๕๗๐.คุณค่าของของนักเรียน


       วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓  ให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ นั่งล้อมวงกันถามสารทุกข์สุกดิบ  และผลัดกันเล่าประสบการณ์ของการปิดภาคเรียน  โดยเริ่มที่ครูเล่าก่อนเป็นการนำทางพร้อมกับประสบการณ์ แนวคิด และบทสรุป ทำให้ทราบว่านักเรียนส่วนมากมีโอกาสไปทำงานรับจ้างหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวเป็นต้นว่า

        คนแรกเล่าว่า "ได้ไปรับจ้างแบกสับปะรดขึ้นรถบรรทุก ๑ คันรถได้ค่าจ้าง ๖ คนต่อ ๑๕๐๐  บาทเฉลี่ยคนละ ๒๕๐ บาท   ประสบการณ์ที่ได้คือความอดทนต่อเพื่อนกินแรง ได้เรียนรู้การเอารัดเอาเปรียบและไม่จริงใจ  เป็นงานหนักแต่คุ้มกับเวลาเพราะไม่นานก็สามารถทำได้เสร็จรวมแล้วได้ค่าจ้าง ๒๕๐๐  บาท แบ่งให้แม่ ๒๐๐๐ บาทนอกนั้นนำไปซื้อรองเท้ากีฬาและกระเป๋าใส่หนังสือ"

        คนต่อมาเล่าว่า "ได้ไปรับจ้างเฝ้าโต๊ะสนุกเก่อร์ให้พี่สาว มีความเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายและอดทนต่อการนอนดึก   ได้พบเจอแต่คนขี้เมา  สูบบุหรี่  คนที่มีนิสัยก้าวร้าว พูดจาไม่สุภาพ  และส่งเสียงเสียงดังโวยวาย ท้าตีท้าต่อย และไม่ควรเอาอย่างคนเหล่านี้ ก่อนเปิดเรียนพี่สาวให้ค่าจ้าง ๕๐๐  บาท  นำเงินไปให้แม่ทั้งหมด"

         กลุ่มนี้มีจำนวนอีกหลายคนช่วยกันเล่าว่า "ได้ไปรับจ้างขุดบ่อสำหรับปุ๋ยหมัก  และบรรจุปุ๋ยลงถุงได้ค่าจ้างวันละ ๒๐๐ บาท มีความรู้สึกเหนื่อยและเป็นงานที่หนักมาก  ได้เห็นแบบอย่างของคนที่ไม่มีงานทำเนื่องจากเขาเรียนมาน้อยเพราะเป็นคนไม่ตั้งใจเรียนก็จะได้ทำงานหนักประเภทนี้ ส่วนเงินที่ได้บางคนนำมาให้แม่ หรือให้ยายทั้งหมดไม่เคยเก็บไว้เอง  บางคนก็เก็บไว้ใช้เองเพียงเล็กน้อย"

        คนหนึ่งนั้นพ่อและแม่ทำงานรับเหมาก่อสร้าง  จึงไปช่วยพ่อแม่ คิดว่าเหนื่อยหรือเป็นงานหนัก รู้สึกมีความภูมิใจที่ได้เรียนรู้จากที่พ่อสอนให้ช่วย  โดยพ่อแม่บอกให้ช่วยทำอะไรก็ทำตาม  ตอนกลับแม่ให้เงินมา ๒๐๐๐  บาทได้มอบไว้กับยายทั้งหมด

        แต่คนนี้เล่าว่า "ไปช่วยพ่อซื้อเหมาผลไม้ ปีนเก็บผลไม้และนำผลไม้ไปเร่ขาย  หากว่างจากการขายผลไม้ก็ไปรับจ้างขุดหลุมปลูกกล้วย  ได้รับรู้ว่าพ่อรัก  เพราะวันหนึ่งพ่อถามว่า"เหนื่อยไหมลูก  ค่อย ๆ ทำไปหากทำบ่อย ๆ ก็จะเกิดการเคยชินไม่ได้รับเงินจากพ่อเพราะเงินทุกบาททุกสตางค์พ่อนำมาให้แม่ทั้งหมด  ประสบการณ์ที่ได้ทำให้พบคนหลายประเภทส่วนมากอยากได้เยอะ ๆ และต่อราคา  วันไหนขายดีไม่นานก็หมด  ถ้าขายไม่ดีก็ขับรถไปขายยังที่อื่น ๆ แต่ก็ขายหมดและมีกำไรทุกวัน"

       นักเรียนหญิงทั้งชั้นมี  ๔ คนและมีเพียง ๑ คนที่ไม่เคยช่วยพ่อแม่ทำงานหาเงิน  เพราะติดตามพ่อแม่ไปทำงานโรงงานที่กรุงเทพ  แต่ละวันนอนดูโทรทัศน์รอพ่อแม่ที่บ้านเช่า  บางวันก็ขอเงินพ่อแม่ไปเที่ยวห้างใกล้ ๆ ที่ทำงานของพ่อแม่  ตอนกลับบ้านพ่อแม่ให้เงินมา ๓๐๐๐  บาทนำเงินมาให้ยายเป็นค่าใช้จ่าย ๒๕๐๐ บาทและเก็บไว้ใช้เอง ๕๐๐  บาท

        คนหนึ่งเล่าว่า "ได้ไปช่วยแม่ขายข้าวโพดต้มที่รังสิต  วันที่ขายดีก็ได้กลับที่พักรวดเร็ว  วันขายไม่ดีก็อาจกลับดึก  ประสบการณ์ที่ได้รับ  ได้พบเห็นคนมากหน้าหลายตา  คนซื้อที่อยากได้ของมาก ๆ และตำหนิว่าข้าวโพดอ่อนบ้างแก่บ้าง  ต่อรองราคาอยากได้แถมบ้างหรือลดราคาบ้าง  รู้สึกสงสารและเห็นใจพ่อแม่ที่ทำงานหนัก  ไม่มีเวลาพักผ่อน  ก่อนเปิดเรียนพ่อพามาส่งให้อยู่กับคุย่าและให้เงินไว้กับย่า  ๓๐๐๐ บาท"

      นักเรียนหญิงอีกคนบอกว่า" ไม่มีโอกาสออกไปนอกบ้าน  เพราะที่บ้านเป็นร้านขายของต้องช่วยพ่อแม่ขายของและดูแลน้อง ๆ ที่ยังเล็ก  ประสบการณ์ที่ได้รับคือต้องทำงานว่องไว  คนมาซื้อของบางคนก็จ่ายเงินสดบางคนก็จ่ายเงินเชื่อ  และเชื่อแบบทับถม  เปิดเรียนแม่ให้ตังค์มาใช้จ่ายเป็นรายวัน"

       คนสุดท้ายเล่าว่า "ไปช่วยพ่อแม่เลี้ยงน้องที่บ้านพักคนงานก่อสร้าง  ทำงานบ้าน ซักผ้าและทำอาหารรอพ่อแม่  ประสบการณ์ที่ได้รับเห็นผู้ชายและผู้หญิงทุกวัยดื่มสุรามึนเมา  พูดจาไม่สุภาพ และเห็นพ่อแม่รวมทั้งคนงานอื่น ๆ ทำงานหนัก  เมื่อเงินออกทำให้ได้รับน้อยเพราะเบิกเถ้าแก่มาใช้ก่อน" 

       สุดท้ายนักเรียนช่วยกันสรุปว่า "การทำงานแม้จะหนักและเหนื่อยเมื่อวันเวลาผ่านไปก็หายไปไม่รู้สึกเช่นนั้นอีก  ถือว่าประสบการณ์เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่  ได้เห็นความแตกต่างของผู้คน  ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งไหนควรจดจำเป็นเป็นแบบอย่าง  และมีความภาคภูมิใจที่ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานและรู้ว่าตัวเองทำตัวมีคุณค่า

       นักเรียนมีความสุขทุกครั้งหากได้นั่งล้อมวงกันเล่าเรื่องและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตั้งใจช่วยกันสรุป มีความพอใจที่ครูนำข้อสรุปของทุกคนมาเรียบเรียงรวมเป็นข้อความเดียวกัน  และเสนอให้ครูนำไปเขียนเล่าผ่านบล็อกโดยตั้งชื่อว่า "คุณค่าของของนักเรียน"

 

หมายเลขบันทึก: 359829เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2010 13:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 09:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

เมื่อเด็กๆ..พี่ใหญ่สนุกมากในการช่วยเหลือพ่อ-แม่ทำงานบ้านและเลี้ยงน้อง..ภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เหล่านี้ค่ะ..

                   

   *   ดีมากเลยนะครับ  ให้เด็กได้พูดให้คนอื่นทราบ  ว่าเขาได้ทำอะไรบ้าง   ได้พัฒนาอะไรหลายๆอย่างเลยนะครับ   ที่สำคัญ Self-esteem

    *  นี่แหละครับครูกัลยาณมิตร  ทำให้เด็กเกิดโยนิโสมนสิการ

                     ขอบคุณพี่คิมแทนเด็กๆครับ

ดีมากเลยค่ะ ถือว่าเป็นการทำ KM ของเด็กๆได้เลยนะคะ ^^

สวัสดีครับท่าน คุณครูคิม

แวะมาอ่านคุณค่าของนักเรียนครับดีมากๆเลย :-))

และขอบคุณ ที่คุณครูแวะไปให้กำลังใจ น้องนิฌา...

สวัสดีค่ะ..พี่ครูคิมที่รัก

  • ภาพนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากน้องบุษราค่ะ
  • ช่วงนี้งานยุ่งนิดนึงงง...ดังภาพคค่ะ..อิ..อิ.
  • เลยไม่ได้เข้ามาเยี่ยมพี่คิมเลย..
  • ระลึกถึงเสมอนะคะ..(เดี๋ยวเข้ามาเก็บตกทีหลังค่ะ)
  • รักษาสุขภาพนะคะ..

ช่วงที่อยู่รร.เตรียมอุดม ไปช่วยแม่ซื้อของที่สำเพ็ง แบกของหนักมากๆและส่งไปขายที่บ้านนอกค่ะ

ประทับใจในความเอาใจใส่ของครูคิมที่มีต่อนักเรียนนะคะ

-สวัสดีครับครูคิม

-สบายดีนะครับ

-แวะมาเยี่ยมครับ

  • แวะมาเยี่ยมเยียนก่อน
  • ไปรับลูกจากเรียนพิเศษ  ค่อยเข้ามาอ่านนะคะ
  • เพิ่งบันทึก จันทร์ หญิง ธิติกานต์ ค่ะ http://gotoknow.org/blog/lanplang/359891

คนทุกคนมีคุณค่าอยู่ในตัวของเขาเอง.....

อยู่ที่ว่าจะนำออกมาใช้เมื่อไหร่และอย่างไร???

เด็กนักเรียนเขารักตัวเองนะคะเขาจึงแสดงให้เห็นว่าตัวของเขามีคุณค่า...เยี่ยมค่ะ

มาช่วยเชียร์อีกแล้วค่ะ..

สวัสดีค่ะคุณพี่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

การได้ช่วยพ่อแม่ทำงาน และการช่วยครู รู้สึกมีความภาคภูมิใจมากนะคะ  เด็กในปัจจุบันต้องสร้างความเข้าใจกับเขามาก ๆ ค่ะ 

ขอขอบพระคุณค่ะ

รู้สึกได้ถึงความสุข ความทุกข์ ความภูมิใจในผลตอบแทนที่แลกมาด้วยความยากลำบาก

เมื่อผมเป็นเด็ก ก็ไปรับจ้างเก็บมะนาวในสวนของป้าได้วันละ 20 บาท พอเป็นค่าขนมที่โรงเรียน

ความลำบาก สร้างความแข็งแกร่ง สอนคนให้เป็นคนครับ

สวัสดีค่ะท่านรองฯsmall man

Self-esteem  ทำให้คนเป็นคนดีและรู้จักตนเองมากขึ้นนะคะ  หากจะสอนเรื่องนี้พี่คิมว่า ควรเปิดโอกาสให้เด็กบอกความต้องการของตนเองบ่อย ๆ สอนว่าอย่างไหนเป็นความรู้สึก อย่างไหนเป็นอารมณ์สอดแทรกไปด้วย เพื่อลดการเกิดอคติค่ะ

ขอขอบพระคุณค่ะ

สวัสดีค่ะน้องBaby

ขอขอบคุณความเข้มแข็งของแฟนบล็อก  ที่มาให้กำลังใจสม่ำเสมอ  อยู่กับเด็ก ๆ มีความสุขค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเดชา

ขอขอบคุณค่ะที่มาให้กำลังใจเสมอ ๆ   การสอนนามธรรมให้เป็นรูปธรรมต้องใช้เวลาค่ะ

สวัสดีค่ะน้องจำเนียรวดี

ดีใจจังที่น้องสาวที่รักมาเยี่ยม  ห่างหายไปคิดถึงจังค่ะ  อย่าลืมไปช่วยกันโหวตเลือกเสื้อนะคะ

สวัสดีค่ะคุณหมอพ.ญ. อัจฉรา เชาวะวณิช

ขอขอบพระคุณ  คุณพี่หมอมากค่ะที่ให้ความกรุณามาให้กำลังใจ  เด็ก ๆ สมัยนี้มีความอดทนน้อยและขาดกตัญญูรู้คุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง

ขอขอบคุณค่ะ  สำหรับกำลังใจ  งานยุ่งมากไหมคะ  จะชวนไป...เที่ยวดอยมูเซอนัดแรกนะคะ

สวัสดีค่ะน้องอิงจันทร์

ขอขอบคุณค่ะ จัดได้รวดเร็วตามคำขอ...นะคะ  เข้าไปฟังมาแล้วหลายเที่ยวค่ะ  เริ่มจะฟังจนคุ้นหูแล้วนะคะ

สวัสดีค่ะkrugui Chutima

ขอขอบคุณค่ะ  ที่กรุณามาเติมเต็มให้ค่ะ  การสร้างความตระหนักและจิตสำนึก  ต้องเลือกที่จะจี้ทีละจุดค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเลิศฤทธิ์ ศรีหงส์

ประสบการณ์หนักเอาเบาสู้ ทำให้มีความเข้มแข็งและอดทนค่ะ  ขอขอบคุณที่มาเติมเต็มกับชีวิตมีคุณค่าค่ะ

สวัสดีค่ะเกษตร(อยู่)จังหวัด

สบายดีไหมคะ  พี่คิมเปิดเรียนสัปดาห์แรก...หนักอึ้งค่ะ  แต่จัดการได้...มีความสบายใจพอดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท