉพาะคนที่ชอบดูดวง. ให้คนอื่น. วิจารย์คนอื่น. พูดภาษานักเลงหน่อย. ก้อคือ. เอาตัวเองให้รอดก่อน ค่อย. ดูดวงให้คนอื่น. เกิด. แก่. เจ็บ ตาย. นี่ครับ. ของจริง // อย่ามาโลกสวยครับ. //. ทำดีได้ดี. ทำชั่วได้ชั่วครับ. ผมเชื่อครับ ขยัน. อดทน. เป็นคนดีในสังคม ดีครับ. เท่านี้พอ.


รักษาอาการเจ็บเท้ารองช้ำด้วยธรรมชาติบำบัด

การเลี้ยงอาหารในงานศพเพราะว่าสมัยก่อนนี้ไม่มีร้านขายอาหารตอนเย็น ทุกคนจะต้องกลับไปกินอาหารเย็นกันที่บ้าน เมื่อจะไปงานศพทำให้กลับไปกินข้าวบ้านไม่ได้เพราะต้องย้อนไปย้อนมา เจ้าภาพจึงจัดเลี้ยงอาหารให้กับแขก
เพราะปัญหานี้

ปัจจุบันในเมืองมีร้านขายอาหารตอนเย็นทุกแห่ง หากินได้
ถ้าไปดูต่างจังหวัด ตามหมู่บ้าน ตำบล ไม่มีหรอกครับหรือก็มีคนขายน้อยมาก

ซินแส ใช้ความเชื่อที่คิดเอาเอง ว่าจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ มาห้ามไม่ให้คนอื่นทำ เป็นธรรมชาติของมุนุษย์ มีความกลัวเมื่อถูกทักในสิ่งที่ไม่ดี โดยไม่ดูที่เหตุผล

ผมเห็น ซินแสมาดูฮวงจุ้ยที่บริษัทหนึ่ง ให้แก้โนน่ ย้ายนี่ ทำแล้ว งานก็ยังติดๆขัดๆ

เปลี่ยนซินแสใหม่ ก็ปรับใหม่อีก ห้ามโน่นห้ามนี่ ก็ยังเหมือนเดิม

จงเชื่อด้วยเหตุและผล อย่าเชื่อจากมโน คิดไปเอง

สวัสดีครับ...ความเป็นจริงแล้วคำว่า "ไม่กินอาหารในงานศพ" มันมีที่มาครับ ผมมีคุณปู่เป็นหมอผีประจำหมู่บ้านท่านก็ห้ามไว้เช่นกัน แต่ใช่ว่าจะห้ามทุกคน คือจะห้ามเฉพาะคนที่ถือ คาถา อาคม เรียนไสยเวชประเภทนี้เขาจะห้ามครับเพราะเขาถือว่าวิชาจะเสริ่มของจะเข้าตัว แม้แต่ของเส้นไหว้ทุกชนิดเขาก็ห้ามครับ

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ความเชื่อ ประสบการณ์อันมีประโยชน์และคุณค่า
นับว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ "คนที่เห็นต่างจากเราใช่ว่าจะเห็นผิด หากแต่เรามีมุมมองที่ต่างกันเท่านั้นเองค่ะ"
ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ

นายไมตรี คูโพนทอง

ในความคิดเห็นของผมนะครับ ประสพการณ์จากได้เป็นเจ้าภาพ ของพ่อแม่ พี่ ของตัวเองนะครับ ไม่ได้มีจิตอกุศลนะครับ ผมรู้สึกว่าแขกที่มาในงาน จะเป็นภาระต่อเจ้าภาพ ทั้งที่ สภาวะตอนนั้น เจ้าภาพเองก็อยู่ในสภาพรันทดมากพอแล้ว ตั้งแต่นั้นมา ผมมีคติว่า ผมไปงานศพใคร ผมจะไม่สร้างภาระให้แก่ญาติพี่น้องของผู้ตายเด็ดขาดครับ หากมีอะไรให้ช่วยในงานศพใด ผมจะต้องช่วยเหลือแก่ญาติของผู้ตายแน่นอน อาจจะมีบ้างก็คือดื่มนํ้าแก้กระหายเท่านั้น


กินเลยครับ..เจ้าภาพเค้าตั้งใจทำมาเลี้ยงแสดงความขอบคุณที่มางาน..การที่เราไม่กินจะทำให้เค้าเสียกำลังใจ..บ้านผมเคยจัดงานศพให้ญาติ..เอาข้าวต้มไปเสริฟ..บางคนปฎิเสธไม่รับผมรู้สึกหน้าเหวอๆ..เราตั้งใจทำให้กินของเหลือเยอะเลยเสียกำลังใจคนทำ..เรื่องดวงตก..กินอาหารในงานศพแล้วสิ่งอัปมงคลจะติดเข้ามาในอาหารและนำ้ดื่มเข้าไปในตัวเรา..ในความรู้สึกผมว่ามันไร้สาระ..อัปมงคลมันแก้ที่ตัวเราครับ..ต้องคิดดี..ทำดี..มีความอดทน..ใช้สติปัญญาในการพิจารณาไตร่ตรองในการแก้ไขปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นครับ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท