ลองทำอะไรให้ช้าๆ ดูบ้าง


"ที่นี่เราไม่ได้ใช้เวลาเป็นตัววัดคุณภาพ"

           ชีวิตทุกวันนี้มีแต่ความรีบเร่ง เร่งด่วนอยู่ตลอดเวลา เร่งกันเรียน เร่งกันเดินทาง เร่งกันใช้ชีวิต เร่งกันส่งข้อมูล เช่นการทานอาหารเราก็มี Fast Food พอขับรถ เราก็มีช่อง Fast Lane (ช่องทางด่วน) พอเรียนหนังสือเราก็มีช่องทางลัดเรียนจบได้เร็ว เช่นสอบเทียบ ไปหาหมอเราก็พบหมอเร่งตรวจคนไข้

            ผมได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิถีชีวิตของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งชื่อโรงพยาบาลด่านซ้าย ตอนที่ผมไปเรียนรู้ ผมถามเค้าว่า "ที่นี่มีการกำหนดตัวชี้วัดคุณภาพไหมครับ ว่าการจ่ายยาให้คนไข้ คนไข้ต้องรอนานแค่ไหนถึงจะได้ยา" คำถามเหมือนจะสอบถามถึงความรวดเร็วของการให้บริการ

           แต่คำตอบที่เจ้าหน้าที่ระบบคอมพิวเตอร์พิวเตอร์ของโรงพยาบาลด่านซ้ายตอบกลับมา กลับเป็นคำที่ทำให้ผมต้องจำติดหูไปนาน "ที่นี่เราไม่ได้ใช้เวลาเป็นตัววัดคุณภาพ" คนไข้แต่ละคนเราไม่สามารถกำหนดเวลาได้ บางคนเข้าใจเร็ว 5 นาทีก็สามารถเข้าใจวิธีการรับประทานยา แต่บางคนต้องพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบ อธิบายกันซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะเข้าใจวิธีการใช้ยา "ผมว่าบางทีเราไม่รู้จะรีบเร่งไปทำไม ที่นี่บางครั้งเราต้องเปลี่ยนมาใช้ชีวิตช้าๆ ลงบ้าง" ทำอะไรให้มันช้าๆ ลง ผมว่าชีวิตมันรีบเร่งเกินไป คำพูดของหัวหน้าฝ่ายคอมพิวเตอร์จึงเหมือนจะตอกกลับคำถามของผมว่า บางครั้งไม่ใช่ว่าความรวดเร็วเท่านั้นที่จะบ่งบอกเรื่องคุณภาพ บางครั้งการบริการที่มีคุณภาพก็ต้องการความช้า ความใส่ใจ เหมือนอย่างที่การใส่ใจบริการกับคนไข้ของโรงพยาบาลด่านซ้าย นี่เอง

           เมื่อวานผมไปเลือกหนังสือเล่มหนึ่งให้เพื่อน หลังจากเปลี่ยนใจไม่ได้ส่งหนังสือ เรื่อง "นักสร้างแรงบันดาลใจขั้นเทพ" ของนพ.โหว เหวิน หย่ง หนังสือที่ประธานาธิบดีของไต้หวันแนะนำให้ทุกคนอ่าน มาให้ เพราะผมไม่รู้ว่าเค้าจะเป็นนักอ่านหรือไม่ ส่งหนังสือแบบนี้มาเดี๋ยวจะหาว่าเป็นเด็กหรือเปล่า เพราะหนังสือเล่มนี้ ผมเองซื้อให้เจ้าลูกชายสองคนอ่าน

           ระหว่างเดินในร้านหนังสือจุฬา ผมแสกนหนังสือและ ประเมินผู้ที่ผมจะเลือกหนังสือให้ว่าเค้าเป็นนักอ่านประเภทไหนกันนะ ทั้งๆที่ผมเป็นคนทำกิจกรรมเลือกหนังสือให้เพื่อนอ่าน [http://rujroadk.multiply.com/journal/item/3/3] แต่เมื่อคราที่ผมจะต้องเป็นผู้เลือกหนังสือให้คนอื่นอ่าน มันกับเป็นเรื่องที่ยากยิ่งที่เราจะเดาใจคนที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยกันนักว่าเค้าจะมีนิสัยอย่างไร ผมเลือกหนังสือที่คนทั่วไปอ่านกันก่อนดีกว่า ผมเดินไปที่หนังสือนิยาย เลือกเปิดๆดู โอ้โฮ เล่มมันโตจัง เค้ารับไปแล้วจะอ่านไหมเนี่ย เล่มก็โต ส่งไปคงเสียค่าส่งหลาย อิอิ อย่ากระนั้นเลย ไปหาเรื่องสั้นดีกว่า

           ว่าแล้วผมก็เดินไปหยุดหน้าชั้นหนังสือเรื่องสั้น เปิดเลือกดูอยูหลายเล่มเชียว เอ๊ะ ! ถ้าส่งหนังสือนี่ไปเค้าจะหาว่าเราส่งหนังสือนอกเวลามาให้อ่านหรือเปล่า ความคิดของผมแล่นไปแล่นมาไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี แต่ก็หยิบหนังสือเรื่องสัน "ความสุขของกระทิ"  ซึ่งตีพิมพ์ครั้งที่ 75 "เอะ ! หนังสือนี่มีอะไรดีนะ ถึงตีพิมพ์ถึง 75 ครั้ง" ไม่เป็นไรอ่านเองก่อนแล้วกัน อ่านจบแล้วค่อยส่งต่อไป เดินวนไปวนมา ก็ได้หนังสือมาอีกสองเล่ม เป็นหนังสือท่องเที่ยว "ลัดทุ่งหญ้า ผ่าทุ่งน้ำแข็ง ตะลุยแชงกรีล่า" เป็นหนังสือที่พูดถึงการท่องเที่ยวเมืองยูนนาน ทริปที่ผมเพิ่งไปผ่านมานี่เอง ว่าแล้วก็เหลือบตาไปห็นหนังสือท่องเที่ยงหมู่เกาะสุราษฎร์ธานี หยิบมาเปิดๆ ภาพสวยดี เราจะมีโอกาสไปเที่ยวไหมเนี่ยสุราษฎร์ มันช่างไกลกันเสียเหลือเกิน สุราษฎร์ แต่ภาพในหนังสือสวยดี

         สุดท้ายได้หนังสือมาหลายเล่มเลย และผมไม่ลืมที่จะเวียนไปที่ ชั้นหนังสือเล่มที่ตั้งใจเลือกเอาไว้ที่จะส่งไปให้เพื่อน แต่วันนี้ไปรษณีย์ปิดแล้ว พรุ่งนี้ดีกว่าค่อยส่งไปให้ ผมนำหนังสือมาที่โต๊ะทำงาน เปิดๆ หนังสือที่เลือกมาดู เขียนโน้ตสั้นๆ ลงไปในหนังสือ แล้ววางไว้ รอวันรุ่งขึ้นที่จะส่งหนังสือไปถึงมือผู้รับ

            และแล้ววันที่ส่งหนังสือก็มาถึง ผมเดินไปที่บริการไปรษณีย์ในมหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่บริการไปรษณีย์ยกมือไหว้ "สวัสดีค่ะอาจารย์" "สวัสดีครับ" ผมตอบกลับไป เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ถามกลับมา "ส่ง ธรรมดา ส่งด่วน หรือลงทะเบียนดีคะ" ผมบอกกลับไปว่า "ส่งแบบธรรมดา ลงทะเบียนครับ" "ยี่สิบสองบาทค่ะ" เจ้าหน้าที่ตอบกลับมา ผมถามเค้ากลับไปว่า "ส่งธรรมดานี่กี่วันถึงครับ" เจ้าหน้าที่เค้าตอบกลับมาว่า "ประมาณเจ็ดวันค่ะ ช่วงนี้รถไปรษณีย์ไม่สามารถวิ่งกลางคืนได้ค่ะ ติดเคอฟิวส์" ผมนึกในใจ ว่า "เจ้าเคอฟิวส์จะส่งผลกระทบไปทั่ว ส่งมาถึงเมืองพิษณุโลกที่ห่างไกลจากสถานที่ที่เค้าทะเลาะกันตั้งไกล" ความจริงส่งด่วนก็ได้ แต่คำพูดที่สะท้อนอยู่ในหัวที่ว่า บางครั้งเราลองทำอะไรที่ช้าๆ บ้างก็ดีเหมือนกัน ทำให้ผมตัดสินใจไม่ส่งพัสดุแบบด่วนปล่อยให้หนังสือเดินทางไปตามกระบวนการอย่างที่ควรเป็น เดินทางอย่างไม่เร่งด่วนเพื่อถึงมือผู้รับ  เหมือนอย่างที่หัวหน้าฝ่ายคอมพิวเตอร์โรงพยาบาลด่านซ้ายได้พูดไว้

หมายเลขบันทึก: 361278เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 14:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 14:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

จริงด้วยครับอาจารย์ ชีวิตคนเราเร่งรีบเกินไปหรือเปล่า มีเรื่องขำร้ายๆๆมาบอก มีสถานพยาบาลที่หนึ่งคนไข้ยังไม่ได้พูดอะไรเลย คุณหมอสั่งยาให้แล้ว ก๊ากๆๆๆๆทำไมไวจัง ฮ่าๆๆ อาจารย์สบายดีนะครับ พยายามพิมพ์ช้าๆๆนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

        คราแรกที่ผมเห็นว่ามีคนมาคอมเม้น ผมก็คาดเดาว่าใครกันน้าที่มาอ่านบันทึก แต่แล้วชื่อขจิตก็ผุดขึ้นในสมอง ต้องขจิตแน่ๆ พอคลิกตามเข้ามาก็ใช่จริงๆ ขอบคุณนะครับสำหรับ คอมเม้นที่ไม่ทิ้งกันให้เดียวดาย

ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆอาจารย์ งานยุ่งไหม

 แวะมารับสาระดีๆ ค่ะ   ขอบคุณมากค่ะอาจารย์

"ลองทำอะไรให้ช้าๆ ดูบ้าง"   ^__^

 หลักสำคัญหนูคิดว่า คือ การทำใจค่ะ.
 หากใจมันรับได้เสียแล้ว....อะไรก็ไม่ช้า...อะไรก็ไม่เร็ว...มันคงมีแต่ความพอดี.
 
 แต่ตอนนี้ทำใจลำบากค่ะ...พอเครียดแล้วความคิดตัน
 เร่งเกินไปก็ไม่ดีใช่มั้ยคะอาจารย์   แต่มนต์ก็ยังทำอยู่ทุกวันนะคะ.
 

 

สวัสดีครับอาจารย์

   - ยุคนี้ทำอะไรต้องรวดเร็วไปหมด แต่ผมเชื่อว่าเรื่องภายนอกเราหยุดไม่ได้ มีแต่ตัวเราเองที่ต้องฝึกให้มีความสงบภายในบ้าง

  

ช้า ช้า ได้พร้าเล่มงาน ช้า ช้า ช้า ได้พร้าขวานทอง

อยากอ่านหนังสือ ความสุขของกระทิ ที่ตีพิมพ์แล้วตั้ง 75 ครั้ง

สวัสดีค่ะอาจารย์ ทำอะไรช้า ๆ ทำให้เรามีสติดีกว่ารีบค่ะ ยิ่งรีบยิ่งลืม แล้วก็เหนื่อยด้วยค่ะ อยากไปแชงกรีล่า อีกค่ะ เพราะน้องปอนด์บอกว่าสวยมาก ถ้ามีโอกาสคงได้ไปอีก ความสุขของกะทิอ่านแล้วค่ะ อ่านแล้วมีความสุขดีค่ะ

หวัดดีค่ะ อยากให้พี่หนึ่งเลือกหนังสือให้อ่านมั่งจัง อยากจะรู้ว่าจะเลือกหนังสือแบบไหนให้วีนอ่าน

สวัสดีวีน ไม่ได้เจอกันนานเลย เปลี่ยนเบอร์โทรไปแล้วมั้ง เมลมาคุยกันบ้าง

ท่านอาจารย์ค่ะ ถ้าช่วยชีวิตช้าๆคงตายแน่ๆช่วยเร็วยังไม่ค่อยจะรอด...

หนูเชื่อโบราณนะคะช้าๆ ได้พร่าเล่มงาม งานวิจัยเลยไม่ไปไหน ฮิๆ...

ท่านขจิตคอมเม้นน่าใจหาย ยุคนี้ยังมีอีกหรือคะ

- ขอบคุณแง่มุมที่นำมาแบ่งปันครับ บางทีการทำอะไรเนิบช้า กลับเห็นคุณค่าของชีวิตเรามากขึ้นครับ

- ผมเคยอ่านหนังสือ ของ พระอาจารย์ ไพศาล วิสาโล เรื่อง เมื่อโลกหมุนช้าลง ท่านได้ให้แนวคิดในการใช้ชีวิตได้ดีมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท