กลับมาอีกครั้ง


...ใครที่ไม่เคยเจ็บปวดคงไม่รู้ว่าความเจ็บมันทรมานทั้งกายและใจแค่ไหน คนที่ไม่เคยอยู่ในสภาพเดินขาลาก ขาไม่มีแรงแทบก้าวขาไม่ออก คงไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าความรู้สึกต่อภาพลักษณ์และสมรรถภาพของตนเองนั้น มันได้ถูกทำลายให้รู้สึกเสื่อมถอยลงไปแค่ไหน ...

 

        หายตัวไปนาน เพราะติดภารกิจเข้านอนรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 10 กพ.53  เกือบสองเดือนในโรงพยาบาล ในที่สุดก็ได้สิ้นสุดลงด้วยการตัดสินใจรับการผ่าตัด ยังนึกถึงตัวเองห้วงเวลาที่อยู่ในระหว่างการตัดสินใจนั้นว่าช่างยากลำบากเหลือเกิน เพราะข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับการรักษาคือความเสี่ยงต่อความล้มเหลว เสี่ยงต่อการผ่าตัดฟรี ทั้งยังแอบถูกกล่าวหาว่า "อยากผ่าตัด อยากหาเรื่องเจ็บใส่ตัว"  แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวว่าขอผ่าตัดเถอะ ทั้งที่จริงๆแล้วไม่ได้อยากผ่าเลย ใครเล่าอยากหาเรื่องเสี่ยงเจ็บตัว แต่เป็นเพราะได้คิดว่า ไม่ว่าการผ่าตัดจะจะสำเร็จหรือล้มเหลวอย่างน้อยก็ได้ทำอะไรสักอย่างในการสู้กับปัญหา ไม่ใช่ยอมรับชะตากรรมและความทรมานอย่างไร้ความหวัง

         ใครที่ไม่เคยเจ็บปวดคงไม่รู้ว่าความเจ็บมันทรมานทั้งกายและใจแค่ไหน คนที่ไม่เคยอยู่ในสภาพเดินขาลาก ขาไม่มีแรงแทบก้าวขาไม่ออก คงไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าความรู้สึกต่อภาพลักษณ์และสมรรถภาพของตนเองนั้น มันได้ถูกทำลายให้รู้สึกเสื่อมถอยลงไปแค่ไหน ทั้งๆที่พยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง ใช้ธรรมะเข้าข่ม ปล่อยวางต่อสังขาร แต่มันก็ยังมีหลายครั้งที่ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาให้รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ค่า ยามที่ไม่สามารถทำงานได้

         แต่อย่างไรก็ตาม ... เกือบสองเดือนที่อยู่ในโรงพยาบาล เราก็ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนป่วยมากมาย นึกๆดูแล้ว..บางทีสิ่งนี้อาจเป็นการเตือนจากสวรรค์ให้เราได้เข้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความคิด ความเจ็บปวด โดยการเป็นคนป่วย เพื่อนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นั้นมาช่วยเหลือผู้ป่วยในวันข้างหน้าก็อาจจะเป็นได้

        หลังจากผ่าตัดมาเดือนกว่าๆ และพักฟื้นหลังผ่าตัดไปหนึ่งเดือนเต็มๆ ในที่สุดก็ได้กลับมาทำงานต่างๆได้เกือบเป็นปกติเสียที  ทำให้รู้สึกดีใจที่ตนเองตัดสินใจเลือกทางสายนั้น ทำให้รู้สึกว่าไม่มีอุปสรรคใดที่มันจะผ่านพ้นไปโดยง่ายหรอก เพราะชีวิตบางครั้งก็ต้องยอมเสี่ยง และการเสี่ยงก็ต้องอาศัยความกล้าและกำลังใจอย่างมากพอดูเหมือนกัน

          และสุดท้ายนี้ สิ่งที่จะลืมไปไม่ได้เลยนั่นก็คือคงต้องขอขอบพระคุณ อจ.หมอชานินทร์ บุญตั้งใจ ที่ได้มี "ความเห็นและทางเลือกที่แตกต่าง" จากแพทย์ท่านอื่น ร่วมหาหนทางสู้ให้กับคนป่วยอย่างไม่ยอมแพ้ หรือรอแต่ยอมรับชะตากรรม แม้อาจารย์จะบอกว่า "การผ่าตัดหายไม่หาย ห้าสิบห้าสิบ แล้วแต่ว่าพี่จะผ่าหรือไม่ ถ้าพี่จะเลือกจะผ่า ต่อให้คนอื่นไม่ผ่าให้ ผมก็จะผ่าให้เอง"  คำพูดนี้บางคนฟังอาจรู้สึกใจฝ่อ เพราะอาจารย์ได้พูดบอกผลข้างเคียงมากมายที่อาจจะเกิดหลังการผ่าตัด แต่มันกลับทำให้เราได้เข้าใจและได้คิดอะไรๆขึ้นมาอีกหลายอย่าง ยามเมื่ออยู่ในบทบาทของคนป่วยเสียเอง

            " สิ่งสำคัญเมื่อรับการรักษา นั่นคือการมีศรัทธาต่อผู้ให้การรักษา "

            ณ เวลานั้นเราบอกกับตัวเองว่า ไม่ว่าหลังผ่าตัดจะเป็นอย่างไร เราก็ยินดียอมรับสิ่งที่เกิดจากการตัดสินใจของเราเอง เพราะเราต้องเชื่อ ว่าแพทย์ผู้รักษาย่อมจะต้องพยายามทำอย่างดีที่สุดต่อผู้ป่วยอยู่แล้ว เหมือนกับที่เวลาดูแลคนไข้ เราก็ต้องพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุด อย่างสุดกำลังกาย..กำลังความคิด และกำลังจิตใจของเราเช่นกัน

            ขอบคุณที่ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี เดือนกว่ามานี้ไม่ต้องระดมกินยาและฉีดยาแก้ปวดอีกแล้ว อีกทั้งภาวะแทรกซ้อนที่คาดว่าอาจจะมี ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะยังรับประกันไม่ได้ว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นจะไม่กลับมาเยือนอีกต่อไป แต่อย่างน้อยที่สุด ณ เวลานี้ เราก็รู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่กลับมาแล้วล่ะ

         

 

 

หมายเลขบันทึก: 359409เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2010 17:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2012 09:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • ขอให้พี่จูนหายไวๆๆ
  • พี่จูนหายไปนานมากๆๆคิดถึงๆๆ
  • ใช่ครับต้องมีศรัทธาในการรักษา...

ไม่เคยคุย ไม่เคยรู้จัก แต่อยากเป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ ๆ

ดีใจที่เห็นบันทึกอีก

ครั้งต่อไปถ้าจัดเรื่อง เมื่อผู้ให้บริการเป็นผู้รับบริการ จะขอจองตัวไว้นะครับ

โอ้โห บ้านใกล้กันนิดเดียว อยู่ก็ชั้นเดียวกัน กลับไม่รู้เรื่องเลยแฮะ

P
  •  ขอบคุณค่ะ
  • คิดถึงน้องขจิตเช่นกัน
  • สบายดีนะคะ ?
P
  • ขอบคุณมากค่ะ
  • ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ^_^
P
  • สวัสดีค่ะอาจารย์ ^^
  • ตอนไปทำ CT MRI เคยแอบเห็นอาจารย์ แต่อยู่ในชุดคนไข้เลยไม่กล้าทัก แหะๆ เขิลลลล์
  • เรื่อง เมื่อผู้ให้บริการเป็นผู้รับบริการ ที่จองไว้ ขอแปะโป้งไว้ก่อนนะคะ คิดอยากจะเขียนอยู่เหมือนกัน ^^
P
  • แหะๆๆ นั่นสิเนอะคะ
  • แอดมิทอยู่ที่ 4/8 เดือนกว่าเลยค่ะ (ก่อนจะไปนอนที่พิเศษออร์โธฯช่วงผ่าตัด) ส่วนใหญ่ออกมาเดินร่อนนอกห้องช่วงกลางคืน ก็เลยไม่ได้เจอกับอาจารย์ไงคะ อิอิ
  • พี่จูนมาอีกรอบ หายดีแล้วใช่ไหมครับ ดีใจพบพี่ในอนุทิน

    • สวัสดีค่ะ
    • แวะมาทักทายและได้นำภาพดอกไม้สวย ๆ มาฝากกันค่ะ
    • ขอบคุณค่ะ

                             

    P ขจิต ฝอยทอง สวัสดีค่ะ 

    • แหะๆยังไม่หายหรอกค่ะ แต่ถือว่าดีระดับหนึ่ง
    • ดีใจที่ได้มาเจอกันอักครั้งนะคะ
    P
    • ขอบคุณมากค่ะ
    • ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
    • ดอกไม้สวยๆ มองกี่ทีก็สดชื่นเนอะ ^^
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท