โรงเรียนทางเลือก


การศึกษาจุดขายแตกต่างกัน

โรงเรียนทางเลือก

     เมื่อวันเสาร์ ที่ 8 ที่ผ่านมานี้ อาจารย์ องค์คุลีมาล ได้เปิดวีดีโอ เกี่ยวกับโรงเรียนทางเลือกให้ดู โดยเป็นวีดีโอจาก รายการชีพจรโลก ตอน โรงเรียนทางเลือก ซึ่งดิฉันไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีโรงเรียนแบบนี้ด้วย แต่เป็นการดีมาก ที่อาจารย์องค์คุมาลเปิดให้ดู เพราะว่าพวกเราเรียนครู ต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนอยู่แล้ว

 

โรงเรียนแรกที่ได้ดูคือ โรงเรียนรุ่งอรุณ

      โรงเรียนรุ่งอรุณนี้ การเรียนการสอนจะเน้นเรื่องกระบวนการคิด  เน้นเรื่องการทำกิจกรรม เน้นการเรียนที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติและเป็นโรงเรียนทางเลือกแห่งแรกของประเทศไทย เริ่มเปิดตั้งแต่ ปี 2540 ยึดการเรียนตามศานาพุทธ จะฝึกนักเรียนให้มีความอดทด เช่นการที่ให้นักเรียนได้ลงมือทำนาปลูกข้าวด้วยตนเอง เพื่อที่จะสอนให้นักเรียนมีความอดทน แต่ปรากฏว่านักเรียนชอบการเรียนการสอนแบบนี้ จากการสัมภาษณ์นักเรียน นักเรียนบอกกว่าจะได้รู้ถึงความเหน็ดเหนื่อยของชาวนา ดังนั้นเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้นักเรียนได้รู้ถึงคุณค่าของการทำนาเป็นต้น

       

โรงเรียนที่สองที่ได้รับชมคือ โรงเรียนเพลินพัฒนา   

       โรงเรียน เพลินพัฒนานี้ จะเชื่อมโยงสิ่งต่างๆเข้าด้วยกันเช่น เรียนจริง ทำจริง ลงมือจริง  จะสอนให้เด็กทุกคนพยายามหาทางออกให้ตนเอง โดยเฉพาะการเรียนภาษา เช่น การเรียนแกรมม่า  การอ่านและการเขียน จะนำความรู้ต่างๆ มาเชื่อมโยงกัน เช่นคำว่ากริยา ก็จะให้นักเรียนแต่งประโยค คำว่า กริยา พร้อมกับแสดงท่าทาง    หลังจากทำกิจกรรม นักเรียนจะมาอภิปรายในห้อง และนักเรียนจะสนุกสนานกับเพื่อนๆที่ได้คุยกัน เรื่องกิจกรรมที่ได้ทำมา และจะได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์จากที่ครูได้สอนมาอีกด้วย                                                                                                                                        

 

โรงเรียนที่สามคือ  โรงเรียนปัญโญทัย                                            

      โรงเรียนปัญโญทัยนี้ จะเน้นการพัฒนาศักยภาพของคน นำแนวคิดของวอลดอร์ฟมาใช้และเอาแบบเรียนมาจาก ประเทศออสเตรีย การเรียนการสอนของโรงเรียนนี้ จะดูจากพื้นฐานของนักเรียนแต่ละคน เพราะว่าพื้นฐานของคนแต่ละคนต่างต่างกัน และจะให้อิสระกับนักเรียนว่าอยากเรียนอะไร แล้วให้นักเรียนไปศึกษาจริงแล้วทำมาเป็นรายงานส่ง และการสอนก็จะให้เหมาะกับวัยของผู้เรียนจะไม่ยัดเยียดให้เด็กจนเกินไป ให้เด็กรู้จักตนเอง แต่บางอย่างเด็กจะคิดได้เร็วกว่า ให้ความเป็นส่วนตัวให้กับเด็ก จะสอนให้เด็กสามารถใช้ได้ในชีวิตจริง จะเน้นการพูดให้เป็นธรรมชาติ และได้ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 14 ดูทีวี ทำให้เด็กมีความรับผิดชอบเกินวัย สอนให้แก้ปัญหาได้เป็นต้น                                         

      สรุปความแตกต่างของโรงเรียนทั้งสามแห่งนี้ ดังนี้ โรงเรียนรุ่งอรุณ จะเน้นเรื่องการคิด ยึดการเรียนตามหลักศาสนาพุทธ ส่วนโรงเรียนเพลินพัฒนา จะเน้นการเรียนควบคู่กับการกระทำเพื่อที่จะช่วยให้นักเรียนจดจำได้ดีขึ้น ส่วนโรงเรียนปัญโญทัยจะเน้นการพัฒนาศักยภาพของคน ในความคิดของดิฉันโรงเรียนทั้งสามแห่งนี้ มีจุดขายที่แตกต่างกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่าผู้เรียนจะสนใจที่จะเรียนอะไรมากว่ากัน.

หมายเลขบันทึก: 358204เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2010 12:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2012 10:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาทักทายในวันหยุดนักขัตฤกษ์  
  • วันนี้บุษราได้นำภาพสายน้ำเย็น ๆ มาฝากกันค่ะ         

                                                                              

สวัสดีค่ะ คุณบุษรา

ขอบคุณมากค่ะสำหรับรูปภาพสวยและสบายตา

ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะคะ

ถ้าว่างๆ เข้ามาแวะชมได้นะคะ ด้วยความยินดีค่ะ

  • มีสามโรงเรียนเองหรือครับ
  • ความจริงน่าจะมีโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก
  • สัตยาไส และอีกหลายโรงเรียนครับ
  • อาจารย์องฯ ใจดีไหมครับ
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

...ยายธีว่าน่าจะมีอีกซะหนึ่ง..รร.โรงเรียนที่ไม่ต้องจ่ายค่าเรียนที่แพงลิบลิ่ว...มีอาหารการกินที่แบ่งปันกันเองทำเอง..เรียนรู้วิธีเป็นอยู่ในธรรมชาติที่ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน...มีครูที่ไม่ติดประชุมอยู่เป็นประจำ..ให้โอกาศเด็กได้เรียนรู้และคิดได้ด้วยตนเอง....โรงเรียนนี้เรียกว่าโรงเรียน..ในฝัน...(ที่ยังไม่มีทางเป็นไปได้นะเจ้าคะ...ยายธีค่ะ)

สวัสดีค่ะ อาจารย์ ขจิต

ดิฉันไม่ทราบเหมือนกันนะค

แต่ที่อาจารย์องค์คุลีมาลให้ดูมีแค่ สามโรงค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณยายธี

เรซาเห็นด้วยนะคะ กับความคิดของคุณยายธี

ความคิดเราน่าจะตรงกันนะคะ

ว่างๆแวะเข้ามาอีกนะคะ

ด้วยความยินดีค่ะ

ขอบคุณค่ะ

โรงเรียนทางเลือก น่าจะเป็นโรงเรียนทางรอด ของระบบการศึกษาที่ล้มเหลวของประเทศในขณะนี้

ที่เน้นบูรณาการให้เด็ก เก่ง ดี และมีความสุข

แต่น่าเสียดาย ที่ปัจจุบันโรงเรียนในแนวทางนี้ ยังมีจำนวนที่น้อยมากๆ น่าจะไม่เกิน 1% ของโรงเรียนทั้งหมด

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ อ.นุ

หนูเห็นด้วยนะคะกับความคิดของอาจารย์

ที่อาจารย์บอกว่า โรงเรียนทางเลือก น่าจะเป็นโรงเรียนทางรอด

แต่หนูจะเป็นคนหนึ่งนะคะ ที่จะพยายามให้ นักเรียนที่หนูสอนให้เขาได้รับความรู้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ

ครายมาแซวครูอ่ะ 555 ... แจ้งอาจารย์ขจิต ... 3 โลง พอครับ 555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท