น้ำใสใหลเย็นเห็นตัวปลา แวกว่ายปทุมาอยู่ไวไว


คำว่าแสวงบุญของผมเกิดจากการสะกิดใจในที่ๆผมไป และได้ทำความดีในที่ต่างๆไม่มากก็น้อยเพราะฉะนั้นคำว่า “แสวงบุญ” ของผมจึงแปลกๆกว่าของคนอื่นหรืออย่างน้อยก็แปลกกว่าบางท่านที่อาจคิดว่า การที่พระไปเที่ยวที่พัทยานั้นจะเป็นบุญได้อย่างไร ก็ต้องตอบตามคำสอนว่า บุญนั้นเกิดขึ้นโดยไม่ยึดกับสถานที่ เวลา บุคคล แต่บุญนั้นอยู่ที่ใจหรือเจตนาในการกระทำครับ

การเที่ยวแสวงบุญของผมที่พัทยานั้น ตอนที่ไปตามที่นั้นๆก็นึกได้มากมายว่าจะเขียนบันทึกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอกลับมาถึงวัดแล้วหาคิดออกไม่ นึกถึงนักวาดรูปที่นั่งวาดตามสถานที่จริงๆเข้าใจว่าตอนที่เราอยู่สถานที่จริงแล้ว จินตนาการมันไร้ขอบเขตมากกว่า

คำว่าแสวงบุญของผมเกิดจากการสะกิดใจในที่ๆผมไป และได้ทำความดีในที่ต่างๆไม่มากก็น้อยเพราะฉะนั้นคำว่า “แสวงบุญ” ของผมจึงแปลกๆกว่าของคนอื่นหรืออย่างน้อยก็แปลกกว่าบางท่านที่อาจคิดว่า การที่พระไปเที่ยวที่พัทยานั้นจะเป็นบุญได้อย่างไร ก็ต้องตอบตามคำสอนว่า บุญนั้นเกิดขึ้นโดยไม่ยึดกับสถานที่ เวลา บุคคล แต่บุญนั้นอยู่ที่ใจหรือเจตนาในการกระทำครับ

ก่อนอื่นต้องรำลึกไปถึงชาวพุทธที่ไปอยู่ต่างแดนอย่างยุโรปฯเป็นต้น เมื่อไปอยู่ทำมาหากินนานเข้าก็เกิดคิดถึงบ้านเก่าเมืองไทยแต่โบราณ เคยทำบุญตักบาตรหยาดน้ำ ไปที่ไหนๆในเมืองไทยก็เห็นแต่วัดวาอารามงามเด่นเป็นสง่าราศีมองแล้วทำให้เกิดรู้สึกภูมิใจในความเป็นไทย เป็นพุทธจนเกิดคำนิยามว่า “สยามเมืองยิ้ม”  อยากเอากลอนของท่านสุนทรภู่มาเติม เพราะเคยได้ฟังกลอนของท่านเกี่ยวกับวัดแต่ว่านานแล้วจำไม่ได้ ได้แต่เสียดายค้นตามหนังสือก็ไม่พบ

 

จะพรรณนาถึงวัดวาอารามใหญ่           สิ่งภูมิใจไทยเราเผ่าสยาม

คนเขารู้ เมืองยิ้มระบือนาม                  ยิ้มสยามขานไกลในโลกา

ยิ้มสยามงามในใจให้สำนึก                   ยิ้มให้ลึกตรึกเห็นเป็นสง่า

ยิ้มแบบนี้ได้ในธรรมพระสัมมา              ธรรมดายิ้มได้เพราะมีธรรม

ตีความว่า ภูมิใจไทยยิ้มสยาม               ทุกเขตคามงามธรรมทุกทุกส่ำ

สัพสัตว์ชมชื่นหมื่นพระธรรม                บ้านเมืองล้ำด้วยอารามละลานตา

แม้นไม่มีมากมายเหมือนสมัย               เดินไปไหนไป่แสนแหงนระฟ้า

หลังคาโบสถ์กระดิ่งฟังดังแว่วมา          เหมือนเหมือนว่าอยู่สวรรค์ชั้นอินพรหม

เอาละครับนี่เป็นกลอนที่หัดแต่งคงไม่สละสลวยเท่าไหร่แต่คงได้ความหมายพอสมควรคนโบราณสมัยพ่อแม่นั้นความภูมิใจต่อแผ่นดินบ้านเกิดมีพอสมควรแม้จะไม่แสดงออกเหมือนคนเดี่ยวนี้ที่ป้องปากตะโกนทุกๆวันว่ารักชาติ

คนสมัยเก่าพ่อแม่ของเรานั้นท่านเอาวัดวาอารามเป็นหน้าเป็นตาของบ้านเมืองครับ ช่วยกันสร้างจนปัจจุบันได้เป็นเอกลักษณ์ให้ลูกหลานได้ดูชม ภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนที่ไม่ค่อยมีเครื่องมือทันสมัย ตลอดจนให้ต่างชาติได้นำไปพูดถึงความเป็นไทย เป็นรายได้นำเงินเข้าประเทศปีละไม่น้อยเลย

ฝรั่งมังฆ้องนี่เขาเป็นคนจริงถือสัจจ์ เวลาเขาชอบอะไรก็ชอบแบบหมดเปลือกคือไม่ต้องเหลือเปลือกให้ปลอกเผื่อมีอะไรช่อนอยู่อีก ผมเห็นนักท่องเที่ยวที่พัทยาเขาพูดถึงเมืองไทยอย่างภาคภูมิเสียยิ่งกว่าคนไทยอีกขอรับ จนถึงขนาดคุณแอ๊ด คาราบาวเอาไปร้องเป็นเพลงเปรียบเปรย ชื่อเพลงว่า เวล คัม ทู ไทยแลนด์

ทอม ทอม แวร์ยูโกลาสไนท์
(ไอเลิฟเมืองไทย ไอไลคพัฒน์พงษ์)
น้องนางคงทําให้ทอมลุ่มหลง
(ไอเลิฟพัฒน์พงษ์ ไอเลิฟเมืองไทย)
จริง จริงเลยเนี่ย

เที่ยวเมืองไทยได้กําไรชีวิต
ได้ผลผลิตแหล่งวัฒนธรรม
คุ้มค่าเงินทองเป็นกอบเป็นกํา
ดูสิ่งสูงลํ้าโบรํ่าโบราณ
เศรษฐกิจเบิกบาน ปีการท่องเที่ยวไทย
แหลมทองของไทยมีของดี
ธรรมชาติพอมีใครเห็นเป็นติดใจ
วัดวาอารามวัฒนธรรมยิ่งใหญ่
ประเพณีไทยน่าตื่นใจลุ่มหลง
อย่างงานสงกรานต์และลอยกระทง
ยังคงเชิดหน้าชูตา
ฝรั่งบังยุ่น มายกพลขึ้นบก
ศกนี้ปีนี้ปีเทียวท่องไทย
มาแอ่วกันโลด เที่ยวให้อิ่มหนําใจ
ลืมเรื่องเลวร้ายพักไว้สักปี
รัฐบาลเขาทําดี ประชาชีก็ชอบใจ
(สร้อย)

 ถึงในเนื้อเพลงฝรั่งจะบอกว่าชอบ พัฒน์พงษ์มาก แต่ก็มีไม่น้อยครับที่ชอบวัฒนธรรมของยิ้มสยาม

พูดถึงยิ้มคือยิ้มอย่างมีสุข                     ยิ้มอย่างพุทธฉ่ำใจในโลกหล้า

ยิ้มข้างในใจมีธรรมพระสัมมา              ไม่อิจฉายิ้มข้างนอกปอกขมใน

อันคนเราสมัยใหม่ไม่รู้ลึก                     คงไม่นึกยิ้มเฉยเฉยเป็นไฉน

ยิ้มต่อหน้าลับหลังคิดฝังใจ                   อาฆาตร้ายร้อยเล่ห์ลิ้นหลอกลวง

ยิ้มสยามงามในใจให้สำนึก                   ต้องรำลึกถึงข้างในใจหวงห่วง

ยิ้มพระธรรมงามน้ำใจจนล้นทรวง      คนทั้งปวงเห็นแล้วลืมไม่ลง

ก็เพราะโฉมที่น่ายลของเมืองไทยจึงทำให้คนต่างชาติตะวันตก ตะวันออกมาเยี่ยมอยู่ไม่ขาดสาย ก็เพราะความภูมิใจวัฒนธรรมยิ้มสยามที่มีความหมายอันลึกมากกว่าที่คิด คนไทยเมื่อไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เคยลืมสิ่งที่เขาเคารพอันทำให้จิตใจสงบสุขแสดงความสุขนั้นออกทางสีหน้า ความสุขสงบนั้นก็คือ พระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเอง

 

เมื่อความสุขความภูมิใจแท้ที่จริงแล้วคือพระธรรมคนทั้งหลายจึงต้องการสร้างที่อยู่ให้พระสงฆ์คือวัด เพื่อให้พระสงฆ์ได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดคำสอนคือพระธรรมนั้นสู่จิตใจของชนทั้งหลาย

วัดวาอารามจึงเกิดขึ้นทั่วไปดั่งที่เราเห็น ในอดีตกล่าวกันว่าวัดคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต คือหัวใจของชุมชล ของประเทศสยาม คือวิถีที่เคลื่อนไปอย่างงดงามสงบเย็นภายใต้ร่มแห่งพระธรรมดั่งในศิลาจารึกว่า

 “คนในเมืองสุโขทัยนี้ มักทานมักทรงศีล มักโอยทาน พ่อขุนรามคำแหงเจ้าเมืองสุโขทัยนี้ทั้งชาวแม่ชาวเจ้าท่วยปั่ว ท่วยนาง ลูกเจ้าลูกขุนทั้งสิ้น ทั้งหลาย ทั้งผู้ชายผู้หญิงฝูงท่วยมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาทรงศีลเมื่อพรรษาทุกคน เมื่อออกพรรษากรานกฐินเดือนหนึ่งจึงแล้ว เมื่อกรานกฐินมีพนมเบี้ยพนมหมาก มีพนมดอกไม้ มีหมอนนั่งหมอนนอน บริหารกฐินโอยทานแล่มีแล้ญิบล้าน ไปสวดญัติกฐินถึงเมืองอรัญญิกพู้น เมื่อจักเข้ามาเวียงเรียงกันแต่อรัญญิกพู้นเท่าหัวลานดํกลอยด้วย เสียงพาทย์ เสียงพิณ เสียงเลื่อน เสียงขับ ใครจักมักเล่น เล่น ใครจักมักหัว หัว ใครจักมักเลื่อน เลื่อน เมืองสุโขทัยนี้มีสี่ปากประตูหลวง เทียรย่อมคนเสียดกันเข้ามาท่านเผาเทียน ท่านเล่นไฟ เมื่องสุโขทัยนี้มีดังจักแตก”   (ประวัติศาสตร์ไทย ศาตราจารย์บังอร ปิยพันธ์)

บางทีเมื่อเราเดินมาจนสุดแล้วลองหันหน้ากลับไปมองตลอดทางที่มาหน่อยก็ดี เผื่อความคิดอาจจะแล่นแว๊บ เรียกว่าตั้งสติได้ในบัดเดียวนั้น เพราะได้เห็นการณ์ตามทางผ่านมาเตือนสติเข้าให้ ประเทศไทยเราตอนนี้สุดทางเดินหรือยัง หรือว่าจะเดินทุรังให้สุดทางก่อนค่อยมองเห็นซากของความเลวร้าย กลัวว่าเมื่อถึงวันนั้นอาจจะสายเกินการณ์ จะไม่เหลือแม้แต่ซากไว้เป็นอนุสรณ์สถานให้ระลึกถึง การเมืองทุกวันนี้ไม่ค่อยมีใครมองย้อนกลับไปหาเหตุว่าที่เป็นอย่างปัจจุบันนี้เป็นเพราะอะไร เหตุจริงๆนั้นเป็นเพราะอะไร แล้วก็แก้ที่เหตุเสียเรื่องก็จะงามเรียบร้อย

เอาละครับพูดเรื่องการเมืองมากไม่ได้เดียวจะเสียการ สรูปก็คือ คนเราไปอยู่ไหนก็มักแสดงให้เห็นเอกลักษณ์ บ่งบอกชาติภูมิ วัฒนธรรม ภาษา ความภูมิใจไว้ให้คนอื่นได้พบเห็น หรือทิ้งซากไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นว่า พ่อแม่ฯอยู่กันอย่างไรไม่ได้โง่เง่าเต่าล้านปีดังที่บางคนคิด จึงไปพัทยาในครานี้ก็มีวัดวาอารามมากมาย แม้ในเกาะล้านก็มีวัดไว้สำหรับเป็นที่พำนักจำวัดของภิกษุอยู่ ๒ แห่ง อยู่บนเขาแห่งหนึ่ง จึ่งเป็นที่มาของที่พักของเกล้ากระผมและเพื่อนสหธรรมิกได้อาศัยตลอดเวลาหลายวัน

นี่จึ่งนับว่าเป็นบูญของผมที่มีที่พัก และเป็นบุญคุณของชาวพัทยาฯที่มีต่อพระสงฆ์องค์เจ้า ขอให้ใจท่านทั้งหลายใสเย็นเหมือนน้ำที่หาดทราย อมิตตาพุทธฯฯฯ

 

                                                         

 

 

คำสำคัญ (Tags): #พัทยา
หมายเลขบันทึก: 359175เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2010 18:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท