ปัจุบันโลกแห่งความรู้ไร้ขีดจำกัดจริงๆ อยากรู้อะไร เข้าไปในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถที่จะหาความรู้นั้นๆ ได้อย่างครบถ้วนและละเอียดที่สุดเท่าที่ต้องการ โลกทุกวันนี้เปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของผู้รับความรู้ไปแล้ว คงมีแต่ผู้ให้ความรู้ที่ค่อนข้างจะเปลี่ยนยากมากๆ
ผู้เกี่ยวข้องกับผู้ให้ความรู้ ที่ชัดเจนที่สุดคือสถานศึกษาและผู้เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาทั้งหมด เริ่มตั้งแต่หน่วยของสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ เช่นโรงเรียนมัธยม ปัจจุบันนี้แตกต่างกันมาก โรงเรียนในชนบทโอกาสที่เด็กจะเข้าถึงความรู้เหล่านี้น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเด็กในเมือง ทำให้เด็กในชนบทขาดโอกาสทางเลือกที่จะเรียนรู้ไปโดยปริยาย ครั้นจะดูสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษา ผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยยังมีความเชื่อแบบฝังลึก ยากที่จะเปลี่ยนแปลง ว่าความรู้ต้องเกิดจากการสอนด้วยครู(อาจารย์) เป็นหลัก โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องการเรียนรู้ด้วยสื่อแทนครู จะได้รับการต่อต้านอยู่ลึกๆ ทุกที่ในมหาวิทยาลัยปิดทั้งหลาย
จากประสบการณ์ในการทำโครงการสื่อเสริมการเรียนการสอน จะต้องให้การยืนยันว่าสื่อนี้เป็นสื่อเสริมไม่ใช่สื่อหลัก ใครสักคนจะมีไหมที่บอกว่าให้ทำสื่อการเรียนการสอนที่เป็นสื่อหลัก โดยให้มีการสอนเสริมได้ไหม ? เรื่องนี้ไม่ใช่แนวคิดแปลกใหม่อะไร เพราะมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชและมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ใช้แนวคิดนี้ในการจัดการเรียนการสอน จริงอยู่ บางสาขาวิชาอาจต้องมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษในการให้ความรู้ให้แนวคิดแก่นักศึกษา แต่บางรายวิชาก็สามารถใช้สื่อการสอนแทนครูได้ หากนำแนวคิดเรื่องการใช้สื่อสอนแทนครูให้มากขึ้น ให้ครูทำหน้าที่สอนเสริมให้มากขึ้น มากกว่าการบอกความรู้เป็นหลัก หากทำเช่นนี้ได้วิกฤติเรื่องจำนวนห้องเรียนและปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ก็จะลดน้อยลง โอกาสการได้เข้าเรียนก็จะมีมากขึ้น บทบาทของครูต้องเปลี่ยนจากผู้ให้ความรู้เป็นบทบาทของผู้แนะวิธีการเรียนรู้ การกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนให้เหมาะสม หากสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาสามารถเปลี่ยนแนวคิดในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ เครือข่ายคอมพิวเตอร์และสื่อการสอนต่างๆ ก็จะได้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ใครละจะเป็นผู้กล้าที่ว่า
ไม่มีความเห็น